การพัฒนารูปแบบการจัดการทางการพยาบาลผู้ป่วยโควิด-19 ที่อยู่ในภาวะวิกฤติ โรงพยาบาลกระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร และประเมินผลลัพธ์
คำสำคัญ:
การจัดการทางการพยาบาล, โควิด-19, การประเมินผลลัพธ์บทคัดย่อ
วัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดการทางการพยาบาลผู้ป่วยโควิด-19 ที่อยู่ในภาวะวิกฤติ โรงพยาบาล กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร และประเมินผลลัพธ์
รูปแบบและวิธีดำเนินการวิจัย การศึกษาครั้งนี้เป็นวิจัยและพัฒนา (Research and development) มีองค์ประกอบในการบริหารจัดการใน 4 ด้าน ได้แก่ ด้านการจัดการสถานที่และสิ่งแวดล้อม ด้านอัตรากำลัง ด้านการพัฒนาบุคลากร ด้านเครื่องมืออุปกรณ์ กลุ่มตัวอย่างแบ่งเป็น พยาบาลวิชาชีพที่ปฏิบัติงานที่ Semi ICU Cohort ward จำนวน 37 คน และเวชระเบียนผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่เข้ารับการรักษาที่ Semi ICU Cohort ward จำนวน 347 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย แบบนิเทศทางการพยาบาลผู้ป่วยใส่เครื่องช่วยหายใจ แบบนิเทศทางการพยาบาลผู้ป่วย ได้รับออกซิเจนอัตราการไหลสูงทางจมูก แบบสำรวจรายการปฏิบัติการพยาบาลผู้ป่วยใส่เครื่องช่วยหายใจและการพยาบาลผู้ป่วยได้รับออกซิเจนอัตราการไหลสูงทางจมูก แบบสอบถามความพึงพอใจของพยาบาลวิชาชีพต่อรูปแบบการจัดการทางการพยาบาลผู้ป่วยโควิด-19 ที่อยู่ในภาวะวิกฤติ แบบสอบถามการรับรู้สมรรถนะแห่งตนต่อการให้การพยาบาลผู้ป่วยโควิด-19 ที่อยู่ในภาวะวิกฤติและแบบบันทึกผลลัพธ์ด้านผู้ป่วย มีความตรงของเนื้อหา (Content Validity Index; CVI) เท่ากับ .91,.89 .89 ,83 และ.88 ตามลำดับ ดำเนินการวิจัยในระหว่างเดือน มกราคม-มิถุนายน พ.ศ. 2565 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติพรรณนาและ Chi-square test
ผลการวิจัย ผลลัพธ์ด้านพยาบาล พบว่า อัตราการติดเชื้อโควิด-19 ของพยาบาลวิชาชีพ จากการปฏิบัติงานในการดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ที่อยู่ในภาวะวิกฤติ เท่ากับ 0 มีความพึงพอใจโดยรวมต่อการใช้รูปแบบการจัดการทางการพยาบาลผู้ป่วยโควิด-19 ที่อยู่ในภาวะวิกฤติอยู่ในระดับมาก (ค่าเฉลี่ย 3.76, SD=0.43) และมีการรับรู้สมรรถนะแห่งตนในการดูแลผู้ป่วยวิกฤติโควิด-19 อยู่ในระดับมาก (ค่าเฉลี่ย 4.05, SD=0.60) เมื่อเปรียบเทียบผลลัพธ์ด้านผู้ป่วย พบว่า อัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยโควิด-19 และอัตราการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการให้ออกซิเจนอัตราการไหลสูงทางจมูกก่อนและหลังการพัฒนารูปแบบการจัดการทางการพยาบาลมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (P<.05)
สรุปและข้อเสนอแนะ การพัฒนารูปแบบการจัดการทางการพยาบาลผู้ป่วยโควิด-19 ที่อยู่ในภาวะวิกฤติ โรงพยาบาลกระทุ่มแบน จ. สมุทรสาคร เป็นการจัดระบบบริการทางการพยาบาลที่มีประสิทธิภาพ ควรนำผลการวิจัยที่ได้ไปปรับปรุงคุณภาพการพยาบาล
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงสาธารณสุข. (2565). สรุปรายงานการป่วย พ.ศ. 2565. สานักนโยบายและยุทธศาสตร์ สานักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข.
กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข. (2563). แนวทางเวชปฏิบัติ การวินิจฉัย ดูแลรักษา และป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาล กรณีผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สำหรับแพทย์และ บุคลากรสาธารณสุข. http://morprom1.moph.go.th/ news:
กรมอนามัย. (2565). สรุปสถิติทั่วโลก รายงานสถานการณ์ โควิด-19 ทั่วโลก. https://covid19.anamai.moph.go.th/en/
งานควบคุมการติดเชื้อโรงพยาบาลกระทุ่มแบน. (2565). สถิติผู้ป่วย 2565. โรงพยาบาลกระทุ่มแบน.
ธีรพร สถิรอังกูร, ศิริมา ลีละวงศ์, ศศมน ศรีสุทธิศักดิ์, สมใจ พุทธาพิทักษ์ผล, ณิชาภา ยนจอหอ, และ กนกพร แจ่มสมบูรณ์. (2564). การพัฒนารูปแบบการบริหารการพยาบาลในสถานการณ์การระบาดของโควิด–19 ในโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข. วารสารวิชาการสาธารณสุข, 30(2), 320-33.
บวรศม ลีระพันธ์ และ สมชัย จิตสุชน. (2564). เรายังทำอะไรเพิ่มเติมได้บ้างในสถานการณ์การระบาดที่เริ่มควบคุมได้ลำบากมากขึ้น. สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ). บทความวิชาการ. https://tdri.or.th /2021/06/covid-19-tight-situationpublic-health-system/.
ปฤษณา เปล่งอารมณ์. (2564). การพัฒนารูปแบบการจัดการทางการพยาบาลเพื่อความปลอดภัยจากการบริหารยาความเสี่ยงสูง โรงพยาบาลเจ้าพระยายมราชจังหวัดสุพรรณบุรี. วารสารแพทย์เขต 4-5, 40(1), 137-150.
โศภิษฐ์ สุวรรณเกษาวงษ์, ศิริมา ลีละวงศ์, กนกพร แจ่มสมบูรณ์, อรรถยา อมรพรหมภักดี และ อำพันธ์ พรมีศรี. (2565). รูปแบบการพยาบาล ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพื่อคุณภาพและความปลอดภัย (รายงานการวิจัย). นนทบุรี: กองการพยาบาล.
อุษา คำประสิทธิ์. (2565). การพัฒนารูปแบบการบริหารการพยาบาลในสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 แผนกผู้ป่วยใน โรงพยาบาลโนนไทย, วารสารศูนย์อนามัยที่ 9, 1(16), 30-44.
Bandura, A. (1997). Self-efficacy: The exercise of control. W H Freeman/Times Books/ Henry Holt & Co.
Krejcie, R.V., & D.W. Morgan. (1970). “Determining Sample Size for Research Activities”. Educational and Psychological Measurement, 30(3), 607 – 610.
Sandra et al. (2022). Responding to the COVID-19 pandemic: Development of a critical care nursing surge model to meet patient needs and maximise competencies. Australian Critical Care, 35, 13-21.
World Health Organization (2019). Core Components of Infection Prevention and Control. https://www.who.int/teams/integrated-health-services/infection-prevention-control/core-component
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2024 วารสารพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เนื้อหาและข้อมูลที่เผยแพร่ในวารสารพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยามถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้นิพนธ์บทความโดยตรง
บทความ เนื้อหา ข้อมูล รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการเผยแพร่ในวารสารพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่หรือเพื่อกระทำการใด ๆ จะต้องอ้างอิงวารสารพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยามทุกครั้ง