พฤติกรรมการสร้างเสริมสุขภาพของนักศึกษาพยาบาลที่มีดัชนีมวลกายเกินมาตรฐาน มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ
คำสำคัญ:
พฤติกรรมการสร้างเสริมสุขภาพ, ดัชนีมวลกายเกินมาตรฐานบทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาพฤติกรรมการสร้างเสริมสุขภาพของนักศึกษาพยาบาลที่มีดัชนีมวลกาย เกินมาตรฐาน เก็บรวบรวมข้อมูล ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2560 จากนักศึกษาพยาบาลชั้นปีที่ 1-4 มหาวิทยาลัยหัวเฉียว เฉลิมพระเกียรติ ปีการศึกษา 2560 ที่มีดัชนีมวลกายเกินมาตรฐาน จำนวน 98 คน จำแนกกลุ่มนักศึกษาพยาบาล ตามเกณฑ์ ดัชนีมวลกายเกิน ขององค์การอนามัยโลก คือ กลุ่มที่มีน้ำหนักเกิน (BMI 23.00-24.99 กิโลกรัม/เมตร2 ) กลุ่มอ้วนระดับ 1 (BMI 25.00-29.99 กิโลกรัม/เมตร2 ) และกลุ่มอ้วนระดับ 2 (BMI ≥ 30 กิโลกรัม/เมตร2) โดยใช้แบบสอบถามที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นตามกรอบแนวคิดการสร้างเสริมสุขภาพของเพนเดอร์ (Pender) ซึ่งผ่านการทดสอบความตรงของเนื้อหา ได้ค่าดัชนีความเที่ยงเชิงเนื้อหา (content validity index) เท่ากับ 0.85 หาความเที่ยงของเครื่องมือ ได้ค่าสัมประสิทธิ์แอลฟาครอนบาคเท่ากับ 0.91 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติ one-way ANOVA
ผลการวิจัย พบว่า คะแนนเฉลี่ยรวมของพฤติกรรมการสร้างเสริมสุขภาพของนักศึกษาที่มีดัชนีมวลกายเกินมาตรฐานในแต่ละระดับอยู่ในระดับปานกลาง คะแนนเฉลี่ยรายด้านการรับรู้ประโยชน์ การรับรู้อุปสรรค การรับรู้แรงสนับสนุน การรับรู้ความสามารถของตนเอง และการปฏิบัติตามแนวพฤติกรรมการสร้างเสริมสุขภาพของนักศึกษาที่มี ดัชนีมวลกายเกินมาตรฐานในแต่ละระดับแตกต่างกันอย่างไม่มีนัยสำคัญ
ข้อเสนอแนะ ควรมีการส่งเสริมให้เกิดพฤติกรรมการสร้างเสริมสุขภาพให้มากขึ้น เนื่องจากเป็นตัวแบบด้านสุขภาพของประชาชน
Downloads
เอกสารอ้างอิง
2. นิชาภา เลิศชัยเพชร. พฤติกรรมสุขภาพกับภาวะน้ำหนักเกินของประชากรวัยแรงงานกรณีศึกษาพื้นที่เฝ้าระวังทางประชากรกาญจนบุรี. [วิทยานิพนธ์]. นครปฐม: มหาวิทยาลัยมหิดล; 2553.
3. สุวรรณา ถาวรรุ่งโรจน์. ตัวบ่งชี้และช่วงของค่าที่ใช้บ่งชี้โรคอ้วน. สงขลานครินทร์เวชสาร. 2554;29(2):89-96.
4. ชุติมา ศิริกุลชยานนท์. โรคอ้วนในเด็กวัยเรียน. กรุงเทพมหานคร: เบสท์กราฟฟิกเพลส; 2554.
5. ชญานิกา ศรีวิชัย, ภัทร์ภร อยู่สุข, วนิดา แพร่ภาษา. ภาวะโภชนาการเกินในเด็กวัยเรียนชั้นประถมศึกษา1-6 โรงเรียนวัดมูลจินดารามและโรงเรียนธัญสิทธิ์ศิลป์. วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยอิสเทิร์นเอเชีย. 2556;7(1):44.
6. สมศักดิ์ ถิ่นขจี, พูลศักดิ์ พุ่มวิเศษ. พฤติกรรมการลดความอ้วนของนักศึกษาระดับปริญญาตรี จังหวัดนนทบุรี. วารสารบัณฑิตศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์. 2556;10(1):8.
7. โรคอ้วนจากความเครียด. [อินเทอร์เน็ต]. 2544 [เข้าถึงเมื่อ 6 ตุลาคม 2560]. เข้าถึงจาก https://www.bangkokhealth.com/index.php/health/health-system/psychiatry
8. ทัศนา ทวีคูณ, พัชรินทร์ นินทจันทร์, โสภณ แสงอ่อน. ปัจจัยทำนายความเครียดของนักศึกษาพยาบาลศาสตร์มหาบัณทิต. วารสารกระทรวงสารธารณสุข. 2555;22(3):2-11.
9. เบญจมาศ สุขศรีเพ็ง. รูปแบบการส่งเสริมสุขภาพของเพนเดอร์ (Pender’s Health Promoting Model) [อินเทอร์เน็ต]. 2013 [เข้าถึงเมื่อ 6 พฤศจิกายน 2560]. เข้าถึงจาก https://www.gotoknow.org/posts/115422
10. Pender NJ. Health promotion in nursing practice. 3rd ed. Stanford CT: Appleton and Lange; 1996.
11. World Health Organization. The Asia-Pacific perspective redefining obesity and its
treatment [Internet]. 2000 [Cited 2017 Nov 3]. Available from: https://www.wpro.who.int/nutrition/documents/docs/Redefiningobesity.pdf
12. สุรีรัตน์ รุ่งเรือง, สมเกียรติ สุขนันตพงศ์. พฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพของนักศึกษา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี. วารสารพฤติกรรมศาสตร์. 2554;17(1):109-23.
13. ศิวาพร ทองสุข, พรรณวดี พุธวัฒนะ, พิศสมัย อรทัย. พฤติกรรมสร้างเสริมสุขภาพของนักศึกษาพยาบาลรามาธิบดี. พยาบาลศาสตร์สาร 2555;18(2):178-89.
14. Srof B, Velsor-Friedrich B. Health promotion in adolescents : A review of Pender’s health promotion. Nurs Sci Q. 2006;19(4):366-73.
15. เพิ่ม “เมตาโบลิซึ่ม ลดอ้วน ลดไขมัน” [อินเทอร์เน็ต]. มปป [เข้าถึงเมื่อ 6 พฤศจิกายน 2560]. เข้าถึง
จาก: https://www.ladytip.com/lose- weight/more-metabolism-more-burn.html
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิทยาศาสตร์สุขภาพและสุขภาวะ
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ และคณาจารย์ท่านอื่นๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว
