ประเมินผลโครงการโรงเรียนรอบรู้สุขภาพดีมีความสุข ด้านโภชนาการ พ.ศ. 2562
คำสำคัญ:
ความรอบรู้ด้านสุขภาพ, โรงเรียนส่งเสริมสุขภาพ, กรอบประเมิน CIPPบทคัดย่อ
โครงการโรงเรียนรอบรู้สุขภาพดีมีความสุขตามนโยบายของกรมอนามัยเพื่อการพัฒนาต่อยอดโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพ วัตถุประสงค์ เพื่อประเมินผลการดำเนินงานและผลกระทบของโครงการโรงเรียนรอบรู้สุขภาพดีมีความสุขด้านโภชนาการและสุขาภิบาลอาหารและน้ำ วิธีการวิจัย วิจัยเชิงพรรณนา ใช้การสังเกตโดยไม่มีส่วนร่วมและวิเคราะห์เอกสารสรุปผลงานโรงเรียนรอบรู้สุขภาพดีมีความสุข โดยประเมินด้านโภชนาการ อาหาร น้ำดื่มสะอาดปลอดภัย และพฤติกรรมการเรียนรู้ กลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจงจากโรงเรียนในโครงการโรงเรียนรอบรู้จำนวน 18 โรงเรียน ใน 7 จังหวัดของพื้นที่เขต 11 (ชุมพร ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ สุราษฏร์ธานี นครศรีธรรมราช) การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพโดยวิเคราะห์เนื้อหาตามกระบวนการประเมิน CIPP Model ที่ประกอบด้วย บริบท (Context) ปัจจัยนำเข้า (Input) กระบวนการ(Process) และผลผลิต (Product) โดยประเมินงานระหว่างเดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ 2562 ผลการประเมิน พบว่า ด้านบริบท (Context) ผู้บริหาร คณะครูนักเรียน คณะกรรมการสถานศึกษาและชุมชน ตระหนักรู้และเข้าถึงการเข้าร่วมการพัฒนาสร้างรอยเชื่อมกับโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพสู่โรงเรียนรอบรู้สุขภาพดีมีความสุขอย่างกลมกลืน โดยต่อยอดจากการเรียนรู้สู่ความรอบรู้ด้วยฐานเดิมในการสร้างชุมชนเข้มแข็ง การมีส่วนร่วมของชุมชน ทำให้สามารถส่งเสริมให้เกิดความรอบรู้ในระดับจุลภาคและมีแนวโน้มจะพัฒนาสู่ระดับมหภาคได้ ด้านปัจจัยนำเข้า (Input) ทุกโรงเรียนทราบถึงนโยบายการพัฒนาสุขภาพผู้เรียนตามแนวทางของโครงการโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพสู่โรงเรียนรอบรู้ด้านสุขภาพ ปี 2562 บางโรงเรียนมีจุดอ่อนที่ต้องเรียนรู้จากจุดเด่นของโรงเรียนอื่น จุดอ่อนที่พบคือ ระดับความรอบรู้ทั้งด้านโภชนาการ อาหารและน้ำดื่มสะอาดปลอดภัย ด้านกระบวนการ (Process) จากปัจจัยนำเข้าที่เท่ากัน การพัฒนาศักยภาพแต่ละโรงเรียนมีรูปแบบที่แตกต่างกัน เกิดเป็นนวัตกรรมและ Best Practice ที่นำไปเผยแพร่ในมหกรรมโรงเรียนรอบรู้สุขภาพดีมีความสุข เพื่อนำไปปรับตามบริบทและสิ่งแวดล้อมของพื้นที่ ด้านผลผลิต (Product) ทั้ง 18 โรงเรียนสามารถพัฒนาทั้ง 10 องค์ประกอบไปในทิศทางเดียวกัน แต่มีองค์ประกอบที่ต้องปรับปรุง ได้แก่ การประเมินและความครอบคลุมของการประเมินภาวะโภชนาการ พบปัญหาเด็กอ้วนที่สูงกว่าเกณฑ์โดยเฉพาะในเขตเมือง ด้านสุขาภิบาลอาหาร พบว่า ยังไม่ได้มาตรฐานในด้านโครงสร้างโรงอาหาร การตรวจสุขภาพผู้สัมผัสอาหาร การจัดการขยะ การตรวจสอบคุณภาพน้ำดื่มและจัดบรรยากาศในชั้นเรียนให้เกิดพฤติกรรมเรียนรู้ ข้อสนอแนะต่อระดับนโยบาย (กรมอนามัย) ปัจจัยสำคัญของความการสร้างความรอบรู้ คือ การเข้าถึง เข้าใจ การได้โต้ตอบแลกเปลี่ยน การตัดสินใจเปลี่ยนพฤติกรรม และการส่งต่อความรู้ ทางเลือกหนึ่งคือการบรรจุเนื้อหาและองค์ประกอบสำคัญของความรอบรู้ด้านสุขภาพลงในหลักสูตรอบรมลูกเสือและเนตรนารีเพราะสอนการมีวินัยในตนเองอยู่แล้วโดยสนับสนุนอย่างเหมาะสมกับช่วงวัยของเด็ก
เอกสารอ้างอิง
วชิระ เพ็งจันทร์,ชะนวนทอง ธนสุกาญจน์แนวคิด หลักการขององค์กรรอบรู้ด้านสุขภาพ 2561: 8: สำนักงานโครงการขับเคลื่อนกรมอนามัย 4.0; กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข 2561.
ชะนวนทอง ธนสุกาญจน์,วิมล โรมา,มุกดา สำนวนกลาง, แนวคิด หลักการขององค์กรรอบรู้ด้านสุขภาพ. กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข, 2561.
วันชัย เยี่ยงกุลเชาวน์, คู่มือการดำเนินงานโรงเรียนรอบรู้สุขภาพดี มีความสุข.ศูนย์อนามัยที่ 11 นครศรีธรรมราช, 2561.
เชาว์ อินใย การประเมินโครงการ, สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงการณ์มหาวิทยาลัย 2553: 126-127.
ไปรมา กลิ่นนิรัญ ผลของการเสริมสร้างพลังอำนาจต่อพฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้ป่วยความดันโลหิตสูงของโรงพยาบาลท่าโรงช้าง อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี. วารสารพัฒนาสุขภาพชุมชน มหาวิทยาลัยขอนแก่น, 2558; 3(2):213-30.
ชลดา อานี กรัณฑรัตน์ บุญช่วยธนาสิทธิ์ ประเสริฐ์ศักดิ์ กายนาคา. ประสิทธิผลของโปรแกรมการสร้างเสริมความรอบรู้ทางสุขภาพโดยการจัดการเรียนรู้แบบใช้คำถามเพื่อสร้างเสริมพฤติกรรมการป้องกันการมีเพศสัมพันธ์ในนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้น จังหวัดนนทบุรี. Kasetsart Educ Rev. 2560; 32(2):137-44.
สุธี สฤษฎิ์ศิริ ภาวะโภชนาการของนักเรียนในโรงเรียน เขตทวีวัฒนา กรุงเทพมหานคร. J Public Health. 2012; 42(1):78-89.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่เผยแพร่ในวารสารโภชนาการ เป็นลิขสิทธิ์ของสมาคมโภชนาการแห่งประเทศไทยฯ