การศึกษาภาวะสุขภาพจิตของหญิงตั้งครรภ์ที่รับบริการฝากครรภ์ ณ โรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช จังหวัดสุพรรณบุรี

ผู้แต่ง

  • ศริณธร มังคะมณี วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สุพรรณบุรี 118 หมู่ 1 ต.สนามชัย อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี 72000
  • ศิริพร ชุดเจือจีน วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สุพรรณบุรี 118 หมู่ 1 ต.สนามชัย อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี 72000
  • ปิยวัชร ประมวลรัตน์ คณะพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ สถาบันบัณฑิตพัฒนาบริหารศาสตร์ ชั้น 1 อาคารมาลัย หุวะนันทน์ ที่อยู่ : 118 หมู่ 3 ถนนเสรีไทย แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ 10240 โทรศัพท์ : 0-2375-3976 แฟ็กซ์ : 0-2375-3976 , 0-2378-0016

บทคัดย่อ

บทคัดย่อ

                การศึกษาวิจัยแบบสำรวจนี้  มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาภาวะสุขภาพจิตโดยทั่วไป
ของหญิงตั้งครรภ์ที่มารับบริการฝากครรภ์  และเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างปัจจัยด้านบุคคล  (ได้แก่  อายุ  ระดับการศึกษา  อาชีพ  ระดับรายได้  สถานภาพการสมรส)  และปัจจัยการตั้งครรภ์  (ได้แก่  จำนวนครั้งของการตั้งครรภ์  อายุครรภ์  จำนวนบุตร  เพศของบุตร  อายุบุตรคนสุดท้อง  การมีภาวะเสี่ยงในการตั้งครรภ์)  กับภาวะสุขภาพจิตของหญิงตั้งครรภ์  กลุ่มตัวอย่างเป็นหญิง ตั้งครรภ์ที่มารับบริการตรวจครรภ์    ณ โรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช จังหวัดสุพรรณบุรีในช่วงเดือน  ตุลาคม 2550 –  เมษายน 2551  จำนวน  400  คน  เครื่องมือที่ใช้  คือ  แบบสัมภาษณ์ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น  และแบบประเมินภาวะสุขภาพจิตในหญิงตั้งครรภ์ของกรมสุขภาพจิต  กระทรวงสาธารณสุข สถิติที่ใช้ คือ  สถิติเชิงพรรณนา  และสถิติวิเคราะห์เพื่อหาค่าความแตกต่างของค่าเฉลี่ยคะแนน ปัญหาสุขภาพจิตของหญิงตั้งครรภ์กับปัจจัยด้านบุคคลและปัจจัยการตั้งครรภ์  โดยใช้การหา ค่าเฉลี่ยของกลุ่ม  (Group  Means)  และทดสอบความแตกต่างด้วยการวิเคราะห์การผันแปร (Analysis of Variance,  ANOVA)

ผลการศึกษาปรากฏดังนี้

                1.  หญิงตั้งครรภ์  ส่วนใหญ่มีระดับความเครียดอยู่ในเกณฑ์ปกติถึงเครียดเล็กน้อยร้อยละ 83.5  มีความเครียดในระดับปานกลาง ร้อยละ 14.5  และมีความเครียดระดับสูงร้อยละ  2.0  ตามลำดับ

                2.  การเปรียบเทียบความแตกต่างของปัจจัยด้านบุคคลและปัจจัยการตั้งครรภ์  กับภาวะ สุขภาพจิต  พบว่า ภาวะสุขภาพจิตของหญิงตั้งครรภ์แตกต่างกันจากการที่มีอายุ  เพศของบุตร  และภาวะเสี่ยงในการตั้งครรภ์แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05  และจากการที่มี จำนวนครั้งของการตั้งครรภ์  จำนวนบุตร  และอายุบุตรคนสุดท้องแตกต่างกัน  อย่างมีนัยสำคัญ ทางสถิติที่ระดับ .01  ส่วนปัจจัยที่ทำให้ภาวะสุขภาพจิตของหญิงตั้งครรภ์ไม่แตกต่างกัน  ได้แก่  ระดับการศึกษา  อาชีพ  ระดับรายได้  สถานภาพการสมรส  และอายุครรภ์

                ข้อเสนอแนะจากการวิจัยครั้งนี้  คือ  ผู้เกี่ยวข้องที่ดูแลสุขภาพจิตหญิงตั้งครรภ์  ควร   ประกอบด้วยสามี  บุคคลในครอบครัว  และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข  สำหรับการดูแลสุขภาพจิต ของหญิงตั้งครรภ์  ควรมีการประเมินภาวะสุขภาพจิตในหญิงตั้งครรภ์ทุกรายที่มารับบริการ ตรวจครรภ์   ในรายที่พบปัญหาไม่ว่าจะโดยภาพรวมหรือปัญหาสุขภาพจิตเป็นรายข้อ  พยาบาลควร ให้คำแนะนำปรึกษาตามสภาพปัญหา  และส่งต่อเพื่อรับการวินิจฉัยและรักษา  เมื่อมีอาการ ขั้นรุนแรง

ASTRACT

                This  survey  research  was  aimed  to  study mental health status  of  pregnant  women  who  came  to  antenatal  clinic  (ANC)  service. The study focused on comparing between the  difference  of  personal  factors (age, education level,  occupation,  income  level, and  marriage  status), the  pregnant  factors (number  of  pregnancy,  pregnant  age,  number  of  children,  sex  of  child,  age  of  last  child,  risk  factor of  pregnancy)  and  mental  health  status  of  pregnancy.  Samples  were  400  pregnancy  women who  came  to  attended ANC  service in  Jaoprayayommaraj  hospital  Suphanburi  province   during  October 2007 to April 2008.  The  study  instruments  were  interview  questionnaire,  and  The Mental  Health  Status  Assessment  for pregnant  women  by mental  health  office,  ministry  of  public  health.  Statistics  used in  this  study  were  descriptive  statistics  and  analytical  statistics  to  differentiate the means  of  mental  health  score  between  the personal  factors  and the pregnant  factors,  and  tested the  difference by  analysis  of variance (ANOVA).

                The results were as follows.

                1.  Most  of  pregnant  women  (83.5%)  had  stress level between a normal  level  to  a mild  level, 14.5%  in  a moderate  level,  and  2.0%  in  a high  level.

                2. Comparing  of  the  difference between personal  factors  and  pregnant  factors  were  found  that  mental  health  of  pregnant  women  were significant difference  in  age,  sex of child,  and  risk  factor  of  pregnancy  (p<0.05).  Mental  health  of  pregnant  women  were significant difference  in  number  of  pregnancy,  number  of  children,  age  of  last  child (p<0.01).  But  education  level,  occupation,  income  level,  marriage  status,  and  pregnancy  age  were  not  significant  difference.

                This  study  suggested that  husband,  person  in family,  and  health  status  can promote  mental  health  of  pregnant  women.  The  mental  health care  staff of  pregnant  women  should    evaluated  mental  health  of  all  pregnant  women  who  came  to  attend ANC  service.  For the case with  mental  health, nurse  should  advised  or counseling according to problem  or situation, and  referred  any severe  case  for  further  appropriate diagnosis  and  treatment.

เผยแพร่แล้ว

2012-06-22

ฉบับ

บท

บทความวิจัย