การพัฒนาแอปพลิเคชันบนอุปกรณ์เคลื่อนที่เพื่อควบคุมน้ำหนัก

ผู้แต่ง

  • ลักษณา ไชยมงคล สาขาวิชาวิทยาศาสตร์การอาหารและโภชนาการ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี
  • กิตติยา คงกระพันธ์ สาขาวิชาคณิตศาสตร์และวิทยาการคอมพิวเตอร์ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี

คำสำคัญ:

การลดน้ำหนัก, แอปพลิเคชัน, สมาร์ทโฟน

บทคัดย่อ

ในยุคปัจจุบันมีการใช้สมาร์ทโฟนกันมาก และมีการพัฒนาแอปพลิเคชันการดูแลสุขภาพและควบคุมโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง การใช้เทคโนโลยีจะช่วยในเรื่องเพิ่มการเข้าถึงการบริการ ลดต้นทุน ลดอุปสรรคบางประการในการใช้บริการทางสุขภาพที่เป็นอยู่ การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาแอปพลิเคชันควบคุมน้ำหนักบนอุปกรณ์เคลื่อนที่หรือสมาร์ทโฟน โดยทำการสอบถามความต้องการของผู้ใช้ และออกแบบฐานข้อมูลให้รองรับความต้องการของผู้ใช้ ฟังก์ชันในโปรแกรมครอบคลุม 3 กระบวนการหลักในโปรแกรมการลดน้ำหนัก ได้แก่ 1) กระบวนการปรับพฤติกรรม 2) การตรวจสอบตนเอง และ 3) การให้คำแนะนำที่มีลักษณะเฉพาะบุคคลและการสะท้อนกลับ ทดสอบโปรแกรมกับอาสาสมัครที่เป็นผู้ใหญ่จำนวน 57 คน ผลการศึกษาได้แอปพลิเคชัน Sat-PN slim coach ที่มีฟังก์ชันการทำงานประกอบด้วยการสร้างการรับรู้ปัญหา การวางแผนการคุมอาหารและออกกำลังกาย และการติดตามตรวจสอบผลด้วยตนเองรวมถึงการให้ข้อมูลสะท้อนกลับความก้าวหน้าของผลการลดน้ำหนัก  ร้อยละ 82.5 ของผู้ทดลองใช้มีความพอใจต่อการใช้งาน จึงเห็นควรนำไปศึกษาประสิทธิผลของการใช้แอปพลิเคชัน  Sat-PN slim coach ในการลดน้ำหนัก ก่อนที่จะนำเผยแพร่ใช้งานอย่างกว้างขวางต่อไป

เอกสารอ้างอิง

GBD 2013 Mortality and Causes of Death Collaborators. Global, regional and national age-sex specific all-cause and cause-specific mortality for 240 causes of death, 1990-2013: a systematic analysis for the Global Burden of Disease Study 2013. Lancet. 2015;385(9963):117-171. DOI: 10.1016/S0140-6736(14)61682-2

ทักษพล ธรรมรังสี. ออนไลน์. วิกฤตปัญหาโรคอ้วน:ภัยเศรษฐกิจ พิษสังคม. http://www.rcot.org/datafile/_file/_doctor/114d87b035aa9f10c931378fc72e39f5.pdf สืบค้นเมื่อ 23 มกราคม 2562

แผนงานวิจัยนโยบายอาหารและโภชนาการเพื่อการสร้างเสริมสุขภาพ. 2558. อาหารและโภชนาการในประเทศไทย: เราอยู่ตรงจุดใดในปัจจุบัน. รายงานประจำปี แผนงานวิจัยนโยบายอาหารและโภชนาการ เพื่อการสร้างเสริมสุขภาพ. มูลนิธิเพื่อการพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ, นนทบุรี. หน้า 16-19.

Gilmore LA, Duhe AF, Frost EA, Redman LM. The technology Boom: A new era in obesity management. J Diabetes Sci Technol. 2014;8(3): 596-608. DOI: 10.1177/1932296814525189

Lee J, Chol M, Lee SA, Jiang N. Effective behavioral intervention strategies using mobile health applications for chronic disease management: a systematic review. BMC Medical Inform Decis Mak. 2018;18:12. DOI: 10.1186/s12911-018-0591-0.

Laranjo L, Lau AYS, Martin P, Tong HL, Coiera E. Use of a mobile social networking intervention for weight management: a mixed methods study protocol. Br Med J. 2017;7:e016665. DOI: 10.1136/bmjopen-2017-016665

สำนักงานสถิติแห่งชาติ (ออนไลน์). แนวโน้มคนไทยใช้สมาร์ทโฟนมากขึ้น.ข่าวประชาสัมพันธ์สำนักงานสถิติแห่งชาติ. สืบค้นจาก http://www.nso.go.th/sites/2014/Pages/ActivityNSO/A24-05-60.aspx สืบค้นเมื่อ 23 มกราคม 2562.

World Health Organization, International Association for the Study of Obesity, International Obesity Task Force. 2000. The Asia Pacific Perspective: Redefining Obesity and Its Treatment. Health Communications Australia, Sydney. p. 17.

Higgins JP. Smartphone Applications for Patients’ Health and Fitness. Am J Med. 2016;129(1):11-19. DOI: 10.1016/j.amjmed.2015.05.038

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

08/23/2023

รูปแบบการอ้างอิง

ไชยมงคล ล., & คงกระพันธ์ ก. (2023). การพัฒนาแอปพลิเคชันบนอุปกรณ์เคลื่อนที่เพื่อควบคุมน้ำหนัก. วารสารโภชนาการ (Online), 58(2), 1–15. สืบค้น จาก https://he01.tci-thaijo.org/index.php/JNAT/article/view/263769

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย