ปัจจัยทำนายความเหนื่อยล้าของมารดาหลังผ่าตัดคลอดในเขตภาคเหนือ

ผู้แต่ง

  • Kanyapat Chaeye คณะพยาบาลศาสตร์แมคคอร์มิค
  • อมรเลิศ พันธ์วัตร์
  • ประไพศรี กาบมาลา

DOI:

https://doi.org/10.14456/jnsu.v21i41.244563

คำสำคัญ:

ความเหนื่อยล้า, มารดาหลังคอลด, ผ่าตัดคลอด, เขตภาคเหนือ

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้เพื่อศึกษาความเหนื่อยล้าและปัจจัยทำนายความเหนื่อยล้าของมารดาหลังผ่าตัดคลอดในเขตภาคเหนือ กลุ่มตัวอย่างเป็นมารดาหลังผ่าตัดคลอดในระยะ 48 ชั่วโมง และ 72 ชั่วโมง ที่พักรักษาตัวอยู่ในแผนกหลังคลอดและ/หรือแผนกนรีเวชวิทยาของโรงพยาบาลในจังหวัดเขตภาคเหนือ 9 แห่ง จำนวน 259 ราย เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล แบ่งเป็น 6 ส่วน คือ 1) แบบบันทึกข้อมูลส่วนบุคคล 2) แบบบันทึกข้อมูลจากแฟ้มประวัติมารดาหลังผ่าตัดคลอด 3) แบบประเมินความเจ็บปวดแผลผ่าตัด 4) แบบประเมินความเหนื่อยล้า 5) แบบประเมินการรบกวนการนอนหลับ และ 6) แบบประเมินความเครียดในบทบาทของมารดาหลังผ่าตัดหลังคลอด เก็บข้อมูลตั้งแต่เดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2561 จนถึงเดือนตุลาคม พ.ศ. 2562 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา และการวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณ

ผลการวิจัยพบว่า มารดามีความเหนื่อยล้าระดับปานกลางทั้ง 2 ระยะ ปัจจัยที่สามารถร่วมทำนายความเหนื่อยล้าของกลุ่มตัวอย่างในระยะ 48 ชั่วโมง และระยะ 72 ชั่วโมง คือ ความเจ็บปวดแผลผ่าตัด การรบกวนการนอนหลับ และความเครียดในการปรับบทบาทมารดาหลังคลอด โดยสามารถทำนายความเหนื่อยล้าได้ร้อยละ 28.10 และ ร้อยละ 12.10 ตามลำดับ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

สรุปและข้อเสนอแนะ มารดาหลังผ่าตัดคลอดควรได้รับการวางแผนจัดการความเจ็บปวดแผลผ่าตัด การส่งเสริมการนอนหลับของมารดา และการจัดการความเครียดในการปรับบทบาทของมารดาที่เหมาะสม เพื่อช่วยมารดาลดความเหนื่อยล้าหลังผ่าตัดคลอด

เอกสารอ้างอิง

กษยา ตันติผลาชีวะ. (2549). Postoperative Ileus:
cause, Prevention and Treatment. ในประยุทธ์ ศิริวงษ์ สมบุญ เจริญเศรษฐมห และ ปริญญา ทวีชัยการ (บรรณาธิการ). ศัลยศาสตร์ วิวัฒน์ 32: current practice in colorectal surgery. กรุงเทพฯ: กรุงเทพเวชสาร. หน้า83- 110.
จรัสศรี ธีระกุลชัย ชุติมา โฆวัฒนะกุล ศิวพร สังวาล และสุวรรณี วังกานต์. (2543). ความเหนื่อยล้า ของมารดาในระยะหลังคลอด. วารสารวิจัย ทางการพยาบาล, 4(1), 78-90.
จันทรรัตน์ เจริญสันติ. (2554). การส่งเสริมการเลี้ยงนมมารดา. ในอภิรัช อินทรางกูร ณ อยุธยา (บรรณาธิการ). ความรู้เบื้องต้นการพยาบาล ผดุงครรภ์. เชียงใหม่: คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. หน้า 291.
ดวงกมล ปิ่นเฉลียว. (2552). การพยาบาลมารดาที่ได้รับ การผ่าตัดคลอดทางหน้าท้อง การคลอดโดยใช้ คีมและเครื่องสูญญากาศ (พิมพ์ครั้งที่ 3). กรุงเทพฯ: โครงการสวัสดิการวิชาการ สถาบัน พระบรมราชชนก.
ดวงกมล ปิ่นเฉลียว และพรพรรณ ภูสาหัส. (2558). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับความทุกข์ทรมานของ สตรีหลังผ่าตัดคลอด. วารสารพยาบาลทหารบก , 16(1), 101-108.
นันทวรรณ พลสุวรรณ ผ่องศรี ศรีมรกต จงจิต เสน่หา และพรชัย โอเจริญรัตน์. (2557). ปัจจัย ทำนาย คุณภาพการนอนหลับของสตรีที่เป็น มะเร็ง เต้านมหลังจากได้รับยาเคมีบำบัด. วารสาร พยาบาลสงขลานครินทร์. 34(3), 19-38.
รัชดา วงษ์นิพนธ์. (2552). ความเหนื่อยล้าในมารดาหลัง คลอดที่ได้รับการผ่าตัดคลอด. (วิทยานิพนธ์ พยาบาลศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาการพยาบาล มารดาและทารกแรกเกิด). บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล, คณะพยาบาลศาสตร์.
รัตนา แทนไธสง และสมพร วัฒนนุกูลเกียรติ. (2560). ความสัมพันธ์ระหว่างการปรับตัวต่อบทบาท มารดา การรบกวนการนอนหลับ การสนับสนุน ทางสังคม และความเหนื่อยล้ากับความเครียด ในมารดาหลังคลอดอายุมาก. วารสารพยาบาล ศาสตร์และสุขภาพ. 40(3), 12-23.
ศิลปชัย ฝั้นพะยอม กรรณิการ์ กันธะรักษา และฉวี เบาทรวง. (2557). การทบทวนวรรณกรรมอย่าง เป็นระบบเกี่ยวกับการจัดการอาการเหนื่อยล้า ในสตรีหลังคลอด. วารสารพยาบาลสาร, 41(3), 60-69.
สถิติการคลอด. (2561). การผ่าตัดคลอด. เข้าถึงข้อมูลเมื่อ วันที่ 15 พฤษภาคม 2561 จาก, http://healthregion1.chiangmaihealth.go. th/frontend/web/cmi/report/service?co_ thip_new=CM0105.
สุธีรา เอื้อไพโรจน์กิจ. (2563). การขับถ่ายของทารก. เข้าถึงข้อมูลเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2563 จาก, https://www.doctorbreastfeeding.com
หน่วยเวชศาสตร์มารดาและทารก คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (2562). สถิติการผ่าตัด คลอด สถิติรายงานประจำปีของหน่วยเวช ศาสตร์มารดาและทารก เข้าถึงข้อมูลเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2563 จาก, https://w1.med.cmu.ac.th/obgyn/images /stories/MFM/Statistics/MFM19.pdf
Antoni, C., Antonio, O., Julio, C., Jolanda, V., & Miguel, R. (2017). The fatigue assessment scale: reliability and validity assessment in postpartum woman. Retrieved 10 December 2018. From, www.ncbi.nlm.gov/pmc/article/pmc5622 603
Bakker, M., Van der Beek, A. J., Hendriksen, J. M., Bruinvels, D. J., & Van Poppel, M. N. M. (2014). Predictive factors of postpartum fatigue: A prospective cohort study among working woman. Journal of psychosomatic research, 77, 385-390.
Cooklin, AR., Giallo, R, & Rose, N. (2012). Parental fatigue and parenting practices during early childhood: an Australian community survey. Child: Care, Health and Development, 38(5), 654-64.
Cutrana, C. E. (1982). Nonpsychotic postpartum depression. A review of recent research. Clinical Psychology Review, 2, 487-503.
Khayamim.,N, Bahadoran.,P & Mehrabi., T. (2016). Relationship between fatigue and sleepiness with general health of mothers in the postpartum period. Jranian Journal of nursing and midwifery research, 21(4), 385-390.
Kurth, E., Kennedy, H. P., Spichiger, E., Hosli, I., & Zemp Stutz, E. (2011). Crying babies, tried mother: what do we know? A systematic review. Midwifery, 27, 187- 194.
Mercer, R. T. (2004). Becoming a mother: Research on maternal versus maternal role attainmemt. Journal of nursing scholarship, 36(3), 226-232.
Pillitteri A., (2010). Maternal and child health nursing (5th ed). Philadelphia: Lippincott.
Piper, B. F., Dibble, S. L., Dodd, M. J., Weiss, M. C., Slaughter, R. E. & Paul, S. M. (1998). The besied piper fatigue scale: Psychometric evaluation in woman with breast cancer. Oncology nursing forum, 25, 677-684.
Pugh, L. C., & Milligan, R. A. (1993). Nursing intervention to increase the duration of breast feeding. Applied nursing research, 11, 190-194.
Pugh, L. C., & Milligan, R. A. (1998). A framework for the study of childbearing fatigue. Advances in nursing science, 15(4), 60- 70.
Pugh, L. C., Milligan, R. A., Parks, P.L., Lenz, E. R., & Kitzman, H. (1999). Clinical approaches in the assessment of Childbearing fatigue. Journal of obstetric, gynecological, and neonatal nursing, 28(1), 74-80.
Taylor, J., & Johnson, M. (2013). The role of anxiety and other factors in predicting postnatal fatigue: From birth to 6 months. Midwifery, 29, 526-534.
Theerakulchai, J. (2004). Factors related to fatigue and fatigue management among Thai postpartum woman. Unpublished doctoral dissertation, Chiang Mai University, ChiangMai Thailand.
Troy, N. W., & Dalgas-Pelish, P. (1997). The natural evolution of postpartum fatigue among a group of primiparous woman. Clinical Nursing Research, 6(2), 126- 141.
Velnar T, Bailey T, & Smrkol V. (2009). The Wound Healing Process: An Overview of the cellular and molecular mechanisms. The Journal of international medical research, 37(5), 1528-1542.
Wambach, K.a. (1998). Maternal fatigue in breastfeeding primiparae during the first nine weeks postpartum. Journal human lactation, 14(3), 219-229

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2021-01-31

รูปแบบการอ้างอิง

Chaeye, K., พันธ์วัตร์ อ. ., & กาบมาลา ป. . (2021). ปัจจัยทำนายความเหนื่อยล้าของมารดาหลังผ่าตัดคลอดในเขตภาคเหนือ. วารสารพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม, 21(41), 8–19. https://doi.org/10.14456/jnsu.v21i41.244563