การประเมินคัดกรองภาวะเพ้อหลังผ่าตัดด้วยเครื่องมือ 4 'A' Test ฉบับภาษาไทย ในผู้ป่วยสูงอายุที่เปลี่ยนข้อสะโพกหรือข้อเข่า

บทคัดย่อ

วัตถุประสงค์ เพื่อประเมินผลการคัดกรองภาวะเพ้อหลังการผ่าตัดด้วยเครื่องมือ 4 ‘A’ Test (4AT)
ฉบับภาษาไทยและสำรวจความคิดเห็นของผู้ใช้เครื่องมือ
วัสดุและวิธีการ ผู้ป่วยสูงอายุที่เข้ารับการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าหรือข้อสะโพกจำนวน 69 คนได้รับ
การคัดกรองภาวะเพ้อหลังการผ่าตัดด้วยเครื่องมือ 4AT ฉบับภาษาไทย ผู้ป่วยที่ผลการคัดกรองเป็น
บวกได้รับการประเมินซ้ำโดยจิตแพทย์เพื่อยืนยันการวินิจฉัยโรคตามเกณฑ์ DSM-5 ผู้นิพนธ์เก็บข้อมูล
ร้อยละของผู้ป่วยที่มีภาวะเพ้อ ระยะเวลาในการนอนโรงพยาบาล และอัตราการตาย โดยเปรียบเทียบ
กับข้อมูลกลุ่มควบคุมในอดีตซึ่งได้จากการทบทวนเวชระเบียนของผู้ป่วยสูงอายุจำนวน 154 คนที่
เข้ารับการผ่าตัดชนิดเดียวกันในช่วงก่อนนำระบบคัดกรองมาใช้ ภายหลังกระบวนการคัดกรองเสร็จ
สิ้น พยาบาลผู้คัดกรองภาวะเพ้อจำนวน 30 คน จะได้รับการสำรวจความคิดเห็นโดยใช้แบบสอบถาม
เกี่ยวกับการคัดกรองภาวะเพ้อในผู้สูงอายุ
ผลการศึกษา ในกลุ่มผู้ป่วยที่ได้รับการคัดกรองพบผู้ป่วยที่มีภาวะเพ้อหลังการผ่าตัดร้อยละ 1.3 ซึ่ง
ใกล้เคียงกับกลุ่มควบคุม (ร้อยละ 1.4) (P = 1.00) ผู้ป่วยทั้งสองกลุ่มไม่มีผู้เสียชีวิต ระยะเวลาในการ
นอนโรงพยาบาลในกลุ่มควบคุมมีค่ามัธยฐาน 67 ชั่วโมง (พิสัยควอไทล์ = 23) ซึ่งมากกว่ากลุ่มคัดกรอง
(มัธยฐาน = 52, พิสัยควอไทล์ = 25) (P =.023) พยาบาลผู้คัดกรองร้อยละ 80 เห็นด้วยว่าการคัดกรอง
ภาวะเพ้อโดยใช้เครื่องมือ 4AT ฉบับภาษาไทยทำได้ง่าย ไม่ซับซ้อนและพึงพอใจกับการใช้เครื่องมือนี้
อย่างไรก็ดี พยาบาลร้อยละ 33.3 เห็นว่าการคัดกรองเป็นการเพิ่มภาระงานมากเกินไป และร้อยละ 26.7
เห็นว่าการคัดกรองใช้เวลานาน
สรุป ผลการคัดกรองภาวะเพ้อหลังผ่าตัดด้วยเครื่องมือ 4AT ฉบับภาษาไทยพบว่าในการศึกษานี้มีความ
ชุกของภาวะเพ้อต่ำ อย่างไรก็ดี ผู้ใช้เครื่องมือส่วนใหญ่พึงพอใจกับการใช้เครื่องมือนี้แม้ว่าผู้ใช้เครื่องมือ
บางส่วนมีความกังวลถึงผลกระทบต่อภาระงานที่เพิ่มขึ้น