ปัจจัยทำนายความตั้งใจเลิกสูบบุหรี่ของผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ

ผู้แต่ง

  • จุฑำรัตน์ อยู่สุขเจริญ สาขาวิชาเอกการจัดการการสร้างเสริมสุขภาพ คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิยาลัยธรรมศาสตร์
  • เกษร สำเภาทอง คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
  • พรทิพย์ จอมพุก คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

คำสำคัญ:

ทฤษฎีพฤติกรรมตามแผน, ความตั้งใจเลิกสูบบุหรี่

บทคัดย่อ

โรคไม่ติดต่อเรื้อรังเป็นปัญหาสาธารณสุขทั่วโลกและมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น การสูบบุหรี่จะส่งผลให้โรคที่เป็นอยู่มีความรุนแรงขึ้น และอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆตามมา การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อค้นหาปัจจัยทำนายความตั้งใจเลิกสูบบุหรี่ของผู้ป่วยไม่ติดต่อเรื้อรัง โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ โดยประยุกต์ใช้ทฤษฎีพฤติกรรมตามแผนของ Ajzen เป็นกรอบแนวคิดในการศึกษา กลุ่มตัวอย่างคือ ผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรังที่เข้ารับบริการแผนกผู้ป่วยนอกอายุรกรรม โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ จำนวน 153 ราย เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถาม ประกอบด้วย ปัจจัยลักษณะส่วนบุคคล เจตคติต่อการเลิกสูบบุหรี่ การคล้อยตามกลุ่มอ้างอิงในการเลิกสูบบุหรี่ การรับรู้ความสามารถในการควบคุมพฤติกรรมการเลิกสูบบุหรี่ และความตั้งใจในการเลิกสูบบุหรี่ วิเคราะห์หาความสัมพันธ์กับความตั้งใจเลิกสูบบุหรี่โดย Chi-square และ วิเคราะห์ปัจจัยคาดทำนายความตั้งใจเลิกสูบบุหรี่ โดยใช้ Binary logistic regression ผลการวิจัยพบว่า ผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง มีความตั้งใจเลิกสูบบุหรี่อยู่ในระดับต่ำถึงปานกลาง โดยมี คะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 4.17 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.51 รวมถึงเจตคติต่อการเลิกสูบบุหรี่ทางลบถึงปานกลาง โดยมีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 82.81 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 22.89 การคล้อยตามกลุ่มอ้างอิงในการเลิกสูบบุหรี่อยู่ในระดับต่ำถึงปานกลาง โดยมีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 65.39 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 17.70 และการรับรู้ความสามารถในการควบคุมพฤติกรรมการสูบบุหรี่อยู่ในระดับต่ำถึงปานกลาง โดยมีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 78.54 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 23.20 นอกจากนี้พบว่า การรับรู้ความสามารถในการควบคุมพฤติกรรมการเลิกสูบบุหรี่ สามารถทำนายความตั้งใจเลิกสูบบุหรี่ของผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรังอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 (OR Adj=3.39, 95% CI: (1.26-9.12) สามารถทำนายความตั้งใจเลิกสูบบุหรี่ได้ร้อยละ 20 ผลการศึกษาครั้งนี้มีข้อเสนอแนะว่า การพัฒนาโปรแกรมที่มีประสิทธิภาพ ควรมุ่งเน้นการรับรู้ความสามารถในการควบคุมพฤติกรรมการเลิกสูบบุหรี่ เช่น การเสริมพลังอำนาจ การเสริมแรงเชิงบวกด้วยการให้ข้อมูล และการให้คำปรึกษาเป็นรายบุคคล การให้ข้อมูลเพื่อสร้างแรงจูงใจ และการมีส่วนร่วมของครอบครัว เพื่อส่งเสริมการเลิกสูบบุหรี่ของผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง

เอกสารอ้างอิง

Pittayarungsarit S., editors. Disease report NCDs “Kicks off the Goals”. Nonthaburi; 2014

Tobacco Control Research and Knowledge Management Center. Summary of Tobacco use in Thailand 2012. Nonthaburi; 2012

World Health Organization [Internet]. Tobacco. [updated 2017 May]; [cited 2017 Dec20].Available from: http://www.who.int/mediacentre/factsheets/fs339/en/.

Tobacco Control Research and Knowledge Management Center. Situation of Tobaco Control in Thailand 2015. Nonthaburi; 2015

Thammasat University Hospital. Cigarette clinical statistics report at Health Promotion; 2016.

Ajzen, L. The theory of planned behavior. Organizational Behavior and Human Decision Process.1988; 50: 179-211.

Burkhalter JE, Warren B, Shuk E, Primavera L, Ostroff JS. Intention to quit smoking among lesbian, gay, bisexual, and transgender smokers. Nicotine Tob Res. 2009;11(11):1312-20.

Paha K. Predictors of intention to quit smoking in Police Officers [Thesis Master of Nursing Science]. Bangkok Chulalongkorn University; 2012. (in thai)

Singcahngchai P, Kuroprakornpong W. Techiques for creating and developing nursing research tools. 1 st ed. Songkhla: allied press company limited; 2006

National Statistical office. The survey of smoking and drinking behavior of the population 2014. Bangkok; 2012 11. Action on Smoking and Health Foundation Thailand. Important statistics about Thai people's smoking;

Runguranghirunya S. Cigarette and Tobacco Texts care and prevention. Bangkok: Health Professions Network for Tobacco Control. Bangkok; 2013

Srivastava S, Malhotra S, Harries AD, Lal P, Arora M. Correlates of tobacco quit attempts and cessation in the adult population of India: secondary analysis of the Global Adult Tobacco Survey, 2009–10. BMC Public Health. 2013; 13(1): 263.

Kaleta D, Korytkowski P, Makowiec-Dabrowska T, Usidame B, Bak-Romaniszyn L, Fronczak A. Predictors of long-term smoking cessation: results from the global adult tobacco survey in Poland (2009–2010). BMC public health. 2012;12(1):1020.

Matrakul M. Factors predicting intention to quit of hand-rolled cigarettes smokers in Chiangrai province. Journal of Nursing. 2012; 61(1): 10-20 (in thai).

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2018-08-30

รูปแบบการอ้างอิง

อยู่สุขเจริญ จ., สำเภาทอง เ., & จอมพุก พ. (2018). ปัจจัยทำนายความตั้งใจเลิกสูบบุหรี่ของผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ. วารสารพยาบาลสาธารณสุข, 32(2), 137–154. สืบค้น จาก https://he01.tci-thaijo.org/index.php/phn/article/view/245426

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย