ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการจัดการครอบครัวในผู้ดูแลเด็กโรคหัวใจพิการแต่กำเนิดหลังผ่าตัดหัวใจ
คำสำคัญ:
การจัดการครอบครัว, โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด, การผ่าตัดหัวใจ, ผู้ดูแลบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงพรรณนาแบบหาความสัมพันธ์ เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคลของครอบครัว และการสนับสนุนทางสังคม กับการจัดการครอบครัวในผู้ดูแลเด็กโรคหัวใจพิการแต่กำเนิดหลังผ่าตัดหัวใจ กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ดูแลเด็กโรคหัวใจพิการแต่กำเนิดหลังผ่าตัดหัวใจ ที่มาติดตามการรักษาที่แผนกผู้ป่วยนอก โรงพยาบาลระดับตติยภูมิในภาคเหนือ 3 แห่ง และศูนย์หัวใจในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 1 แห่ง รวมจำนวน 85 คน เครื่องมือการวิจัยประกอบด้วย แบบสอบถามข้อมูลส่วนบุคคลของครอบครัวและเด็ก แบบสอบถามการสนับสนุนทางสังคมและแหล่งสนับสนุนทางสังคมของครอบครัวเด็กโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด มีค่าความเชื่อมั่น .85 และแบบสอบถามการจัดการครอบครัว มีค่าความเชื่อมั่นอยู่ในช่วง .80–.83 เก็บรวบรวมข้อมูลในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงเดือนพฤศจิกายน 2563 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สหสัมพันธ์อีต้า และสหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน
ผลการวิจัยพบว่า ผู้ดูแลเด็กโรคหัวใจพิการแต่กำเนิดหลังผ่าตัดหัวใจมีคะแนนเฉลี่ยการสนับสนุนทางสังคมโดยรวมในระดับมาก (M = 128.16, SD = 16.27) และมีคะแนนเฉลี่ยการจัดการครอบครัวโดยรวมในระดับปานกลาง (M = 136.85, SD = 12.09) การสนับสนุนทางสังคมมีความสัมพันธ์ทางบวกกับการจัดการครอบครัวด้านชีวิตประจำวันของเด็ก และด้านความสามารถในการจัดการสภาวะความเจ็บป่วยในผู้ดูแลเด็กโรคหัวใจพิการแต่กำเนิดหลังผ่าตัดหัวใจอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (r = .504, p < .001 และ r = .514, p < .001 ตามลำดับ) และการสนับสนุนทางสังคมมีความสัมพันธ์ทางลบกับการจัดการครอบครัวด้านความยากลำบากในชีวิตครอบครัวในผู้ดูแลเด็กโรคหัวใจพิการแต่กำเนิดหลังผ่าตัดหัวใจอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (r = -.337, p < .01)
จากการวิจัยครั้งนี้มีข้อเสนอแนะว่า พยาบาลควรให้การสนับสนุนทางสังคมแก่ผู้ดูแลเด็กโรคหัวใจพิการแต่กำเนิดหลังผ่าตัดหัวใจ เพื่อให้มีการจัดการครอบครัวในการดูแลเด็กโรคหัวใจพิการแต่กำเนิดหลังผ่าตัดที่เหมาะสม
เอกสารอ้างอิง
กรกนก สุขพันธ์. (2556). โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด. ใน สุรีย์ เลขวรรณวิจิตร (บ.ก.), พยาธิวิทยาของโรคหัวใจ (น. 33–81). โรงพิมพ์คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
เกษร เกษมสุข, และอุษณีย์ บุญบรรจบ. (2561). การส่งเสริมพัฒนาการวัยผู้ใหญ่ตอนต้น: บทบาทของพยาบาล. แพทยสารทหารอากาศ, 64(3), 101–107.
โชคชัย หมั่นแสวงทรัพย์. (2552). เลี้ยงลูกอย่างไรให้มีสุข. สืบค้นจาก https://www.goo.gl/nGmzDc
ธนะรัตน์ ลยางกูร, สมพัน กลั่นดีมา, และแพรวดาว พันธุรัตน์. (2559). โรคหัวใจพิการแต่กำเนิดที่รุนแรงในทารกแรกเกิด. วารสารกรมการแพทย์, 41(4), 16–21.
พิมพาภรณ์ กลั่นกลิ่น. (2560). การพยาบาลเด็กเพื่อการสร้างเสริมสุขภาพ. เชียงใหม่: สมาร์ท โคตรติ้ง แอนด์ เซอร์วิส.
ภัทร์ภร อยู่สุข, ศิริยุพา สนั่นเรืองศักดิ์, และนฤมล ธีระรังสิกุล. (2562). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการจัดการของมารดาที่มีบุตรป่วยด้วยโรคธาลัสซีเมีย. วารสารพยาบาลตำรวจ, 11(1), 151–162.
มัณฑนา ประชุมจิตร, วนิดา เสนะสุทธิพันธุ์, และอรุณรัตน์ ศรีจันทรนิตย์. (2560). ผลของโปรแกรมการสอนเรื่องการให้ยาชนิดรับประทานหลังผ่าตัดหัวใจ ต่อความรู้และพฤติกรรมของผู้ดูแลเด็กโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด. วารสารพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล, 35(2), 39–51.
ศิริลักษณ์ สุมาดน, สุธิศา ล่ามช้าง, และฐิติมา สุขเลิศตระกูล. (2563). ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการจัดการครอบครัวในผู้ดูแลเด็กโรคธาลัสซีเมีย. วารสารพยาบาลตำรวจ, 12(1), 148–160.
สุภาพร วัฒนา. (2561). ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการจัดการครอบครัวในครอบครัวที่มีบุตรโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
อรุณรัตน์ ศรีจันทรนิตย์. (2558). มารู้จักโรคหัวใจพิการแต่กำเนิดในเด็กกันเถอะ. สืบค้นจาก http://www.ns.mahidol.ac.th/english/th/ns_academic/56/04/Heart_disease.html
American Heart Association. (2019). 2019 Heart disease & stroke statistical update fact sheet congenital cardiovascular defects. Retrieved from https://professional.heart.org/-/media/phd-files-2/science-news/2/2019-heart-and-stroke-stat-update/2019_stat_update_congenital_cardiovascular_defects_factsheet.pdf?la=en
Dordic, V., Tubic, T., & Jaksic, D. (2016). The relationship between physical, motor, and intellectual development of preschool children. Procedia - Social and Behavioral Sciences, 233, 3–7. doi:10.1016/j.sbspro.2016.10.114
Elshazali, O. H., Shazali, H. O. H. E., Yousif, E. M. A., & Osman, H. E. S. (2018). Parent’s knowledge about diagnosis and management of their children with congenital heart diseases in Khartoum, Sudan. Journal of Pediatrics & Neonatal Care, 8(6), 262–266. doi:10.15406/jpnc.2018.08.00353
Gannoni, A. F., & Shute, R. H. (2010). Parental and child perspectives on adaptation to childhood chronic illness: A qualitative study. Clinical Child Psychology and Psychiatry, 15(1), 39–53. doi:10.1177/1359104509338432
Hockenberry, M., Wilson, D., & Rodgers, C. C. (2017). Wong’s essentials of pediatric nursing (10th ed.). St. Louis, MO: Elsevier.
Hoffman, J. I. (2013). The global burden of congenital heart disease. Cardiovascular Journal of Africa, 24(4), 141–145. doi:10.5830/CVJA-2013-028
House, J. S. (1981). Work stress and social support. Reading, MA: Addison-Wesley.
House, J. S., Umberson, D., & Landis, K. R. (1988). Structures and processes of social support. Annual Review of Sociology, 14(1), 293–318. doi:10.1146/annurev.so.14.080188.001453
Ikiz, F. E., & Cakar, F. S. (2010). Perceived social support and self-esteem in adolescence. Procedia Social and Behavioral Sciences, 5, 2338–2342. doi:10.1016/j.sbspro.2010.07.460
Kahn‚ R. L.‚ Goldfarb‚ A. I.‚ Pollack‚ M.‚ & Peck‚ A. (1960). Brief objective measures for the determination of mental status in the aged. The American Journal of Psychiatry‚ 117, 326–328. doi:10.1176/ajp.117.4.326
Knafl, K. A., Deatrick, J. A., & Havill, N. L. (2012). Continued development of the family management style framework. Journal of Family Nursing, 18(1), 11–34. doi:10.1177/1074840711427294
Knafl, K. A., Deatrick, J. A., Knafl, G. J., Gallo, A. M., Grey, M., & Dixon, J. (2013). Patterns of family management of childhood chronic conditions and their relationship to child and family functioning. Journal of Pediatric Nursing, 28(6), 523–535. doi:10.1016/j.pedn.2013.03.006
Kuhlthau, K., Payakachat, N., Delahaye, J., Hurson, J., Pyne, J. M., Kovacs, E., & Tilford, J. M. (2014). Quality of life for parents of children with autism spectrum disorders. Research in Autism Spectrum Disorders, 8(10), 1339–1350. doi:10.1016/j.rasd.2014.07.002
Lantin-Hermoso, M. R., Berger, S., Bhatt, A. B., Richerson, J. E., Morrow, R., Freed, M. D., Beekman, R. H. (2017). The care of children with congenital heart disease in their primary medical home. Pediatrics, 140(5), e20172607. doi:10.1542/peds.2017-2607
Polit, D. F. (2010). Statistics and data analysis for nursing research (2nd ed.). Boston, MA: Pearson.
Sheng, N., Ma, J., Ding, W., & Zhang, Y. (2018). Family management affecting transition readiness and quality of life of Chinese children and young people with chronic diseases. Journal of Child Health Care, 22(3), 470–485. doi:10.1177/1367493517753712
Sheng, N., Ma, J., Ding, W., & Zhang, Y. (2020). Cluster analysis for family management of Chinese children with chronic kidney diseases. Journal of Health Psychology, 25(6), 755–765. doi:10.1177/1359105317733322
Weiss, M., Johnson, N. L., Malin, S., Jerofke, T., Lang, C., & Sherburne, E. (2008). Readiness for discharge in parents of hospitalized children. Journal of Pediatric Nursing, 23(4), 282–295. doi:10.1016/j.pedn.2007.10.005
Zhang, Y., Wei, M., Shen, N., & Zhang, Y. (2015). Identifying factors related to family management during the coping process of families with childhood chronic conditions: A multi-site study. Journal of Pediatric Nursing, 30(1), 160–173. doi:10.1016/j.pedn.2014.10.002
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2022 วารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เนื้อความ ข้อมูล และรายการอ้างอิงที่ผู้เขียนใช้ในการเขียนบทความเพื่อลงตีพิมพ์ในวารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี ถือเป็นความคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียน คณะผู้จัดทำวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นพ้องด้วยหรือร่วมรับผิดชอบ
บทความที่ได้รับการลงตีพิมพ์ในวารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี หากหน่วยงานหรือบุคคลใดต้องการนำส่วนหนึ่งหรือทั้งหมดของบทความไปเผยแพร่ต่อเพื่อวัตถุประสงค์ใด ๆ จะต้องได้รับอนุญาตจากบรรณาธิการวารสารก่อน