ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคล สถานที่ขณะเกิดอาการ และบุคคลที่เห็นเหตุการณ์กับระยะเวลาการมารับการรักษาในโรงพยาบาลของผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังที่มีอาการกำเริบเฉียบพลัน
คำสำคัญ:
ระยะเวลาการมารับการรักษา, ปัจจัยส่วนบุคคล, โรคปอดอุดกั้นเรื้อรังบทคัดย่อ
อาการกำเริบหายใจหอบเหนื่อยของผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังจะเกิดขึ้นอย่างเฉียบพลัน จำเป็นต้องได้รับการดูแลรักษาอย่างใกล้ชิดและรวดเร็ว หากผู้ป่วยมารับการรักษาล่าช้าอาจเกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตได้การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาระยะเวลาการมารับการรักษาในโรงพยาบาลของผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังที่มีอาการกำเริบเฉียบพลัน และปัจจัยที่สัมพันธ์ ได้แก่ อายุ เพศ การรับรู้ความรุนแรงของโรค สถานที่ขณะเกิดอาการ และบุคคลที่เห็นเหตุการณ์แล้วช่วยเหลือหรือนำส่ง กับระยะเวลาการมารับการรักษา กลุ่มตัวอย่างคือ ผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังที่มีอาการกำเริบเฉียบพลัน จำนวน 123 คน ที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลตากสินและโรงพยาบาลกลางระหว่างวันที่ 17 กันยายน 2558-1 พฤศจิกายน 2558 เครื่องมือวิจัย คือ แบบสอบถามข้อมูลส่วนบุคคล แบบสอบถามระยะเวลาการมารับการรักษาของผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติพรรณนา ไคสแควร์และ Eta ผลการวิจัยพบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศชาย อายุระหว่าง 50 - 59 ปี คิดเป็นร้อยละ 84.6 ((x ̅ = 52.9, S.D. = 5.42) มีค่ามัธยฐานของระยะเวลาการมารับการรักษา 60 นาที (IQR = 30) ผลการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของตัวแปรพบว่าสถานที่ขณะเกิดอาการ การรับรู้ความรุนแรงของโรคและบุคคลที่เกี่ยวข้องมีความสัมพันธ์กับระยะเวลาการมารับการรักษาในโรงพยาบาลของกลุ่มตัวอย่าง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (x^2= 12.254, p = .007,x^2 = 14.969, p = .010 และ x^2 = 15.425, p = .000 ตามลำดับ) โดยกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ที่มารับการรักษาเร็วเกิดอาการอยู่ที่บ้านคิดเป็นร้อยละ 68.1 โดยบุคคลที่เห็นเหตุการณ์ขณะผู้ป่วยเกิดอาการกำเริบแล้วช่วยเหลือหรือนำส่งโรงพยาบาลอย่างรวดเร็วคือ สมาชิกในครอบครัว คิดเป็นร้อยละ 73.8 อายุและเพศไม่มีความสัมพันธ์กับระยะเวลาการมารับการรักษาในโรงพยาบาลของผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังที่มีอาการกำเริบเฉียบพลัน ข้อมูลจากการศึกษาครั้งนี้เป็นประโยชน์สำหรับพยาบาลในการพัฒนาแนวทางหรือวิธีการปฏิบัติเพื่อส่งเสริมให้ผู้ป่วยผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังขณะอยู่ที่บ้านมีระยะการมารับการรักษาอย่างเหมาะสมรวมทั้งส่งเสริมให้พยาบาลเพิ่มความตระหนักถึงการให้ความรู้แก่ผู้ป่วยครอบครัวและเพื่อนร่วมงาน เพื่อให้สามารถประเมินอาการและอาการแสดงของผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังที่มีอาการกำเริบเฉียบพลันได้อย่างถูกต้อง อันจะนำไปสู่การจัดการตนเองอย่างเหมาะสมและตัดสินใจมารับการรักษาที่ถูกต้องได้ทันเวลา
เอกสารอ้างอิง
Chaychan P. Chronic Obstructive Lung Disease. In Nithipat J, editors. Respiratory Diseases, Bangkok: Parbpim; 2008. p. 408-443. (in Thai).
The Working Group Develops Guidelines for Chronic Obstructive Pulmonary Disease Services. Health Service Practice Guidelines Chronic obstructive pulmonary disease. Bangkok: Union Ultraviolet; 2010.340-345.
Bureau of Epidemiology, Department of Disease Control Ministry of Public Health. Chronic Diseases Surveillance Report, 2012 [Internet]. 2012 [cited 2014 July 11]. Available from: http://www.boe.moph.go.th/report.php?cat=12.
Nuchanat K. Factors Influencing the Decision Making to Seek Treatment of Patients with Acute Myocardial Infarction. [M.Sc. Thesis in Nursing Science]. Bangkok: Faculty of Nursing, MahidolUniversity, 2006.
Moser DK, Kimble LP, Alberts MJ, Alonzo A, Croft JB, Dracup K, et al. Reducing delay in seeking treatment by patients with acute coronary syndrome and stroke. Circulation. 2006; 114(2): 168-182.
Martínez-García MA, Soler-Cataluña JJ, Perpiñá-Tordera M, Román-Sánchez P, Soriano J. Factors associated with lung function decline in adult patients with stable non-cystic fibrosis bronchiectasis. Chest.2007;132(5):1565-72.
Noraluk U. Health promotion. Bangkok: Faculty of Nursing, Chulalongkorn University; 2010.
Supranee K. Selected factors related to Pre-hospital time in Chronic Obstructive Pulmonary Disease patients with acute exacerbation. [M.Sc. Thesis in Nursing Science]. Bangkok: Faculty of Nursing, Chulalongkorn University, 2016.
Dodd M, Janson S, Facione N, Faucett J, Froelicher ES, Humphreys J, et al. Nursing Theory and Concept Development or Analysis: Advancing the science of symptom management. J AdvNurs. 2001; 33(5): 668-676.
Wiratchai N. Guideline of statistics. 2nd edition. Bangkok: Icon printing; 2012. (in Thai).
Nipaporn P. Factors related to seeking treatment after the onset of acute ischemic stroke patients. [M.Sc. Thesis in Nursing Science]. Bangkok: Faculty of Nursing, Chulalongkorn University, 2008.
De Leeuw, Joop J. Hox, Don A. Dillman. International Handbook Of Survey Methodology. New York: Taylor & Francis, Psychology Press, EAM series; 2008.p.113-135.
Watcharee P. Factors predicting pre-hospital time in patients with acute coronary syndrome. [M.Sc. Thesis in Nursing Science]. Bangkok: Faculty of Nursing, Chulalongkorn University, 2009.
Shephard,T. J. Exploratory investigation of a model of patient delay in seeking treatment after the onset of acute ischemic stroke. [Doctoral dissertation].Virginia Commonwealth University School of Nursing, 2004.
Derex, L., Adeleine, P., Nighoghossion, N., Honnorat, J., Trouillas. Factors influencing early admission in a French Stroke Unit.[Internet]. 2008 [cited 2014 July 29]. Stroke [Online]. Available from: http://www.strokeaha.org.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ตีพิมพ์และแผนภูมิรูปภาพถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารพยาบาลสาธารณสุข (Thai Public Health Nurses Association)
