ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการป้องกันการได้รับควันบุหรี่มือสองของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ในอำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี
คำสำคัญ:
พฤติกรรมการป้องกัน, การได้รับควันบุหรี่มือสอง, นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นบทคัดย่อ
การวิจัยเชิงพรรณนาแบบภาคตัดขวางนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาพฤติกรรมการป้องกันการได้รับควันบุหรี่มือสองและปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการป้องกันการได้รับควันบุหรี่มือสองของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นในอำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 372 คน โดยวิธีการสุ่มแบบหลายขั้นตอน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคล ปัจจัยนำ ปัจจัยเอื้อ ปัจจัยเสริมกับพฤติกรรมการป้องกันการได้รับควันบุหรี่มือสอง ด้วยการทดสอบไคสแควร์ ผลการวิจัย พบว่ากลุ่มตัวอย่าง ร้อยละ 83.60 มีพฤติกรรมการป้องกันการได้รับควันบุหรี่มือสองอยู่ในระดับสูง โดยพฤติกรรมการป้องกันการได้รับควันบุหรี่มือสองของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น มีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 กับปัจจัยต่อไปนี้ ได้แก่ เพศ การเคยได้รับควันบุหรี่มือสอง การได้รับคำแนะนำและตักเตือนจากผู้ปกครอง และการได้รับคำแนะนำและตักเตือนจากเพื่อน
Downloads
เอกสารอ้างอิง
ณรงค์ รัตนนาคินทร์, วราพร ชลอำไพ. พิษภัยของบุหรี่ (อินเทอร์เน็ต. 2554 [เข้าถึงเมื่อ 28 ตุลาคม 2561เข้าถึงได้จาก: http://webdb.dmsc.moph.go.th/ifc_toxic/a_tx_1_001c.asp?info_id=54
กระทรวงสาธารณสุข. สถานการณ์โรค กระทรวงสาธารณสุข [อินเทอร์เน็ตJ. 2564 [เข้าถึงเมื่อ 28 มีนาคม2565]. เข้าถึงได้จาก: http://odpc9.ddc.moph.go.th/hot/situlation_ncd_smoke50.htm
ประกิต วาทีสาธกกิจ. ควันบุหรี่มือสอง. พิมพ์ครั้งที่ 5. กรุงเทพฯ: รักษ์พิมพ์; 2553.
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ. รู้จักกับสารพิษสำคัญในควันบุหรี่ อินเทอร์เน็ต. 2554 [เข้าถึงเมื่อ 12 ตุลาคม 2561]. เข้าถึงได้จาก: http://www.thaihealth.or.th
ฉันทนา แรงสิงห์. การดูแลวัยรุ่นที่สูบบุหรี่: บทบาทที่ท้าทายของพยาบาล. . พยาบาลทหารบก 2556;14(2):17-24.
ศิริวรรณ พิทยรังสฤษฏ์, ปานทิพย์ โชติเบญจมาภรณ์, ปวีณา ปั้นกระจ่าง. สถานการณ์การควบคุมการบริโภคยาสูบของประเทศไทย พ.ศ. 2559. กรุงเทพมหานคร: เจริญดีมั่นคงการพิมพ์; 2559.
. อภิญญา ตันทวีวงศ์. สารพัดออนไลน์โรคสมัยใหม่ที่ยังไร้วัคซีน. นนทบุรี: ทีคิวพี; 2554.
เครือข่ายวิชาชีพเภสัชกรเพื่อควบคุมการบริโภคยาสูบ. เภสัชอาสาพาเลิกบุหรี่ อีกหนึ่งบทบาทของเภสัชกรในระบบสุขภาพในการดูแลประชาชน [อินเทอร์เน็ต]. 2560 [เข้าถึงเมื่อ 13 พฤศจิกายน 2561]. เข้าถึงได้จาก:https://quitsmokingnow.in.th. ณัฐภัทร ตุ้มภู่. ควันบุหรี่มือสอง มหันตภัยร้ายทำลายสังคม [อินเทอร์เน็ต. 2551 [เข้าถึงเมื่อ 28 ตุลาคม 2561].เข้าถึงได้จาก: http://www.thaihealth.or.th/node/6875
วิภารัตน์ สุวรรณไวพัฒนะ, น้ำฝน ไวทยวงศ์, วิรุฬจิตรา อุ่นจางวาง. ความรู้และทัศนคติของผู้สูบบุหรี่ในการป้องกันการสัมผัสควันบุหรี่มือสองของสมาชิกในครอบครัวในชุมชนหนองตะครอง อำเภอขามทะเลสอ จังหวัดนครราชสีมา. . วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี นครราชสีมา 2556;19(1):31-41.
Green IW, Kreuter MW. Health program planning: An educational and ecological approach. 4thed. New York: Emily Barrosse; 2005.
บุญธรรม กิจปรีดาบริสุทธิ์. เทคนิคการสร้างเครื่องมือรวบรวมข้อมูลสำหรับการวิจัย, พิมพ์ครั้งที่ 7. กรุงเทพฯ:ศรีอนันต์การพิมพ์; 2553.
สนอง คล้ำฉิม. ความสัมพันธ์ระหว่างกรรับรู้อันตรายจากควันบุหรี่มือสองกับพฤติกรรมสุขภาพของสมาชิกครอบครัวที่มีผู้สูบบุหรี่ (วิทยานิพนธ์]. นครปฐม: มหาวิทยาลัยศิลปากร; 2551.
ธานินทร์ ศิลป์จาร การวิจัยและวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติด้วย SPSS และ AMOS. พิมพ์ครั้งที่ 13. กรุงเทพฯ:บิสซิเนสอาร์แอนด์ดี; 2555.
อนุสฎา นุราภักดิ์, มลินี สมภพเจริญ, ลักขณา เติมศิริกุลชัย, มณฑา เก่งการพานิช. ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการปกป้องสิทธิของตนเองจากควันบุหรี่มือสอง ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนตัน ใน กรุงเทพมหานคร [วิทยานิพนธ์]. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยมหิดล; 2557.
รุ่งราวี ทองกันยา, สุนิดา ปรีชาวงษ์. ปัจจัยทำนายพฤติกรรมการหลีกเลี่ยงการได้รับควันบุหรี่มือสองของผู้ป่วยโรคเรื้อรังในกรุงเทพมหานคร. ว. พยาบาลทหารบก 2557;15(2):331-8.
พิชชนันท์ อุยยานุกูล. ความชุกและคุณภาพชีวิตหญิงตั้งครรภ์ที่ได้รับควันบุหรี่มือสองในระหว่างตั้งครรภ์ (วิทยานิพนธ์. เชียงใหม่: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่; 2558.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2022 วารสาร มฉก.วิชาการ

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิทยาศาสตร์สุขภาพและสุขภาวะ
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ และคณาจารย์ท่านอื่นๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว
