ความสัมพันธ์ของการบริโภคไข่กับระดับโคเลสเตอรอลในเลือด

บทคัดย่อ

ปัญหาภาวะโคเลสเตอรอลสูงในเลือด ความชุกและอัตราตายของโรคหัวใจขาดเลือดในคนไทยเป็นประเด็นที่มีความสำคัญต่อสุขภาพของคนไทย ที่ผ่านมาคำแนะนำในการควบคุมระดับโคเลสเตอรอลในเลือด คือ ควบคุมปริมาณโคเลสเตอรอลในอาหารโดยเฉพาะอย่างยิ่งการบริโภคไข่  แนวทางการเลือกบริโภคอาหารของประเทศสหรัฐอเมริกา Dietary Guideline ฉบับ 2015 ได้แถลงข้อแนะนำที่พลิกแนวทางเดิม  โดยระบุว่าโคเลสเตอรอลในอาหารไม่มีผลต่อระดับโคเลสเตอรอลในเลือด จึงเป็นประเด็นที่ต้องนำมาวิเคราะห์ให้ชัดเจนในบริบทของคนไทย  บทความนี้ทบทวนองค์ความรู้ใหม่เกี่ยวกับการศึกษาผลของการบริโภคไข่ต่อระดับโคเลสเตอรอลในเลือดในรูปแบบการวิจัยหลากหลายที่ควรนำสู่การวิเคราะห์ ได้แก่ การวิจัยแบบ Randomized Controlled Trial ในคนสุขภาพดี  การวิเคราะห์แบบอภิมานในผู้ป่วย และการศึกษาทางคลินิกในผู้ป่วยไทย  การวิจัยแบบสังเกต ได้แก่ การวิเคราะห์แบบอภิมานของการศึกษาแบบสังเกต ทั้งแบบโคฮอร์ตเท่านั้น และแบบผสมผสาน โคฮอร์ต แบบตัดขวาง และ Case-control ตลอดจนความเห็นของผู้เชี่ยวชาญ ที่มีทั้งเห็นว่า กินไข่ปลอดภัยไม่จำกัด  กินไข่ปลอดภัย แต่จำกัดที่ ไม่เกิน 1 ฟองต่อวัน  และเตือนภัยอันตรายของการไม่มีขอบเขตควบคุม  จากนั้นจึงทำการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของการบริโภคไข่กับระดับโคเลสเตอรอลในเลือดและการเกิดโรคหัวใจจากข้อมูลทุกด้านเหล่านี้ 7 ประการ  ได้แก่ การสื่อสารเรื่องปริมาณการบริโภคไข่ ปริมาณไข่สูงสุดจากการศึกษาแบบสังเกต ความแตกต่างในการตอบสนองของระดับโคเลสเตอรอลในเลือดเนื่องจากอายุและเพศ ความแตกต่างระหว่างผลต่อผู้มีสุขภาพดีและผู้ป่วย การเปรียบเทียบผลจากการศึกษาหลายประเภท  และการพิจารณา Conflict of interest  ท้ายที่สุดจึงให้ข้อสรุปและข้อแนะนำการบริโภคไข่เพื่อลดความเสี่ยงโรคหัวใจสำหรับผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพดี คือ เฉลี่ยไม่เกิน 1 ฟองต่อวัน  ส่วนผู้ป่วยโรคเบาหวาน ผู้ป่วยโรคหัวใจขาดเลือด และผู้ป่วยที่ได้รับยาลดระดับโคเลสเตอรอลในเลือด ยังควรบริโภคในความดูแลของแพทย์ และไม่ควรบริโภคเกิน 1 ฟองต่อวัน หรือ 7 ฟองต่อสัปดาห์