ความสัมพันธ์ระหว่างแรงจูงใจเพื่อการป้องกันกับพฤติกรรมการดูแลสุขภาพช่องปาก ของผู้สูงอายุในตำบลบางเสาธง อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ
คำสำคัญ:
แรงจูงใจเพื่อการป้องกัน, พฤติกรรมการดูแลสุขภาพช่องปากบทคัดย่อ
บทคัดย่อ
การวิจัยเชิงพรรณนาภาคตัดขวางนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาพฤติกรรมการดูแลสุขภาพช่องปากและความสัมพันธ์ของแรงจูงใจเพื่อการป้องกัน ได้แก่ การรับรู้ความรุนแรงของโรค การรับรู้โอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรค ความคาดหวังในผลลัพธ์ของการป้องกันโรค และความคาดหวังในความสามารถของตนเองต่อการป้องกันโรค กับพฤติกรรมการดูแลสุขภาพช่องปากของผู้สูงอายุ ในตำบลบางเสาธง อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ กลุ่มตัวอย่างคือ ผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป จำนวน 330 คน ได้มาจากการสุ่มตัวอย่างแบบมีระบบ เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลเป็นแบบสอบถาม ศึกษาระหว่างเดือนสิงหาคม-ธันวาคม พ.ศ. 2561 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติสหสัมพันธ์แบบสเปียร์แมน (Spearman rank correlation coefficient)
ผลการวิจัยพบว่า ผู้สูงอายุมีพฤติกรรมการดูแลสุขภาพช่องปากอยู่ในระดับดี (=3.54, SD=0.30) ในรายด้านพบว่า ด้านการทำความสะอาดช่องปาก ด้านพฤติกรรมการบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพช่องปาก และด้านการหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพช่องปากอยู่ในระดับดี (=3.55, 3.43, 3.84 และ SD=0.35, 0.37, 0.38) ตามลำดับ ส่วนด้านการเข้ารับบริการทันตกรรม อยู่ในระดับปานกลาง (=2.99, SD =0.87) การรับรู้ความรุนแรงของโรคในช่องปาก การรับรู้โอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคในช่องปาก ความคาดหวังในผลลัพธ์ของการปฏิบัติพฤติกรรมการดูแลสุขภาพช่องปาก ความคาดหวังในความสามารถของตนเองในการปฏิบัติพฤติกรรมการดูแลสุขภาพช่องปากมีความสัมพันธ์ทางบวกกับพฤติกรรมการดูแลสุขภาพช่องปากของผู้สูงอายุ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.05 (r= 0.450, 0.468, 0.163 , 0.245, p-value<0.01) ตามลำดับ ผลการวิจัยครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่าพฤติกรรมการดูแลสุขภาพช่องปากของผู้สูงอายุสัมพันธ์กับระดับแรงจูงใจเพื่อการป้องกัน
Downloads
เอกสารอ้างอิง
กรมอนามัย, สำนักทันตสาธารณสุข. รายงานผลการสำรวจสภาวะสุขภาพช่องปากแห่งชาติ ครั้งที่ 8 ประเทศไทย พ.ศ.2560. นนทบุรี: สำนักทันตสาธารณสุข กรมอนามัย; 2561.
กนกอร โพธิ์ศรี, จีรนันท์ วิทยาไพโรจน์. ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อการมารับบริการทางทันตกรรมของผู้สูงอายุ 60-74 ปี ใน อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น. วารสารทันตาภิบาล. 2561;29(2):84-92.
กิตติคุณ บัวบาน. ความสัมพันธ์ระหว่างสภาวะสุขภาพช่องปากและคุณภาพชีวิตในผู้สูงอายุ อำเภอระสาด จังหวัดตาก. วารสารพฤฒาวิทยาและเวชศาสตร์ผู้สูงอายุ. 2561;16:45-56.
ปฐมพงษ์ ดำแดง, พัชราวรรณ ศรีศิลปะนันทน์. ความสัมพันธ์ของภาวะซึมเศร้าและสุขภาพช่องปากในผู้สูงอายุ อำเภอลอง จังหวัดแพร่. วารสารพฤฒาวิทยาและเวชศาสตร์ผู้สูงอายุ. 2559;15(1):1-9.
กรมอนามัย, สำนักทันตสาธารณสุข. การสร้างเสริมสุขภาพช่องปากผู้สูงอายุ เล่ม 7 คืนรอยยิ้มผู้สูงวัยภาคใต้. พิมพ์ครั้งที่ 1. นนทบุรี: สำนักทันตสาธารณสุข กรมอนามัย; 2556.
อรวรรณ จุลวงษ์. แรงจูงใจในการป้องกันโรคกับพฤติกรรมสุขภาพของทหารกองประจำการ. วารสารพยาบาลทหารบก. 2557;15(2):28-32.
จุฬาภรณ์ โสตะ. แนวคิด ทฤษฎี และการประยุกต์ใช้เพื่อการพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ. พิมพ์ครั้งที่ 3. ขอนแก่น: โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยขอนแก่น; 2554.
Maddux JE, Rogers RW. Protection motivation and self-efficacy : a revised theory of fear appeals and attitude change. JESP. 1983;19(5):469-79.
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ. ข้อมูล 43 แฟ้ม. สมุทรปราการ: สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ; 2561.
โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเมืองใหม่บางพลี. ทะเบียนคลินิกผู้สูงอายุ. สมุทรปราการ: โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเมืองใหม่บางพลี; 2561.
Yamane T. Statistical an introductory analysis. New York: Harper&Row; 1973. ใน: บุญธรรม กิจปรีดาบริสุทธ์. สถิติวิเคราะห์เพื่อการวิจัย. พิมพ์ครั้งที่ 5. กรุงเทพมหานคร: เรือนแก้วการพิมพ์; 2553. หน้า 88.
ประคอง กรรณสูตร. สถิติเพื่อการวิจัยทางพฤติกรรมศาสตร์. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย; 2542.
ศิริรัตน์ รอดแสวง. ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการดูแลสุขภาพช่องปากของผู้สูงอายุในเขตตำบลทุ่งทอง อำเภอหนองบัว จังหวัดนครสวรรค์. ใน: เอกสารการประชุมนเรศวรวิจัยครั้งที่ 12 วิจัยและนวัตกรรมกับการพัฒนาประเทศ. พิษณุโลก: มหาวิทยาลัยนเรศวร; 2559. หน้า 786-97.
ชนินทร์ สุทธิโต. พฤติกรรมทันตสุขภาพและปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมทันตสุขภาพของผู้สูงอายุในชมรมผู้สูงอายุ ตำบลควนธานี อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง [วิทยานิพนธ์]. ตรัง: วิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร; 2560.
ธนิดา ผาติเสนะ, กิตติยา ก้อยจะบก, มณีรัตน์ บุตรศรีภูมิ, สุทธิดา เสาสิงห์. ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการดูแลสุขภาพช่องปากผู้สูงอายุ. วารสารพฤฒาวิทยาและเวชศาสตร์ผู้สูงอายุ. 2561; 17:20-30.
กิตติยา ลายคราม. สภาวะสุขภาพช่องปากและพฤติกรรมการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุในสถานสงเคราะห์คนชราบ้านศรีตรัง จังหวัดตรัง. [วิทยานิพนธ์]. ตรัง: วิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร; 2560.
เริงฤทธิ์ นามวิชัยกุล. การใช้บริการทันตกรรมของประชาชนไทยระหว่างปี 2550-2558. ใน: รายงานสรุปการประชุมวิชาการทันตสาธารณสุขแห่งชาติ ครั้งที่ 5 Good teeth for Better Life. โรงแรมมารวยการ์เด้น กรุงเทพฯ. นนทบุรี: สำนักทันตสาธารณสุข กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข; 2561. หน้า 43-44.
วรมน อัครสุต. การใช้บริการทันตกรรมในกลุ่มวัยทำงานและผู้สูงอายุจากการสำรวจอนามัยและสวัสดการ พ.ศ.2556 และ พ.ศ.2558. วารสารทันตสาธารณสุข. 2561;23(1):26-37.
Woelber JP, Bienas H, Fabry G, Silbernagel W, Giesler M, Tennert C, et al. Oral hygiene-related self-efficacy as a predictor of oral hygiene behaviour: a prospective cohort study. J Clin Periodontol. 2015;42(2):142-9.
สุรีย์พันธุ์ วรพงศธร. การวิจัยทางสุขศึกษา. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยรามคำแหง; 2558.
ณัฐวุธ แก้วสุทธา, อังศินันท์ อินทรกำแหง, พัชรี ดวงจันทร์. โมเดลความสัมพันธ์เชิงสาเหตุพฤติกรรมการดูแลอนามัยช่องปากและสภาวะอนามัยช่องปากของวัยรุ่นตอนต้น. วารสารพฤติกรรมศาสตร์. 2557;20(2):77-95.
สมลักษณ์ แสงสัมฤทธิ์สกุล. โมเดลความสัมพันธ์เชิงสาเหตุของพฤติกรรมการดูแลสุขภาพในช่องปากของนักศึกษา วิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร. [วิทยานิพนธ์]. ชลบุรี: มหาวิทยาลัยบูรพา; 2559.
กนกกร พัฒนากูล. ปัจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการดูแลสุขภาพช่องปากของผู้สูงอายุตำบลบางพรม อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสาคร [วิทยานิพนธ์]. ตรัง: วิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร; 2560.
วราฤทธิ์ สฤษฎ์วานิช, จรัญญา หุ่นศรีสกุล. ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการแปรงฟันก่อนนอนของผู้สูงอายุ ในอำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง. วารสารทันตสาธารณสุข. 2557;19(1):53-64.
ศศิกาญจน์ สกุลปัญญวัฒน์. พฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพของผู้สูงอายุชาวมุสลิม กรณีศึกษาอำเภอองครักษ์ ตำบลองครักษ์ จังหวัดนครนายก. วารสารพยาบาลทหารบก. 2557;15(3):353-60.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิทยาศาสตร์สุขภาพและสุขภาวะ
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ และคณาจารย์ท่านอื่นๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว
