การพัฒนาหุ่นจำลองฝึกฉีดวัคซีนเข้าชั้นกล้ามเนื้อ และประสิทธิผลของการใช้หุ่นจำลองต่อทักษะการปฏิบัติและความพึงพอใจของนักศึกษาพยาบาลชั้นปีที่ 3
คำสำคัญ:
หุ่นจำลองฝึกฉีดวัคซีน, การฉีดยาเข้าชั้นกล้ามเนื้อ, นักศึกษาพยาบาล, ทักษะการปฏิบัติ, ความพึงพอใจบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยและพัฒนา เพื่อพัฒนาและศึกษาประสิทธิผลของการใช้หุ่นจำลองฝึกฉีดวัคซีนเข้าชั้นกล้ามเนื้อ ประกอบด้วย 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 การพัฒนาหุ่นจำลองฝึกฉีดวัคซีนเข้าชั้นกล้ามเนื้อ และระยะที่ 2 การทดสอบประสิทธิผล กลุ่มตัวอย่างเป็นนักศึกษาหลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิตชั้นปีที่ 3 คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จำนวน 97 คน แบ่งออกเป็นกลุ่มทดลอง จำนวน 46 คน และกลุ่มควบคุม จำนวน 51 คน เครื่องมือการวิจัยประกอบด้วย หุ่นจำลองฝึกฉีดวัคซีนเข้าชั้นกล้ามเนื้อ แบบประเมินทักษะการปฏิบัติการฝึกฉีดวัคซีนลงในหุ่นจำลอง มีค่าความเชื่อมั่น .80 และแบบประเมินคุณภาพหุ่นจำลองฝึกฉีดวัคซีนเข้าชั้นกล้ามเนื้อ มีค่าความเชื่อมั่น .92 ดำเนินการวิจัยและเก็บรวบรวมข้อมูลในช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนสิงหาคม 2562 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ independent t-test
ผลการวิจัยพบว่า 1) หุ่นจำลองฝึกฉีดวัคซีนเข้าชั้นกล้ามเนื้อผลิตจากซิลิโคน มีสภาพโครงสร้างภายนอก สี ลักษณะผิวหนัง และน้ำหนักเสมือนทารกจริง สามารถใช้อธิบายลักษณะทางกายภาพขณะฉีดวัคซีนได้ 2) หลังการทดลอง กลุ่มทดลองมีคะแนนเฉลี่ยทักษะการปฏิบัติการฝึกฉีดวัคซีนลงในหุ่นจำลองสูงกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (t = 6.811, p < .001) และ 3) กลุ่มทดลองมีคะแนนเฉลี่ยความพึงพอใจต่อคุณภาพหุ่นจำลองฝึกฉีดวัคซีนเข้าชั้นกล้ามเนื้อโดยรวมในระดับมากที่สุด (M = 4.62, SD = .36)
จากการวิจัยครั้งนี้มีข้อเสนอแนะว่า อาจารย์พยาบาลควรนำหุ่นจำลองฝึกฉีดวัคซีนนี้ไปใช้เป็นสื่อการสอนในการเตรียมผู้เรียนให้มีทักษะการปฏิบัติการฉีดวัคซีนที่ถูกต้องก่อนขึ้นฝึกในรายวิชาภาคปฏิบัติ
เอกสารอ้างอิง
กองโรคป้องกันด้วยวัคซีน กรมควบคุมโรค. (2561). มาตรฐานการดำเนินงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคประจำปี 2561. สืบค้นจาก http://dvpd.ddc.moph.go.th/storage/content /file%20standard/1528956173-0085
คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. (2560). คู่มือการดำเนินงานตามมาตรฐานหลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต. ปทุมธานี: มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
ปฐมามาศ โชติบัณ, กิตติพร เนาว์สุวรรณ, ธารินี นนทพุทธ, และจรูญรัตน์ รอดเนียม. (2556). นวัตกรรมชุดหุ่นฝึกทักษะการปฏิบัติการพยาบาล. วารสารมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์, 5(3), 1–12.
สุสัณหา ยิ้มแย้ม. (2559). การพัฒนาหุ่นจำลองเพื่อฝึกทักษะทางคลินิกของนักศึกษาสาขาวิทยาศาสตร์สุขภาพ. พยาบาลสาร, 43(2), 142–151.
Albaqawi, M. H., Dayrit, R. D. J., Gonzales, F. M., Algahtani, F., Alboliteeh, M., Albagawi, B., & Alshammari, F. (2020). Perceived benefits of simulation-based training among nursing students of the University of Hail. International Journal of Advanced and Applied Sciences, 7(1), 60–71. doi:10.21833/ijaas.2020.01.006
Aldoobie, N. (2015). ADDIE Model. American International Journal of Contemporary Research, 5(6), 68–72. Retrieved from http://www.aijcrnet.com/journals/Vol_5_No_6_December_2015/10.pdf
Bandura, A. (1997). Self-efficacy: The exercise of control. New York: W.H. Freeman and Company.
Kim, J. H., Park, J. H., & Shin, S. (2016). Effectiveness of simulation-based nursing education depending on fidelity: A meta-analysis. BMC Medical Education, 16(1), 1–8. doi:10.1186/s12909-016-0672-7
La Cerra, C., Dante, A., Caponnetto, V., Franconi, I., Gaxhja, E., Petrucci, C., … Lancia, L. (2019). Effects of high-fidelity simulation based on life-threatening clinical condition scenarios on learning outcomes of undergraduate and postgraduate nursing students: A systematic review and meta-analysis. BMJ Open, 9(2), 1–11. doi:10.1136/bmjopen-2018-025306
Park, S. H., Kim, L. H., Shin, S. J., Lee, D. H., Park, W. J., Cho, H. C., & Kim, H. J. (2011). US Patent No. 2012301858A1: Injection simulation system and method. Washington, DC: U.S. Patent and Trademark Office.
Rios, G. A., & Foster, C. B. (2015). US Patent No. 10235904B2: Injection training tool emitting omnidirectional light. Washington, DC: U.S. Patent and Trademark Office.
World Health Organization. (2019). The global vaccine action plan 2011–2020: Review and lessons learned: Strategic advisory group of experts on immunization. Retrieved from https://apps.who.int/iris/handle/10665/329097
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2022 วารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เนื้อความ ข้อมูล และรายการอ้างอิงที่ผู้เขียนใช้ในการเขียนบทความเพื่อลงตีพิมพ์ในวารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี ถือเป็นความคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียน คณะผู้จัดทำวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นพ้องด้วยหรือร่วมรับผิดชอบ
บทความที่ได้รับการลงตีพิมพ์ในวารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี หากหน่วยงานหรือบุคคลใดต้องการนำส่วนหนึ่งหรือทั้งหมดของบทความไปเผยแพร่ต่อเพื่อวัตถุประสงค์ใด ๆ จะต้องได้รับอนุญาตจากบรรณาธิการวารสารก่อน