การศึกษาโปรแกรมส่งเสริมสุขภาพจิตและป้องกัน โรคซึมเศร้าเชิงสังคมและวัฒนธรรมในผู้สูงอายุ ตำบลดอนมนต์ อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์
บทคัดย่อ
การวิจัยเชิงปฏิบัติการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาโปรแกรมส่งเสริมสุขภาพจิตและป้องกันโรค ซึมเศร้าเชิงสังคมและวัฒนธรรมในผู้สูงอายุ 2) ศึกษาผลและเปรียบเทียบผลของโปรแกรมต่อสุขภาพจิต และความเสี่ยงต่อการเกิดโรคซึมเศร้าในผู้สูงอายุ กลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้สูงอายุตำบลดอนมนต์ อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ คัดเลือกแบบเจาะจง 124 คน สุ่มอย่างง่ายเป็นกลุ่มทดลอง 62 คน กลุ่มควบคุม 62 คน การศึกษามี 4 ระยะ คือ ระยะที่ 1 ทำความเข้าใจสถานการณ์ ให้ความรู้การสร้างเสริมสุขภาพจิตและ การป้องกันโรคซึมเศร้า ระยะที่ 2 กำหนดโปรแกรมการส่งเสริมสุขภาพจิตและป้องกันโรคซึมเศร้าเชิงสังคม และวัฒนธรรม ระยะที่ 3 ทดลองใช้โปรแกรม ระยะที่ 4 ประเมินผลโปรแกรม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย 1) แบบประเมินสุขภาพจิตคนไทย (Thai Mental Health Indicators ; TMHI – 55) ของกรมสุขภาพจิต 2) แบบประเมินภาวะซึมเศร้า 2 คำถาม (2Q) ของกรมสุขภาพจิต 3) แนวทาง การสนทนากลุ่ม 4) โปรแกรมการส่งเสริมสุขภาพจิตและป้องกันโรคซึมเศร้าเชิงสังคมและวัฒนธรรม ซึ่งประกอบด้วย การให้ความรู้ การออกกำลังกายประกอบเพลงพื้นเมืองประยุกต์ การรวมกลุ่มรับประทาน อาหาร ติดตามเยี่ยมบ้านและจัดประกวดแข่งขันการออกกำลังกาย คุณภาพของโปรแกรมมีค่า IOC .87 ผลการวิจัย พบว่า หลังเข้าร่วมโปรแกรมกลุ่มทดลองมีคะแนนเฉลี่ยสุขภาพจิตเพิ่มขึ้น สุขภาพจิตดีกว่าคนทั่วไป ความเสี่ยงการเกิดโรคซึมเศร้าลดลง เมื่อเปรียบเทียบคะแนนสุขภาพจิตก่อนและหลังเข้าโปรแกรม พบว่า กลุ่มทดลองมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.05) รวมทั้งเมื่อเปรียบเทียบความ แตกต่างของคะแนนสุขภาพจิตระหว่างกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุมหลังเข้าร่วมโปรแกรม พบว่า มีความ แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p< 0.05) โปรแกรมดังกล่าวสามารถส่งเสริมและป้องกันปัญหา สุขภาพจิตในผู้สูงอายุได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Downloads
เอกสารอ้างอิง
article_attach.
นารีรัตน์ จิตรมนตรี. ประชากรผู้สูงอายุ: แนวโน้มและประเด็นการดูแลผู้สูงอายุ. ใน วิไลวรรณ ทองเจริญ, บรรณาธิการ. ศาสตร์และศิลป์การพยาบาลผู้สูงอายุ. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพมหานคร :
โครงการตำราคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล; 2558. หน้า 1-17.
มูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาผู้สูงอายุไทย. รายงานสถานการณ์ผู้สูงอายุไทย พ.ศ. 2551 [อินเทอร์เน็ต]. 2552 [เข้าถึงเมื่อ 25 สิงหาคม 2557]. เข้าถึงจาก: http://www.ryt9.com/s/cabt/800885.
Wang J, Chen CY, Lai LJ, Chen ML, Chen MY. The effectiveness of community-based health promotion program for rural elders: a quasi-experimental design. Applied
Nursing Research. 2014;27:181-5.
ณัฐิกา ราชบุตร, ดารารัตน์ บุญปก, วิจารย์ ชูรัตน์. การสร้างเสริมสุขภาพผู้สูงอายุแบบมีส่วนร่วม: คนสี่วัยหัวใจรักเดียวกัน. ศรีสะเกษ: มหาวิทยาลัยเฉลิมกาญจนา; 2557.
ชุติเดช เจียนดอน, นวรัตน์ สุวรรณผ่อง, ฉวีวรรณ บุญสุยา, นพพร โหวธีรกุล. คุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุในชนบท อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา. วารสารสารธารณสุข. 2554;41(3):229-39.
โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลดอนมนต์ อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์. รายงานผลการดำเนินงานประจำปี 2558. บุรีรัมย์: ม.ป.พ.
Lee, WT, Ko SI, Lee JK. Health promotion behaviors and quality of life among community-dwelling elderly in Korea: A cross-sectional survey. International Journal
of Nursing Studies. 2006;43:293-300.
Koch S, Kunz T, Lykou S, Cruz R. Psychotherapy effects of dance movement therapy and dance on health – related psychological outcomes: a meta – analysis. The Arts
in Psychotherapy. 2014;41:46–64.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิทยาศาสตร์สุขภาพและสุขภาวะ
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ และคณาจารย์ท่านอื่นๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว
