ผลของแนวทางการเยี่ยมมารดาหลังคลอดที่ใช้สารเสพติดและทารก ต่อประสิทธิภาพการบริการพยาบาลและความพึงพอใจของพยาบาลวิชาชีพ ในหน่วยบริการปฐมภูมิ

บทคัดย่อ

ปัญหามารดาหลังคลอดที่ใช้สารเสพติดมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ยังขาดแนวทางการดูแลที่จำเพาะเจาะจง ส่งผลให้เกิดรอยต่อในการดูแลเมื่อมารดาหลังคลอดและทารกถูกจำหน่ายจากโรงพยาบาลกลับสู่ชุมชน การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยกึ่งทดลอง กลุ่มตัวอย่างกลุ่มเดียว วัดผลก่อน-หลังการทดลอง มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยคะแนนของประสิทธิภาพการบริการพยาบาลในหน่วยบริการปฐมภูมิ ก่อนและหลังการใช้แนวทางการเยี่ยมมารดาหลังคลอดที่ใช้สารเสพติดและทารก และประเมินความพึงพอใจของพยาบาลวิชาชีพในหน่วยบริการปฐมภูมิต่อการใช้แนวทางดังกล่าว กลุ่มตัวอย่างคือ พยาบาลวิชาชีพที่ปฏิบัติงานในหน่วยบริการปฐมภูมิและมีหน้าที่เยี่ยมมารดาหลังคลอดและทารกในชุมชน จำนวน 20 ราย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) เครื่องมือที่ใช้ในการทดลอง ได้แก่ 1.1) แนวทางการเยี่ยมมารดาหลังคลอดที่ใช้สารเสพติดและทารก ซึ่งประกอบด้วย 2 ส่วน คือ ส่วนของมารดาและส่วนของทารก และ 1.2) แบบตอบกลับการเยี่ยมหลังคลอด และ 2) เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ 2.1) แบบสอบถามข้อมูลส่วนบุคคลของพยาบาลวิชาชีพ 2.2) แบบประเมินประสิทธิภาพการบริการพยาบาล และ 2.3) แบบประเมินความพึงพอใจของพยาบาลวิชาชีพต่อแนวทางฯ ระยะเวลาในการเก็บรวบรวมข้อมูลระหว่าง วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2568 ถึงวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 รวมระยะเวลา 6 เดือน ในพื้นที่ 12 ตำบลของอำเภอเมือง จังหวัดสตูล วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติพรรณนา และทดสอบค่าที (t-test) เพื่อเปรียบเทียบคะแนนเฉลี่ยก่อนและหลังการทดลอง

            ผลการวิจัย พบว่า ค่าเฉลี่ยคะแนนประสิทธิภาพการบริการพยาบาลในหน่วยบริการปฐมภูมิหลังการใช้แนวทางการเยี่ยมมารดาหลังคลอดที่ใช้สารเสพติดและทารกสูงกว่าก่อนการใช้แนวทางฯอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<.05) และพยาบาลวิชาชีพในหน่วยบริการปฐมภูมิมีความพึงพอใจต่อการใช้แนวทางการเยี่ยมฯ ในระดับมาก