การหาสภาวะที่เหมาะสมในการสกัดสารประกอบฟีนอลิก และฟลาโวนอยด์จากขิง โดยใช้วิธีพื้นผิวตอบสนอง

ผู้แต่ง

  • กาญจณา ขันทกะพันธ์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
  • เยาวภา สุขพรมา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์

คำสำคัญ:

ขิง, ฟีนอลิก, ฟลาโวนอยด์, พื้นผิวตอบสนอง

บทคัดย่อ

งานวิจัยนี้ศึกษาสภาวะที่เหมาะสมสำหรับการสกัดฟีนอลิกและฟลาโวนอยด์ รวมทั้งผลการต้าน อนุมูลอิสระของสารสกัดที่ได้เทียบกับ DPPH ในพืชขิง (Zingiber officinale Roscoe) โดยใช้การสกัด ด้วยตัวทำละลายร่วมกับการเขย่า ออกแบบการทดลองและศึกษาสภาวะที่เหมาะสมสำหรับการสกัดด้วย วิธีพื้นที่ผิวตอบสนอง (response surface methodology, RSM) แบบ Box Behnken design ผล การวิจัยสกัดขิงพบว่า สภาวะที่เหมาะสมสามารถสกัดฟีนอลิกได้สูงสุดร้อยละ 2.23 โดยน้ำหนัก คือ อุณหภูมิ 60 องศาเซลเซียส และใช้เอทานอลร้อยละ 77 โดยปริมาตร และสภาวะที่เหมาะสมสามารถ สกัดฟลาโวนอยด์จากขิงได้สูงสุดร้อยละ 2.19 โดยน้ำหนัก คือ อุณหภูมิ 40 องศาเซลเซียส เวลาในการ สกัด 3 ชั่วโมง ความเข้มข้นเอทานอลร้อยละ 80 โดยปริมาตร ทั้งนี้สารสกัดขิงที่ได้มีฤทธิ์ในการต้าน อนุมูลอิสระสูงสุด เท่ากับร้อยละ 62.52 โดยน้ำหนัก ภายใต้สภาวะการสกัดที่อุณหภูมิ 49 องศา เซลเซียส เวลาในการสกัดนาน 6 ชั่วโมง และความเข้มข้นเอทานอลร้อยละ 74โดยปริมาตร ค่า สัมประสิทธิ์การกำหนด (r2) จากสมการสหสัมพันธ์ที่ใช้ทำนายผลได้การสกัด ฟีนอลิก ฟลาโวนอย์ และ ความสามารถการต้านอนุมูลอิสระ คือ 0.93, 0.94 และ 0.91 ตามลำดับ การวิเคราะห์รูปพื้นผิวตอบ สนองพบว่า เวลาในการสกัดเป็นตัวแปรที่มีนัยสำคัญมากที่สุดต่อผลได้การสกัดของฟีนอลิก ส่วนความ เข้มข้นของเอทานอลมีผลมากที่สุดต่อฟลาโวนอยด์และความสามารถในการยับยั้งฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ของสารสกัดจากขิง

Downloads

Download data is not yet available.

เอกสารอ้างอิง

จินดาพร คงเดช ณัฎฐา เลาหกุลจิตต์ และอรพิน เกิดชูชื่น. (2552) “ประสิทธิภาพของการเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ และการยั้บยั้งเอนไซม์ไทโรชิเนสของสารสกัดจากพืช 5 ชนิด” วารสาร
วิทยาศาสตร์เกษตร. 40 : (1 พิเศษ) หน้า 83-86.

ถนอมศรี วงศ์รัตนาสถิต. (2538) ตำราเอกลักษณ์สมุนไพร. กรุงเทพมหานคร : ภาควิชาเภสัชวินิจฉัย คณะเภสัชศาสตร์. มหาวิทยาลัยมหิดล.

Box, G. E. P. and Behnken, D. W. (1960) “Some new three level designs for the study of quantitative variables” Technometrics. 2 page 455-475.

Esam, H. M. and Ali, H. K. (2000) “Evaluation of antioxidant of some plant extracts and their application to ground beef patties” J. Food Chemistry. (69) page 135-141.

Ghasemzadeh, A., Jaafar, H. and Rahmat A. (2011) “Effects of solvent type on phenolics and flavonoids content and antioxidant activities in two varieties of young ginger
(Zingiber officinale Roscoe) extracts” J. Medicinal Plants Research. 5 (7) page 1147-1154.

Habsah, M. et al. (2000) “Screening of Zingiberaceae extracts for antimicrobial and antioxidant activities” J. Ethnopharmacology. 72 page 403-410.

Liu, Z. L. and Ho, S. H. (1999) “Bioactivity of the essential oil extracted from Evodia rutaecarpa Hook f. et Thomas against the grain storage insects, Sitophilus
zeamais Motsch. And Tribolium castaneum (Herbst)” J. Stored Products Research. 35 page 317-328.

Nguefack, J. et al. (2004) “Evaluation of five essential oil fromaromatic plant of Cameroon for controlling food spoilage and mycotoxin producing fungi” International
Journal of Food Microbiology. 94 page 329-334.

Zaeoung, S., A Plubrukarn and N. Keawpradub. (2005) “Cytotoxic and free radical scavenging activities of Zingiberaceous rhizomes” J. Songklanakarin Sci. Technol. 27(4) page 799-812.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2016-12-27

รูปแบบการอ้างอิง

1.
ขันทกะพันธ์ ก, สุขพรมา เ. การหาสภาวะที่เหมาะสมในการสกัดสารประกอบฟีนอลิก และฟลาโวนอยด์จากขิง โดยใช้วิธีพื้นผิวตอบสนอง. Journal of Health Sciences and Wellness [อินเทอร์เน็ต]. 27 ธันวาคม 2016 [อ้างถึง 30 ธันวาคม 2025];20(39):69-80. available at: https://he01.tci-thaijo.org/index.php/HCUJOURNAL/article/view/149497

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย