การปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด 19 ของประชาชน ในชุมชนกึ่งเมืองกึ่งชนบท จังหวัดเชียงใหม่

บทคัดย่อ

วัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด 19 และศึกษาปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโควิด 19 ของประชาชนในชุมชนกึ่งเมืองกึ่งชนบท จังหวัดเชียงใหม่

รูปแบบและวิธีดำเนินการวิจัย การวิจัยครั้งนี้เป็นการศึกษาวิจัยเชิงพรรณนาแบบภาคตัดขวาง (Cross-sectional descriptive study) ในกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 427 ราย โดยใช้วิธีสุ่มตัวอย่างอย่างง่าย (Simple random sampling) จากทะเบียนรายชื่อประชากรตามทะเบียนราษฎร์ เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามในระหว่างเดือนพฤศจิกายน ถึง เดือน ธันวาคม พ.ศ. 2564   วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา และวิเคราะห์ความสัมพันธ์ด้วยสถิติถดถอยพหุโลจิสติกส์ (Multiple logistic regression)

ผลการศึกษา กลุ่มตัวอย่างปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด 19 ในภาพรวม ร้อยละ 54.8 มีการใส่หน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า เมื่อออกจากบ้าน มากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 83.8 รองลงมาได้แก่ การล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์บ่อย ๆ เมื่อสัมผัสสิ่งแวดล้อมนอกบ้านหรืออยู่ในที่สาธารณะ ร้อยละ 72.6 และการรักษาระยะห่างระหว่างบุคคล อย่างน้อย 1-2 เมตร ร้อยละ 64.2 ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับความร่วมมือในการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด 19 ของประชาชนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ได้แก่ ระดับการศึกษา การประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป การได้รับข้อมูลข่าวสารจากสื่อสาธารณะ ได้แก่ โทรทัศน์และวิทยุ การมีทัศคติเชิงบวกต่อโรคและมาตรการป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด 19  และการรับรู้ความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ

สรุป ผลจากการศึกษาครั้งนี้ชี้ให้เห็นความจำเป็นในการส่งเสริมการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด 19 ให้กับประชาชนในชุมชนกึ่งเมืองกึ่งชนบท มากขึ้น โดยควรเน้นในด้านการให้ความรู้และข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องผ่านสื่อสาธารณะ เช่น โทรทัศน์ หรือวิทยุ รวมทั้งควรมีการปรับเปลี่ยนการรับรู้ความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ และส่งเสริมให้ประชาชนมีทัศคติเชิงบวกต่อโรคและมาตรการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโควิด 19 เพื่อให้มีการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคมากขึ้น ซึ่งจะช่วยป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโควิด 19 ในชุมชน