ผลของการให้ข้อมูลการเตรียมความพร้อมเข้าสู่กระบวนการรักษาด้วยยาเคมีบำบัด ต่อความรู้ ความพร้อม และความพึงพอใจในผู้ป่วยมะเร็งเต้านม

ผู้แต่ง

  • ขวัญเรือน แพรุ้งสกุล พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ คลินิกเฉพาะทางโรคมะเร็ง โรงพยาบาลราชบุรี

คำสำคัญ:

การให้ข้อมูลการเตรียมความพร้อม, ความรู้, ความพึงพอใจ, เคมีบำบัด, มะเร็งเต้านม

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยกึ่งทดลองแบบสองกลุ่มวัดก่อนและหลังทดลอง เพื่อศึกษาผลของการให้ข้อมูลการเตรียมความพร้อมเข้าสู่กระบวนการรักษาด้วยยาเคมีบำบัดต่อความรู้ ความพร้อม และความพึงพอใจในผู้ป่วยมะเร็งเต้านม กลุ่มตัวอย่างคือผู้ป่วยมะเร็งเต้านมรายใหม่ไม่เคยได้รับยาเคมีบำบัด เข้ารับการรักษาที่คลินิกเฉพาะทางโรคมะเร็ง โรงพยาบาลราชบุรี จำนวน 50 คน แบ่งเป็นกลุ่มควบคุมและกลุ่มทดลอง กลุ่มละ 25 คน กลุ่มควบคุมได้รับการดูแลตามมาตรฐาน กลุ่มทดลองได้รับการให้ข้อมูล เครื่องมือวิจัยประกอบด้วยแบบทดสอบความรู้ แบบบันทึกการเตรียมความพร้อม และแบบประเมินความพึงพอใจ ผ่านการตรวจสอบความตรงเชิงเนื้อหาจากผู้ทรงคุณวุฒิ 3 คน ได้ค่าดัชนีความตรงตามเนื้อหาเท่ากับ 0.83, 1 และ 0.92 ตามลำดับ และหาความเชื่อมั่นของแบบทดสอบความรู้โดยสูตรเคอาร์-20 ได้เท่ากับ 0.77 หาความเชื่อมั่นของแบบบันทึกการเตรียมความพร้อม และแบบประเมินความพึงพอใจโดยสูตรสัมประสิทธิ์แอลฟาของครอนบาคได้เท่ากับ 0.80 และ 0.82 ตามลำดับ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนาและการทดสอบทีแบบสองกลุ่มอิสระต่อกันและสองกลุ่มสัมพันธ์กัน

ผลการวิจัยพบว่า (1) หลังการให้ข้อมูล กลุ่มทดลองมีคะแนนความรู้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติในด้านความรู้เรื่องโรคมะเร็งเต้านม (p=0.002) (2) คะแนนความรู้ของกลุ่มควบคุมกับกลุ่มทดลองไม่แตกต่างกัน (3) กลุ่มควบคุมและกลุ่มทดลองมีความพร้อมในระดับสูง (>ร้อยละ 92) โดยกลุ่มทดลองมีความพร้อมสูงกว่าในการเตรียม CT chest, upper abdomen (ร้อยละ 96 กับ ร้อยละ 92) (4) กลุ่มควบคุมและกลุ่มทดลองมีความพึงพอใจในระดับสูง (คะแนนเฉลี่ย 4.30-4.33) โดยพบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติในด้านระยะเวลารอคอยการนัดหมาย (p<.05) ผลการวิจัยนี้สามารถนำไปพัฒนาระบบการให้ข้อมูลและการเตรียมความพร้อมผู้ป่วยมะเร็งเต้านมก่อนเข้าสู่กระบวนการรักษาด้วยยาเคมีบำบัดให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

เอกสารอ้างอิง

งานสารสนเทศ โรงพยาบาลราชบุรี. (2566). ข้อมูลผู้ป่วยมะเร็งเต้านม (ปี 2564-2566). โรงพยาบาลราชบุรี.

จารุนี แก้วอุบล. (2563). ประสิทธิผลของโปรแกรมการให้ข้อมูลต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยมะเร็งเต้านมที่ได้รับการผ่าตัดเต้านม. วารสารวิชาการสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม, 4(7), 13-27.

ญาณิกา เชษฐโชติศักดิ์, พนมไพร สิทธิวงศา, และพรรณทิพา ว่องไว. (2556). ผลของการให้ข้อมูลต่อความวิตกกังวล ความรู้ และการปฏิบัติของมารดาทารกคลอดก่อนกำหนดที่มีความผิดปกติที่จอตา. ศรีนครินทร์เวชสาร, 20(2), 155-161.

นิพิฐพนธ์ สนิทเหลือ, วัชรีพร สาตร์เพ็ชร์, และญาดา นภาอารักษ์. (2562). การคำนวณขนาดตัวอย่างด้วยโปรแกรมสำเร็จรูป G*POWER. วารสารวิชาการสถาบันเทคโนโลยีแห่งสุวรรณภูมิ, 5(1), 496-507.

พรสวรรค์ วุฒิสวัสดิ์, พิชญาพร ประคองใจ, และธีรพจน์ ไธสง. (2559). ความแตกฉานด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพของผู้ป่วยสตรีภายหลังผ่าตัดมะเร็งเต้านม. วารสารพยาบาลสงขลานครินทร์, 36(3), 1-17.

เพ็ญนภา แดงด้อมยุทธ์, เกศรินทร์ อุทริยะประสิทธิ์, และวัลลภา ทองน้อย. (2565). การพัฒนาแนวปฏิบัติการพยาบาลในการเตรียมความพร้อมผู้ป่วยมะเร็งเต้านมก่อนได้รับยาเคมีบำบัด. วารสารการพยาบาลและการดูแลสุขภาพ, 40(1), 98-107.

รุ่งนภา เขียวชะอ่ำ, นงนุช โอบะ, และเนตรนภา ขุมทอง. (2562). ผลของโปรแกรมการส่งเสริมการจัดการ ตนเองต่อการรับรู้อาการรบกวนและคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยมะเร็งเต้านมที่ได้รับเคมีบำบัด. วารสารพยาบาลทหารบก, 20(1), 187-194.

วงศ์พร เจริญสุข, มยุรี นิรัตธราดร, และพัชรียา ไชยลังกา. (2562). ผลของโปรแกรมการให้ข้อมูลต่อการรับรู้ความสามารถในการจัดการตนเองของผู้ป่วยมะเร็งเต้านมที่ได้รับเคมีบำบัด. วารสารพยาบาลสงขลานครินทร์, 39(3), 67-79.

ศิรินภา มะณีพันธ์, จินตนา ตรีวรรณกุล, และพรรณนิภา พงษ์พิริยะเดชะ. (2564). ผลของโปรแกรมการให้ข้อมูลการดูแลตนเองต่อความรู้ ความวิตกกังวล และคุณภาพชีวิตในผู้ป่วยมะเร็งเต้านมที่ได้รับยาเคมีบำบัด. วารสารการพยาบาลและการศึกษา, 14(3), 28-44.

สถาบันมะเร็งแห่งชาติ. (2566). รายงานสถิติมะเร็งเต้านมในประเทศไทย: อุบัติการณ์และอัตราการเสียชีวิต. กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข.

สุพรทิพย์ ธนาโรจน์กุล. (2563). ผลของโปรแกรมการให้ข้อมูลอย่างมีแบบแผนต่อความรู้และพฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดต่อมไทรอยด์. วารสารพยาบาลกระทรวงสาธารณสุข, 30(2), 140-153.

Bloom, B. S. (1971). Handbook on formative and summative evaluation of student learning. McGraw-Hill.

Charalambous, A., Wells, M., Campbell, P., et al. (2018). A scoping review of trials of interventions led by nurses to improve quality of life in patients with cancer. Cancer Nursing, 41(5), 332-343.

Faul, F., Erdfelder, E., Lang, A. G., & Buchner, A. (2007). G*Power 3: A flexible statistical power analysis program for the social, behavioral, and biomedical sciences. Behavior Research Methods, 39(2), 175-191.

Orem, D. E. (2001). Nursing: Concepts of practice (6th ed.). Mosby.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-06-05

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย