ปัจจัยทำนายคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังในโรงพยาบาลชุมชน จังหวัดฉะเชิงเทรา

ผู้แต่ง

  • สลิลทิพย์ กมลศิริ plaeng yao hospital
  • วิโรจน์ เจียมจรัสรังษี
  • สุนีย์ ละกำปั่น
  • ประศักดิ์ สันติภาพ
  • ณิชชาภัทร ขันสาคร

คำสำคัญ:

คุณภาพชีวิต, โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง, โรงพยาบาลชุมชน

บทคัดย่อ

การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยทำนายคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังที่รับการรักษาที่โรงพยาบาลชุมชน จังหวัดฉะเชิงเทรา ตัวอย่างในการศึกษาคือ ผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังที่มารับบริการในโรงพยาบาลชุมชน จังหวัดฉะเชิงเทรา ปี พ.ศ. 2559 จำนวน 270 ราย เลือกกลุ่มตัวอย่างโดยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน โดยศึกษาระหว่างเดือน พฤศจิกายน พ.ศ.2559–พฤษภาคม พ.ศ.2560 เก็บข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติพรรณนา สถิติสหสัมพันธ์ของเพียร์สันและสถิติถดถอยเชิงเส้น โดยกำหนดระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.05 ผลการศึกษาพบว่า ตัวแปรที่สามารถร่วมทำนายคุณภาพชีวิตคือ พฤติกรรมการใช้ยา (B=-0.349,p<0.01) พฤติกรรมการออกกำลังกาย (B=-0.161,p<0.01) การได้รับคำแนะนำด้านการใช้ยา (B=-0.117,p<0.05) การได้รับคำแนะนำในการออกกำลังกาย (B=-0.275,p<0.01) และความยากลำบากในการรับบริการ (B=-0.112,p<0.05) ซึ่งสามารถร่วมกันทำนายคุณภาพชีวิตกลุ่มตัวอย่างได้ร้อยละ 47.7 จากผลการวิจัยนี้    มีข้อเสนอแนะ คือ ควรให้มีการแนะนำการออกกำลังกาย การใช้ยาเพื่อให้ผู้ป่วยมีพฤติกรรมการใช้ยาและการออกกำลังกายที่ถูกต้องเหมาะสม อีกทั้งควรจัดบริการให้ผู้ป่วยมีความสะดวกในการรับบริการ ตามปัจจัยที่ร่วมทำนายคุณภาพชีวิตผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังที่ได้จากการศึกษานี้ ซึ่งจะนำไปสู่การมีคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้ป่วยต่อไป

Downloads

Download data is not yet available.

เอกสารอ้างอิง

1. คณะทำงานพัฒนาแนวปฏิบัติบริการสาธารณสุขโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง. แนวปฏิบัติบริการสาธารณสุข โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง พ.ศ. 2553. กรุงเทพมหานคร: สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ; 2553.
2. World Health Organization [Internet]. Geneva. [updated 12 January 2017; cited 2 May 2018]. The 10 leading causes of death in world, 2000 and 2011; [about 4 screens]. Available from: http://who.int/mediacentre/factsheets/fs310/en/
3. Taylor EJ, Jone P, Bures M. Quality of life. Chronic illness impact and interventions. 4th ed. Boston: Bartlett publishers. 1998.
4. Jadwiga A, Wedzicha E. Exacerbation: Etiology and pathophysiologic mechanism. CHEST Journal. 2002;121(5):S136-41.
5. กระทรวงสาธารณสุข สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์. สถิติสาธารณสุข 2554. [อินเตอร์เน็ต]. 2554. [วันที่สืบค้น 8 กรกฎาคม 2559]. เข้าถึงได้: http//:www.bhps.moph.go.th
6. จันทร์จิรา วิรัช. ผลของโปรแกรมการฟื้นฟูสมรรถภาพปอดต่อการหายใจลำบากและคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง. [วิทยานิพนธ์]. เชียงใหม่: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่; 2542.
7. Anto JM, Vermeire P, Vestbo J, Sunyer J. Epidemiology of chronic obstructive pulmonary
disease. Eur Respir J. 2001;17:982-94.
8. ทัศนวรรณ กันทาทอง. ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังในอำเภอเชียงดาว
จังหวัดเชียงใหม่. [วิทยานิพนธ์]. เชียงใหม่: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่; 2550.
9. Global Initiative for chronic obstructive lung disease (GOLD). Guidelines: global strategy for the diagnosis, management, and prevention of chronic obstructive pulmonary disease 2011. [Internet] 2011. [cited 2015 Dec 25]. Available from: http://www. goldcopd.org
10. สมาคมอุรเวชช์แห่งประเทศไทย. แนวทางการวินิจฉัยและรักษาโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังในประเทศไทย (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2548). กรุงเทพมหานคร: สมาคมอุรเวชช์แห่งประเทศไทย, 2548.
11. Daniel WW. Biostatistics: A foundation of analysis in health sciences. 9th ed. USA: John Wiley & Sons; 2010.
12. กัจนา ภู่วิลัย. ปัจจัยคัดสรรที่ร่วมทำนายคุณภาพชีวิตผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง. วารสารการพยาบาลและสุขภาพ. ขอนแก่น: คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น; 2555:6(2):12-24.
13. Paul WJ, Yuonne F. St. George’s Respiratory Questionnaire for COPD Patients(SGRQ-C) Manual. 2012;1(2):3-11.
14. พจนีย์ ขูลีลัง. คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง. [วิทยานิพนธ์]. ขอนแก่น: มหาวิทยาลัยขอนแก่น; 2545.
15. Gift GA. Validation of a vertical visual analog scale as a measure of clinical dyspnea.
Rehabilitation Nursing Journal. 1989;14(6):323-5.
16. Cronbach LJ. Essentials of psychological testing. 5th ed. New York: Harper Collins Inc; 1990.
17. สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ. คู่มือหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าแห่งชาติ. นนทบุรี: สำนักงาน
หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ; 2552.
18. วิระพล ภิมาลย์. ผลลัพธ์ของการให้ความรู้และคำแนะนำปรึกษาด้านยาแก่ผู้ป่วยนอกโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง ณ โรงพยาบาลท่าวังผา. [วิทยานิพนธ์]. มหาสารคาม: มหาวิทยาลัยมหาสารคาม; 2550.
19. Decramer M, Janssens W, Miravitlles M. Chronic obstructive pulmonary disease. Lancet. 2012; 379(9823):1341–51.
20. มณฑกานต์ เวชชาภินันท์. ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อคุณภาพชีวิตผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นรื้อรัง. [วิทยานิพนธ์]. นครศรีธรรมราช: มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์; 2553.
21. Goldman L, Andrew SI. Goldman’s cecil medicine. 24th ed. Philadelphia: Elsevier. 2012.
22. Jiménez-Ruiz CA, Fagerström KO. Smoking cessation treatment for COPD smokers: the role of counselling. Monaldi Arch Chest Dis. 2013;79(1): 33–7.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2018-12-20

รูปแบบการอ้างอิง

1.
กมลศิริ ส, เจียมจรัสรังษี ว, ละกำปั่น ส, สันติภาพ ป, ขันสาคร ณ. ปัจจัยทำนายคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังในโรงพยาบาลชุมชน จังหวัดฉะเชิงเทรา. Journal of Health Sciences and Wellness [อินเทอร์เน็ต]. 20 ธันวาคม 2018 [อ้างถึง 5 ธันวาคม 2025];22(43-44):27-42. available at: https://he01.tci-thaijo.org/index.php/HCUJOURNAL/article/view/161344

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย