ผลของการใช้แผนการดูแลของสหสาขาวิชาชีพในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองโป่งพอง ต่อจำนวนวันนอน ค่าใช้จ่าย ภาวะแทรกซ้อน และความพึงพอใจของผู้ดูแลและสหสาขาวิชาชีพ
คำสำคัญ:
แผนการดูแลของสหสาขาวิชาชีพ, ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองโป่งพอง, จำนวนวันนอน, ค่าใช้จ่าย, ภาวะแทรกซ้อน, ความพึงพอใจบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยกึ่งทดลอง มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เปรียบเทียบผลของการใช้แผนการดูแลของสหสาขาวิชาชีพ ในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองโป่งพองต่อจำนวนวันนอน ค่าใช้จ่าย และภาวะแทรกซ้อน ระหว่างกลุ่มที่ใช้แผนการดูแลที่พัฒนา ขึ้นกับกลุ่มที่ดูแลตามปกติ และ 2) ศึกษาความพึงพอใจของผู้ดูแลและทีมสหสาขาวิชาชีพต่อการใช้แผนการดูแลผู้ป่วยโรค หลอดเลือดสมองโป่งพองของสหสาขาวิชาชีพ กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ 1) ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองโป่งพองที่ได้รับการผ่าตัดเพื่อหนีบเส้นเลือดสมองที่รับไว้รักษาในแผนกศัลยกรรม โรงพยาบาลศูนย์เจ้าพระยายมราช สุพรรณบุรี จำนวน 60 คน เป็นกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุมกลุ่มละ 30 คน การคัดเลือกกลุ่มตัวอย่าง เลือกแบบเฉพาะเจาะจงและใช้วิธีการจับคู่ตัวแปรที่คล้ายคลึงกัน 2) ผู้ดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองโป่งพองที่รับผิดชอบในการทำกิจวัตรประจำวันโดยตรงอย่างสม่ำเสมอของกลุ่มทดลอง จำนวน 30 คน และ 3) ทีมสหสาขาวิชาชีพที่เป็นผู้ร่วมกันกำหนดแนวทางการดูแลและร่วมกันดูแลผู้ป่วยกลุ่มทดลอง จำนวน 30 คน เครื่องมือที่ใช้ในงานวิจัย ประกอบด้วย 1) แผนการดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองโป่งพองของสหสาขาวิชาชีพ 2) แบบบันทึกจำนวนวันนอน ค่าใช้จ่าย และภาวะแทรกซ้อน 3) แบบสอบถามความพึงพอใจของผู้ดูแลผู้ป่วย ได้ค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ .902 และ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจของทีมสหสาขาวิชาชีพ ได้ค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ .912 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าสถิติพรรณนา ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและสถิติทดสอบที
ผลการวิจัยพบว่า 1) ค่าเฉลี่ยจำนวนวันนอนของกลุ่มทดลองที่ได้รับการดูแลโดยใช้แผนการดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองโป่งพองของสหสาขาวิชาชีพน้อยกว่ากลุ่มควบคุมที่ได้รับการดูแลตามปกติ (= 15.63 วัน, SD = 2.35; = 22.60 วัน, SD = 6.36) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 2) ค่าเฉลี่ยค่าใช้จ่ายในโรงพยาบาลของกลุ่มทดลองที่ได้รับการดูแลโดยใช้แผนการดูแลน้อยกว่ากลุ่มควบคุมที่ได้รับการดูแลตามปกติ (= 153,124.93 บาท, SD = 31,269.35; = 179,560.33 บาท, SD = 49,663.94) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 3) ค่าเฉลี่ยจำนวนการเกิดภาวะแทรกซ้อนของกลุ่มทดลองที่ได้รับการดูแลโดยใช้แผนการดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองโป่งพองของสหสาขาวิชาชีพน้อยกว่ากลุ่มควบคุมที่ได้รับการดูแลตามปกติ (= 0.10 ราย, SD = 0.31; = 0.37 ราย, SD = 0.49) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 4) คะแนนความพึงพอใจของผู้ดูแลผู้ป่วยที่ได้รับการดูแลโดยใช้แผนการดูแลอยู่ในระดับมาก (= 4.45, SD = 0.43) และ 5) คะแนนความพึงพอใจของทีมสหสาขาวิชาชีพต่อการใช้แผนการดูแลอยู่ในระดับมาก (=3 .78, SD = 0.32) ดังนั้น ควรจะนำแผนการดูแลของสหสาขาวิชาชีพนี้ไปใช้ในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองโป่งพองที่ได้รับการผ่าตัดเปิดกะโหลกศีรษะเพื่อหนีบหลอดเลือดสมองโป่งพองต่อไป
เอกสารอ้างอิง
กรกฎ สุวรรณอัคระเดชา, กุสุมา คุววัฒนสัมฤทธิ และพงษ์วัฒน์พลพงษ์. (2561). ประสิทธิผลของการใช้แนวปฎิบัติการดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองโป่งพองที่มีเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมองชั้นอาแรชนอยด์หลังได้รับการผ่าตัดเปิดกะโหลกศีรษะเพื่อหนีบหลอดเลือดสมองโป่งพอง. วารสารการปฏิบัติการพยาบาลและการผดุงครรภ์ไทย, 5(1), 75-93.
จรูญลักษณ์ ป้องเจริญ, รสริน วรรณจิรวิไล, รุ่งนิภา จ่างทอง, ศมีนา สุวรรณประทีป และอุมากร มณีวงษ์. (2563). ผลของการพัฒนารูปแบบการดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองแตกของสหสาขาวิชาชีพ. วารสารการพยาบาลการสาธารณสุขและการศึกษา. 21(2), 91-105.
บุปผา ไวยพัฒน์. (2559). การพยาบาลผู้ป่วยผ่าตัดโรคหลอดเลือดแดงในสมองโป่งพอง: กรณีศึกษา. วารสารสมาคมเวชศาสตร์ป้องกันแห่งประเทศไทย, 6(1), 71-71.
วัฒนีย์ ปานจินดา และ พุทธวรรณ ชูเชิด. (2559). การดูแลแบบองค์รวมในการฟื้นฟูสภาพของผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง. สมาคมสถาบันอุดมศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทยในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมาร, 5(2),70-78.
วันเพ็ญ ภิญโญภาสกุล. (2559). แนวคิดและหลักการ Nurse Case Management. สืบค้น วันที่ 11 เมษายน 2562 เข้าถึงได้จาก http://www.sunpasit.go.th/ booking/docs/6148d290e0d831f4d075df1024281076pdf
สถิติสารสนเทศโรงพยาบาลศูนย์เจ้าพระยายมราช. (2562). รายงานประจำปี 2561. เอกสารอัดสำเนา.
สุพรพรรณ์ กิจบรรยงเลิศและวงจันทร์ เพชรพิเชฐเชียร.(2562). การพยาบาลผู้ป่วยที่มีภาวะหลอดเลือดสมองหดเกร็งจากเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมองชั้นอแรกนอยด์จากโรคหลอดเลือดสมองโป่งพอง:กรณีศึกษา.วารสารวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี กรุงเทพ, 35(1), 24-35.
อุไร ดวงแก้ว และ อภิญญา จำปามูล. (2561). ผลของการจัดการผู้ป่วยรายกรณีในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองแตกต่อระยะวันนอนค่าใช้จ่ายในโรงพยาบาล และความพึงพอใจของทีมสหสาขาวิชาชีพ. วารสารการพยาบาลและการดูแลสุขภาพ, 36 (3), 42-50.
Alaraj, A., Hussein, A.E., Esfahani, D.R., Amin-Hanjani, S., Aletich, V.A., & Charbel, F.T. (2017). Reducing length of stay in aneurysmal subarachnoid hemorrhage: A three year institutional experience. Journal of Clinical, Neuroscience, 42(Supplement C), 66-70.
Best, John W. (1986). Research in Education. 5th ed. New Jersey : Prentice Hall, Inc. Best, J. W.
Case Management Society of America. (2010). Standards of Practice for Case Management, Revised .
Cohen, J. (1988). Statistical power analysis for the behavioral sciences. Hillsdale, New Jersey: Lawrence Erlbaum Associates.
Connolly, E.S., Jr., Rabinstein, A.A., Carhuapoma, J.R., Derdeyn, C.P., Dion, J., Higashida, R.T., et al. (2012). Guidelines for the management of aneurismal subarachnoid hemorrhage: a guideline for health care professionals from the American Heart Association/ American Stroke Association. Stroke, 43(6), 1711-37.
David, Y. Chung, Mohamal, Abdalka., & Thanh, N. Nguym. (2021). Aneurysmal Subarachnoid Hemorrhage. Neurol Cli, 39(2),419-442.
Dodd, WS., Laurent, D., Dumont, AS., Hasan, DM., Jabbour,PM., Starke, RM., Hosaka, K., Polifka, AJ., Hoh BL., & Chalouhi, N. (2021). Pathophysiology of Delayed Cerebral Ischemia After Subarachnoid Hemorrhage: A Review. J Am Heart Assoc,10(15), e021845.
Faul, F., Erdfelder, E., Buchner, A., & Lang, A.G. (2009). Statistical power analysis using G*Power 3.1: Test for correlation and regression analyses. Behav Res Methods, 41, 1149-60.
Osgood, ML. (2021). Aneurysmal Subarachnoid Hemorrhage: Review of the Pathophysiology and Management Strategies. Curr Neurol Neurosci Rep, 21(9), 50.
Veldeman, M., Höllig, A., Clusmann, H., Stevanovic, A., Rossaint, R., & Coburn, M. (2016). Delayed cerebral ischemia prevention and treatment after aneurysmal subarachnoid hemorrhage: a systematic review. Brit J Anaesth, 117(1), 17-40.
Von, Bertalanffy, L. (1956). General System Theory: General Systems. Yearbook of the Society for the Advancement of General System Theory. New York: University of Alberta.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2023 วารสารพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เนื้อหาและข้อมูลที่เผยแพร่ในวารสารพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยามถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้นิพนธ์บทความโดยตรง
บทความ เนื้อหา ข้อมูล รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการเผยแพร่ในวารสารพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่หรือเพื่อกระทำการใด ๆ จะต้องอ้างอิงวารสารพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยามทุกครั้ง