ความคงตัวของสไปโรโนแลคโตนในผลิตภัณฑ์ยาเตรียมพิเศษเฉพาะราย: ผลของอุณหภูมิการเก็บรักษาและชนิดของวัสดุบรรจุภัณฑ์

ผู้แต่ง

  • Paveena Wongtrakul Department of Pharmaceutical Technology, Faculty of Pharmacy, Huachiew Chalermprakiet University
  • Jittida Shoosanglertwijit Department of Pharmacy, King Chulalongkorn Memorial Hospital

คำสำคัญ:

สไปโรโนแลคโตน, ยาเตรียมพิเศษเฉพาะราย, ความคงตัว, จุลชีพ

บทคัดย่อ

วัตถุประสงค์ของงานวิจัยนี้เพื่อศึกษาความคงตัวทางกายภาพ ทางเคมีและการเกิดเชื้อจุลชีพ ของยาเตรียมสไปโรโนแลคโตนความเข้มข้น 2 มิลลิกรัมต่อมิลลิลิตรที่เตรียมสำหรับผู้ป่วยเฉพาะรายใน โรงพยาบาล โดยบรรจุยาเตรียมในขวดต่างชนิดกัน 3 ประเภท ยาเตรียมสไปโรโนแลคโตนสำหรับผู้ป่วยเฉพาะรายเตรียมได้จากยาเม็ดสไปโรโนแลคโตน ขนาด 25 มิลลิกรัมผสมกับน้ำกระสายยาให้มีความเข้มข้นของตัวยาสำคัญเท่ากับ 2 มิลลิกรัมต่อมิลลิลิตร นำยาที่ เตรียมได้บรรจุใส่ขวด HDPE, PET และขวดแก้วสีชา เก็บไว้ในตู้เย็นที่อุณหภูมิ (5±3 องศาเซลเซียส) และ อุณหภูมิห้อง (30±3 องศาเซลเซียส) นำตัวอย่างยาจากขวดต่าง ๆ มาวิเคราะห์หาปริมาณตัวยาสไปโรโน แลคโตนเมื่อเตรียมเสร็จใหม่และที่เวลา 7, 14, 30, 60 และ 90 วัน โดยใช้เทคนิคโครมาโตรกราฟฟี่ สมรรถนะสูง ความคงตัวทางเคมีของยาสไปโรโนแลคโตนในตำรับได้จากการคำนวณร้อยละของยาที่เหลือ อยู่ที่เวลาต่าง ๆ ร้อยละของยาสไปโรโนแลคโตนต้องมีค่ามากกว่า 90 ของปริมาณยาตั้งต้นจึงจะจัดว่ายา เตรียมนั้นมีความคงตัว ทำการประเมินความคงตัวทางกายภาพและเชื้อจุลชีพเป็นระยะ

ผลจากการศึกษา พบว่าปริมาณตัวยาสไปโรโนแลคโตนยังคงเหลืออยู่ในตำรับอย่างน้อยร้อยละ 90 ของปริมาณยาตั้งต้น เมื่อเวลาผ่านไป 30 วัน โดยไม่ขึ้นกับชนิดของภาชนะบรรจุ ลักษณะของยาเตรียม เช่นสีและการกระจายตัวของผงยาของตัวอย่างที่เก็บไว้ในตู้เย็นและที่อุณหภูมิห้องไม่มีการเปลี่ยนแปลง ใน ขณะที่ค่าความเป็นกรด-ด่างของตำรับที่เก็บไว้ที่อุณหภูมิห้องมีค่าลดลงเรื่อย ๆ จากค่าตั้งต้น ไม่พบเชื้อ จุลชีพในตำรับตลอดระยะเวลา 30 วัน

Downloads

Download data is not yet available.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2017-12-29

รูปแบบการอ้างอิง

1.
Wongtrakul P, Shoosanglertwijit J. ความคงตัวของสไปโรโนแลคโตนในผลิตภัณฑ์ยาเตรียมพิเศษเฉพาะราย: ผลของอุณหภูมิการเก็บรักษาและชนิดของวัสดุบรรจุภัณฑ์. Journal of Health Sciences and Wellness [อินเทอร์เน็ต]. 29 ธันวาคม 2017 [อ้างถึง 30 ธันวาคม 2025];21(41):27-39. available at: https://he01.tci-thaijo.org/index.php/HCUJOURNAL/article/view/146016

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย