THE ผลของการใช้รูปแบบ SEGUE ต่อทักษะการสื่อสารทางสุขภาพของนักศึกษาพยาบาล
คำสำคัญ:
รูปแบบการสื่อสาร SEGUE, ทักษะการสื่อสารทางสุขภาพ, นักศึกษาพยาบาลบทคัดย่อ
การศึกษากึ่งทดลองนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบทักษะการสื่อสารทางสุขภาพของนักศึกษาพยาบาล กลุ่มทดลองก่อนและหลังได้รับการจัดการเรียนการสอนด้วยรูปแบบ SEGUE และเปรียบเทียบทักษะการสื่อสารทางสุขภาพระหว่างกลุ่มทดลองที่ได้รับการจัดการเรียนการสอนด้วยรูปแบบ SEGUE และกลุ่มควบคุมที่ได้รับการเรียนแบบปกติ กลุ่มตัวอย่างคือ นักศึกษาพยาบาลชั้นปีที่ 4 จำนวน 80 คน แบ่งเป็นกลุ่มทดลอง 40 คน และกลุ่มควบคุม 40 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ 1) การจัดการเรียนการสอนด้วยรูปแบบ SEGUE และ 2) แบบประเมินทักษะการสื่อสารทางสุขภาพฉบับภาษาไทย มีค่าความตรงตามเนื้อหาเท่ากับ 0.95 และค่าความเชื่อมั่นของเครื่องมือเท่ากับ 0.99 วิเคราะห์ข้อมูลทั่วไปโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา ใช้การทดสอบค่าทีเปรียบเทียบคะแนนเฉลี่ยทักษะการสื่อสารทางสุขภาพ ผลการศึกษาพบว่า 1) หลังการทดลองกลุ่มที่ได้รับการจัดการเรียนการสอนด้วยรูปแบบ SEGUE มีคะแนนเฉลี่ยทักษะการสื่อสารทางสุขภาพสูงกว่าก่อนการทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<.001) 2) หลังการทดลองกลุ่มที่ได้รับการจัดการเรียนการสอนด้วยรูปแบบ SEGUE มีคะแนนเฉลี่ยทักษะการสื่อสารทางสุขภาพสูงกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<.001)
ผลการวิจัยสรุปได้ว่า การเรียนการสอนด้วยรูปแบบ SEGUE ช่วยให้นักศึกษามีทักษะการสื่อสารทางสุขภาพเพิ่มขึ้น และสามารถนำไปใช้กับการฝึกปฏิบัติการพยาบาลในรายวิชาอื่น
เอกสารอ้างอิง
กฤดิญาดา เกื้อวงศ์ และอารีย์วรรณ อ่วมตานี. (2563). ประสบการณ์การเป็นพยาบาลจบใหม่ที่ปฏิบัติงาน ในหอผู้ป่วยวิกฤตโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. วารสารพยาบาลสภากาชาดไทย, 13 (1), 90-101.
จุไรรัตน์ ดวงจันทร์. (2563). การสื่อสารเพื่อส่งต่อข้อมูลทางการพยาบาลด้วยเทคนิคเอสบาร์. วารสารพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม, 21(41), 91–103.
นิตยา ศรีญาณลักษณ์. (2557). การบริหารการพยาบาล (พิมพ์ครั้งที่ 5). นนทบุรี: โครงการสวัสดิการวิชาการสถาบันพระบรมราชชนก กระทรวงสาธารณสุข.
มัณฑนา เทพมงคล. (2015). การรับรู้วัฒนธรรมองค์การกับความฉลาดทางอารมณ์ที่พยากรณ์การสื่อสารของพยาบาลและผู้ช่วยพยาบาลกับผู้รับบริการในโรงพยาบาลของรัฐ. รายงานการประชุมวิชาการและนำเสนอผลการวิจัยระดับชาติ และนานาชาติกลุ่มระดับชาติด้านมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์, 2(6), 387-39
สภาการพยาบาล. (2561). สมรรถนะหลักของผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี ปริญญาโท ปริญญาเอก สาขาพยาบาลศาสตร์ หลักสูตร์ฝึกอบรมการพยาบาลขั้นสูงระดับวุฒิบัตรและได้รับวุฒิบัตร/หนังสืออนุมัติแสดงความรู้ความชำนาญเฉพาะทางการพยาบาลและการผดุงครรภ์ และการพยาบาลเฉพาะทางสาขาพยาบาลศาสตร์. สืบค้นเมื่อ 1 กันยายน 2565. จากเว็บไซต์ https://www.tnmc.or.th/images/userfiles/files/9999.pdf
อติญาณ์ ศรเกษตริน, ดาราวรรณ รองเมือง และ รุ่งนภา จันทรา. (2562). การศึกษาพยาบาลในศตวรรษที่ 21: สมรรถนะและบทบาทของอาจารย์พยาบาล. วารสารพยาบาลทหารบก, 20(1), 12-20.
Brown, M. T., Bussell, J., Dutta, S., Davis, K., Strong, S., & Mathew, S. (2016). Medication adherence: truth and consequences. The American journal of the medical sciences, 351(4), 387-399.
Chen, A. M., Kiersma, M. E., Keib, C. N., & Cailor, S. (2015). Fostering interdisciplinary communication between pharmacy and nursing students. American Journal of Pharmaceutical Education, 79(6).
Grant, M. S., & Jenkins, L. S. (2014). Communication education for pre-licensure nursing students: literature review 2002–2013. Nurse education today, 34(11), 1375-1381.
Mahmood, L. S., Mohammed, C. A., & Gilbert, J. H. (2021). Interprofessional simulation education to enhance teamwork and communication skills among medical and nursing undergraduates using the TeamSTEPPS® framework. medical journal armed forces india, 77, 42-48.
Makoul, G., & Schofield, T. (1999). Communication teaching and assessment in medical education: an international consensus statement. Netherlands Institute of Primary Health Care. Patient education and counseling, 37(2), 191–195.
Makoul, G. (2001). The SEGUE Framework for teaching and assessing communication skills. Patient education and counseling, 45(1), 23–34.
Maureen Judd. (2013). Broken communication in nursing can kill : teaching communication is vital. Creative nursing, 19(2), 101–104.
Oliveira, K. R. E. D., & Braga, E. M. (2016). The development of communication skills and the teacher’s performance in the nursing student’s perspective. Revista da Escola de Enfermagem da USP, 50, 32-38.
Ross, J. (2018). Effective communication improves patient safety. Journal of PeriAnesthesia Nursing, 33(2), 223-225.
Shafakhah, M., Zarshenas, L., Sharif, F., & Sabet Sarvestani, R. (2015). Evaluation of nursing students' communication abilities in clinical courses in hospitals. Global journal of health science, 7(4), 323–328.
Skillings, J. L., Porcerelli, J. H., & Markova, T. (2010). Contextualizing SEGUE: Evaluating Residents' Communication Skills Within the Framework of a Structured Medical Interview. Journal of graduate medical education, 2(1), 102–107. https://doi.org/10.4300/JGME-D-09-00030.1
Son, H. K., & Hee Kim, D. (2019). Effect of SEGUE-based communication education on nursing simulation practice: a quasi-experimental design. Contemporary nurse, 55(4-5), 330–340.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2022 วารสารพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เนื้อหาและข้อมูลที่เผยแพร่ในวารสารพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยามถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้นิพนธ์บทความโดยตรง
บทความ เนื้อหา ข้อมูล รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการเผยแพร่ในวารสารพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่หรือเพื่อกระทำการใด ๆ จะต้องอ้างอิงวารสารพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยามทุกครั้ง