ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการป้องกันกลุ่มอาการผิดปกติทางระบบกล้ามเนื้อและโครงสร้างกระดูกของญาติผู้ดูแลคนพิการ ทางการเคลื่อนไหว
Factors Influencing Preventive Behaviors against Musculoskeletal Disorders among Family Caregivers of Persons with Physical Disability
คำสำคัญ:
พฤติกรรมการป้องกัน, กลุ่มอาการผิดปกติทางระบบกล้ามเนื้อและโครงสร้างกระดูก, ญาติผู้ดูแล, คนพิการทางการเคลื่อนไหวบทคัดย่อ
บทคัดย่อ
กลุ่มอาการผิดปกติทางระบบกล้ามเนื้อและโครงสร้างกระดูกเป็นปัญหาสุขภาพในญาติผู้ดูแลคนพิการทางการเคลื่อนไหวที่จำเป็นต้องมีพฤติกรรมการป้องกันที่เหมาะสม การวิจัยเชิงพรรณนาแบบความสัมพันธ์เชิงทำนายนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาพฤติกรรมการป้องกันกลุ่มอาการผิดปกติทางระบบกล้ามเนื้อและโครงสร้างกระดูก และปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการป้องกันดังกล่าว กลุ่มตัวอย่างเป็นญาติผู้ดูแลคนพิการทางการเคลื่อนไหวที่อาศัยอยู่ในจังหวัดชลบุรี จำนวน 200 คนที่ได้มาจากการสุ่มแบบหลายขั้นตอน เก็บรวบรวมข้อมูลระหว่างเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2562 – มกราคม พ.ศ. 2563 โดยใช้แบบสัมภาษณ์ ได้แก่ ข้อมูลพื้นฐาน ความรู้เกี่ยวกับการป้องกันโรค (KR-20 = 0.80) ทัศนคติต่อการป้องกันโรค การเข้าถึงบริการสุขภาพ การได้รับการสนับสนุนทางสังคม และพฤติกรรมการป้องกัน (ค่าสัมประสิทธิ์แอลฟาของ ครอน บาคอยู่ระหว่าง 0.82-0.96) วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติพรรณนา และสถิติถดถอยพหุคูณแบบขั้นตอน
ผลการวิจัยพบว่า กลุ่มตัวอย่างมีพฤติกรรมการป้องกันฯ ภาพรวม ด้านการจัดการความเครียด และด้านการปรับเปลี่ยนท่าทางอยู่ในระดับสูง ส่วนพฤติกรรมด้านการออกกำลังกายและด้านการบริหารกล้าม เนื้ออยู่ในระดับปานกลาง ซึ่งตัวแปรการได้รับการสนับสนุนทางสังคม ความรู้เกี่ยวกับการป้องกันโรค และทัศนคติต่อการป้องกันโรคมีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการป้องกันฯ ร่วมกันอธิบายพฤติกรรมการป้องกันฯ ได้ร้อยละ 42.6 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (R2 = 0.426, F = 5.881, p < 0.05)
สรุป การศึกษาครั้งนี้ได้องค์ความรู้เกี่ยวกับพฤติกรรมการป้องกันกลุ่มอาการผิดปกติทางระบบกล้ามเนื้อและโครงสร้างกระดูกของญาติผู้ดูแลคนพิการทางการเคลื่อนไหวและปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ซึ่งพยาบาลและบุคลากรที่เกี่ยวข้องสามารถนำไปใช้พัฒนาโปรแกรมส่งเสริมพฤติกรรมการป้องกันฯ ในกลุ่มญาติผู้ดูแลคนพิการทางการเคลื่อนไหว โดยเพิ่มการสนับสนุนจากเครือข่ายทางสังคม ให้ความรู้เกี่ยวกับการป้องกันตลอดจนเพิ่มทัศนคติที่ดีต่อการป้องกัน จะทำให้ญาติผู้ดูแลมีสุขภาพที่ดีและสามารถดำรงบทบาทการดูแล นำมาซึ่งคุณภาพชีวิตที่ดีทั้งญาติผู้ดูแลและคนพิการต่อไป
References
1. Department of Empowerment of Persons with Disability, Report about Situation of People with Disabilities in Thailand [online]. 2020 [cited 2020/4/1]. Available from: http:// http://dep.go.th/uploads/Docutents/61ccc2d9-8e3f-4f75-a361-368f5c6a4b80รายละเอียดข้อมูลคนพิการ%20มีค63.pdf. (in Thai)
2. Lawang W., et al., Family Caregivers of Adults with Acquired Physical Disability: Thai Case-Control Study. International Journal of Nursing Practice, 2015; 21(1): 70-78.
3. Suzuk,i K. & Tamakoshi, K., Caregiving Activities Closely Associated with The Development of Low-Back Pain Among Female Family Caregivers. Journal of Clinical Nursing, 2016; 25: 15-16.
4. Darragh AR., Musculoskeletal Discomfort, Physical Demand, and Caregiving Activities in Informal Caregivers. Journal of Applied Gerontology, 2015; 34 (6): 734-760.
5. Reis, S. et al., Prevalence of Symptoms of Musculosketelal Injuries Related to The Work of Caregiver - Case Study of a Social Institution. [online]. 2016 [cited 2020/2/13].
6. Wongthanakit, S. et al., Factors Related to Low Back Pain Preventive Behavior Among Nursing Personal in Governmental Hospitals, Nonthaburi Province. Journal of Public Health, 2548; 35(2): 109-118. (in Thai)
7. Jantarapimol, Y. Health Status and Health Preventive Behaviors Among Rubber Plantation Workers. Master’s Thesis in Nursing Science Program (Occupational Health Nurse Practitioner), Chiang Mai University; 2007. (in Thai)
8. Bamrungwong, K. Factors Influencing Musculoskeletal Disorder Prevention Behaviors of Thai Massage Practitioners Master’s Thesis in Science Program, Nakhon Pathom: Mahidol University; 2014. (in Thai)
9. Green, L. W. and Kreuter, M. W., Health Program Planning: An Educational and Ecological Approach. New York: McGraw Hill; 2005.
10. Sanitpol, W., Data of People with Disabilities in Chon Buri [ออนไลน์]. 2019 [cited 2019/10/12]. Available from: http://thainews.prd.go.th/th/. (in Thai)
11. Polit, F. D. & Beck, C. L., Essentials of Nursing Research: Appraising Evidence for Nursing Practice. 9th ed. India: Wolters Kluwer; 2017.
12. Srisatidnarakul, B., The Methodology in Nursing Research, Bangkok: U & I Media Co.,Ltd; 2555.
13. Best, J. W. and Kahn, J. V., Research in Education. 10th ed. Boston: Pearson Education; 2006.
14. Lawang W, Horey D, Blackford J, Sunsern R, & Riewpaiboon W., Support Interventions for Caregivers of Physically Disabled Adults: A Systematic Review. Nursing & Health Sciences, 2013; 15: 534-545.
15. Sangmanee, S., Apanantikun, M., Sirapho-ngam, Y., Case study: Adaptation of Working caregiver for stroke patients. Ramathibodi Nursing Journal, 2555; 18(1): 119-133. (in Thai)
16. Kochakot, J. and Intaranongpai, S., Workplace Accident Prevention Behavior for Factory Workers in Mahasarakham Province. Journal of Humanities and Social Sciences Mahasarakham University, 2560; 36(5): 12-20. (in Thai)