ลักษณะส่วนบุคคล การรับรู้ ทัศนคติ ของบุคลากร การสนับสนุนจากองค์กร ปัญหาและอุปสรรคต่อการมีส่วนร่วมการประกันคุณภาพการศึกษาภายในของคณะพยาบาลศาสตร์ สมาคมสถาบันอุดมศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย (สสอท.) กลุ่ม1

บทคัดย่อ

งานวิจัยนี้เป็นงานวิจัยเชิงบรรยายมีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษา1.ระดับการมีส่วนร่วมในการประกันคุณภาพการศึกษาภายในจำแนกตามเพศ อายุ การศึกษา รายได้ ตำแหน่งงาน อายุงาน ประสบการณ์การทำงาน2. ระดับการรับรู้การประกันคุณภาพการศึกษา ทัศนคติต่อการประกันคุณภาพการศึกษา การรับรู้การสนับสนุนจากองค์กรของบุคลากร 3. ปัจจัยด้านลักษณะส่วนบุคคล การรับรู้ด้านประกันคุณภาพการศึกษา ทัศนคติต่อการประกันคุณภาพการศึกษา การรับรู้การสนับสนุนจากองค์กรของบุคคลากรต่อการมีส่วนร่วมในการประกันคุณภาพการศึกษาภายในของบุคลากร สถาบันอุดมศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย กลุ่ม 1 4. ความคิดเห็นของบุคลากรเกี่ยวกับปัญหาอุปสรรค ต่อการมีส่วนร่วมในการประกันคุณภาพการศึกษาภายในของบุคลากร สถาบันอุดมศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย กลุ่ม1 ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นคณาจารย์และบุคลากรของคณะพยาบาลศาสตร์ ในสมาคมสถาบันอุดมศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย(สสอท.) กลุ่ม1 จำนวน187 คนกลุ่มตัวอย่างใช้วิธีการสุ่มแบบ Cluster random sampling คำนวณกลุ่มตัวอย่างโดยใช้สูตรของยามาเน่ ได้จำนวนกลุ่มตัวอย่าง 127 คน  เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถามที่พัฒนาขึ้น เป็นข้อคำถามแบบเลือกตอบ มีค่าระดับ            1=น้อยที่สุด ถึง ระดับ 5=มากที่สุด และคำถามเปิดกว้างประกอบด้วย 6 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่ 1 ลักษณะส่วนบุคคล ส่วนที่ 2 การรับรู้การประกันคุณภาพการศึกษา ส่วนที่ 3 ทัศนคติต่อการประกันคุณภาพการศึกษา ส่วนที่ 4 การรับรู้การสนับสนุนจากองค์กรของบุคลากร ส่วนที่ 5 การมีส่วนร่วมในการประกันคุณภาพการศึกษาภายในของบุคลากร  ส่วนที่ 6 คำถามเปิดเกี่ยวกับความคิดเห็นของบุคลากรเกี่ยวกับปัญหาอุปสรรคต่อการมีส่วนร่วมในการ

ประกันคุณภาพการศึกษาภายในของบุคลากร สถาบันอุดมศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย กลุ่ม1 แบบสอบถามชุดนี้มีค่าความเชื่อมั่น 0.98 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูปในการหาร้อยละ  ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน, ANOVA, Multiple Regression และการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการวิจัยพบว่า  บุคลากรคณะพยาบาลศาสตร์ สถาบันอุดมศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทยกลุ่ม 1มีส่วนร่วมในการประกันคุณภาพภายในโดยรวมระดับปานกลาง (=3.46, SD=0.92) จำแนกตามคุณลักษณะส่วนบุคคล พบว่า ช่วงอายุ 41-60ปี ระดับปริญญาเอก รายได้มากกว่า 30,000บาท อายุงาน 11-40 ปี ตำแหน่งงาน คณบดี รองคณบดี ผู้ช่วยคณบดี หัวหน้าสำนัก หัวหน้าแผนก ผู้ที่มีประสบการณ์ในการประกันคุณภาพการศึกษา มีส่วนร่วมในการประกันคุณภาพการศึกษาภายในระดับมาก การรับรู้การประกันคุณภาพภายในของคณะพยาบาลศาสตร์ โดยรวมอยู่ในระดับดี (=4.00, SD=0.76)  ทัศนคติที่มีต่อการประกันคุณภาพการศึกษาภายในของบุคลากร ระดับดี (= 3.91, SD =0.56)  ระดับการรับรู้การสนับสนุนขององค์กรต่อบุคลากรภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง (=3.54, SD=0.66) ปัจจัยที่มีผลต่อการมีส่วนร่วมในการประกันคุณภาพการศึกษา ได้แก่ ประสบการณ์การทำงานด้านการประกันคุณภาพการศึกษา การรับรู้การประกันคุณภาพการศึกษาภายในของบุคลากร การสนับสนุนขององค์กรต่อบุคลากร และมีทิศทางบวก ปัญหาอุปสรรคต่อการมีส่วนร่วมในการประกันคุณภาพการศึกษาภายใน 3 อันดับแรก ได้แก่ การให้ความรู้ ความเข้าใจในการงานประกันคุณภาพไม่ทั่วถึง ขาดบุคลากรที่มีความชำนาญ และประสบการณ์ในการเข้าใจ อธิบาย เชื่อมโยง ออกแบบพันธกิจ ถ่ายทอดความรู้ ความสัมพันธ์ใกล้ชิดของคนในองค์กร การแบ่งปันข้อมูล และการรับรู้ผิดพลาดจากเกณฑ์สำนักงานคณะกรรมการอุดมศึกษาตัวบ่งชี้ การประเมิน การตีความของผู้ตรวจประเมินแต่ละท่านในบางประเด็นมีความแตกต่างกันผลการวิจัยนี้นำมาสู่การปรับปรุงพัฒนาระบบการมีส่วนร่วมในการประกันคุณภาพภายในของเครือข่ายสสอท.กลุ่ม1ต่อไป