ความรู้ ทัศนคติ และการปฏิบัติการพยาบาลของนักศึกษา ในการดูแลและส่งเสริมมารดาต่อการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่

บทคัดย่อ

             ประสิทธิภาพการจัดการเรียนการสอนเรื่องนมแม่ นำมาซึ่งการผลิตบัณฑิตที่มีความรู้มีทัศนคติเชิงบวกและมีความสามารถปฏิบัติการพยาบาล การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา ความสัมพันธ์ระหว่างความรู้ ทัศนคติ และการปฏิบัติการพยาบาลของนักศึกษา ในการดูแลและส่งเสริมมารดาต่อการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ กลุ่มตัวอย่างเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 4 หลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต ปีการศึกษา 2561 มหาวิทยาลัยนานาชาติเอเชีย-แปซิฟิก จำนวน 80 คน ตอบแบบสอบถามด้วยตนเอง เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามข้อมูลส่วนบุคคล แบบวัดความรู้ แบบสอบถามทัศนคติ และการปฏิบัติการพยาบาล ในการดูแลและส่งเสริมมารดาต่อการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ได้ค่าความเชื่อมั่น ของแบบวัดความรู้ (KR 20) = 0.87, ค่าความเชื่อมั่นของแบบสอบถามทัศนคติ = 0.799 และค่าความเชื่อมั่นของแบบสอบถามการปฏิบัติการพยาบาล = 0.839 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณณาและสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน                                                                                                                                    ผลการวิจัยพบว่า นักศึกษาพยาบาลส่วนใหญ่มีความรู้ระดับปานกลาง คิดเป็นร้อยละ 51.25 ( =17.35, S.D.= 2.53) มีทัศนคติเชิงบวกระดับมาก คิดเป็นร้อยละ 92.5 (= 42.63, S.D.= 5.56) และมีความสามารถในการปฏิบัติระดับมาก คิดเป็นร้อยละ 83.75  (= 35.75, S.D.= 4.17) อีกทั้งพบว่า ความรู้มีความสัมพันธ์ทางบวกกับทัศนคติ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (r= .316 p= .01) ดังนั้นการส่งเสริมความรู้และทัศนคติที่ดีในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในรูปแบบที่ทันสมัยและปรับปรุงการปฏิบัติการพยาบาลในสถานการณ์จริง จะเป็นการตรวจสอบประสบการณ์ของนักศึกษาได้ถูกต้องมากขึ้น