ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการใช้เทคโนโลยีด้านการสื่อสารของผู้สูงอายุในชุมชนเพื่อการดูแลสุขภาพ
DOI:
https://doi.org/10.14456/jnsu.v21i40.242889คำสำคัญ:
ผู้สูงอายุ เทคโนโลยีด้านการสื่อสาร การดูแลสุขภาพบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อหาอำนาจการทำนายของปัจจัยการรับรู้ประโยชน์ของเทคโนโลยีด้านการสื่อสาร ปัจจัยการรับรู้ความง่ายในการใช้งานของเทคโนโลยีด้านการสื่อสาร ปัจจัยด้านทัศนคติต่อการใช้งานของเทคโนโลยีด้านการสื่อสาร และปัจจัยด้านความตั้งใจใช้เทคโนโลยีด้านการสื่อสารของผู้สูงอายุต่อการใช้เทคโนโลยีด้านการสื่อสารการดูแลสุขภาพ กลุ่มตัวอย่างคือ ผู้สูงอายุ จำนวน 338 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นแบบสอบถามที่ผู้วิจัยพัฒนามาจากแบบจำลอง Technology Acceptance Model (TAM) โดยผลการทดสอบความเชื่อมั่นในภาพรวมของทุกชุดแบบสอบถามมีค่าความเชื่อมั่นระดับสูง (r = .85) และใช้สถิติวิเคราะห์การถดถอยแบบเชิงชั้น (Hierarchical regression analysis)
ผลการวิจัยพบว่า ปัจจัยการรับรู้ประโยชน์และปัจจัยการรับรู้ความง่ายในการใช้งานของเทคโนโลยีด้านการสื่อสาร สามารถร่วมทำนายการใช้เทคโนโลยีด้านการสื่อสารการดูแลสุขภาพของผู้สูงอายุ ได้ร้อยละ 88.56 (Beta=.856, p<.001) และปัจจัยด้านความตั้งใจใช้เทคโนโลยีด้านการสื่อสาร สามารถร่วมทำนายการใช้เทคโนโลยีด้านการสื่อสารการดูแลสุขภาพของผู้สูงอายุ ได้ร้อยละ 61.50 (Beta=.615, p<.001)
สรุปผลการวิจัยพบว่า ปัจจัยการรับรู้ประโยชน์และปัจจัยการรับรู้ความง่ายในการใช้งานของเทคโนโลยีด้านการสื่อสาร สามารถร่วมทำนายการใช้เทคโนโลยีด้านการสื่อสารการดูแลสุขภาพของผู้สูงอายุได้
การนำผลการวิจัยไปใช้ พยาบาล หรือ บุคลากรทางด้านสาธารณสุข ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลผู้สูงอายุควรส่งเสริมให้ผู้สูงอายุได้มีการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ เหมาะกับบริบทของผู้สูงอายุในชุมชน รวมทั้งสนับสนุนการอบรมวิชาการความรู้ให้กับผู้สูงอายุและผู้ดูแลในการใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ เพื่อให้ผู้สูงอายุใช้งานอุปกรณ์เทคโนโลยีด้านการสื่อสารต่าง ๆ ด้วยตัวของผู้สูงอายุเองอย่างภาคภูมิใจ
เอกสารอ้างอิง
คณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ. (2552). แผนผู้สูงอายุแห่งชาติ ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2545-2564) ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 1 พ.ศ. 2552. กระทรวงพัฒนาสังคมและมนุษย์.
จารุวรรณ พิมพิค้อ และสมาน ลอยฟ้า. (2552). การใช้และความต้องการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของผู้สูงอายุในเขตเทศบาลนครขอนแก่น. คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น, ขอนแก่น.
จันทนา ทองประยูร. (2552). สื่ออินเทอร์เน็ตกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงวัย. เอกสารประกอบการประชุมวิชาการเรื่อง“แนวทางสู่ การเข้าถึงผู้สูงวัยที่ยังเข้าไม่ถึงคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ต”. ชมรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อความเท่าเทียมกัน, กรุงเทพฯ.
เฉลิมศักดิ์ บุญประเสริฐ. (2560). ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการยอมรับการใช้แอปพลิเคชั่นไลน์ของสูงอายุ. วิทยานิพนธ์หลักสูตรบริหารธุรกจิมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารธุรกจิ บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่
ธีระ กุลสวัสดิ์, สมคิด เพชรประเสริฐ, เอกวิทย์ มณีธร. (2557). แบบจำลองพฤติกรรมการมีส่วนร่วมทางการเมืองในการเลือกตั้งของนักศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาในประเทศไทย. ภาควิชารัฐประศาสนศาสตร์ คณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา. วารสารการเมืองการบริหารและกฎหมาย, ปีที่ 6(3);77-98.
พรเพ็ญ จันทรา, วัชรวลี ตั้งคุปตานนท์. (2555). ปัจจัยที่สร้างการยอมรับภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรมในการใช้งานเว็บไซต์ของผู้สูงอายุ. วิทยานิพนธ์วิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิชาการจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, สงขลา.
ภัทริกา วงศ์อนันต์นนท์และสรานันทน์ อนุชน. (2561). เทคโนโลยีสารสนเทศต่อสังคมผู้สูงอายุ Information Technology for Aging Society. วารสาร
ทหารบก. ปีที่ 19 (3); 27-32.
รุจิภา สินสมบูรณ์ทองและสุวพัชร วุฒิเสน. (2561). พฤติกรรมและการรับรู้การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศที่ส่งผลต่อการส่งเสริมสุขภาพ ของผู้สูงอายุในกรุงเทพมหานคร. การประชุมวิชาการระดับชาติ วิทยาลัยนครราชสีมา ครั้งที่ 5 ประจำปี2561 (5th NMCCON 2018).
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุพรรณบุรี. (2562). สถิติประชากรผู้สูงอายุ จังหวัดสุพรรณบุรี ปี พ.ศ. 2556 - พ.ศ.2562. สถิติประชากร จังหวัดสุพรรณบุรี.
Cronbach, L.J. (1990). Essentials of psychological testing. (5th ed.). NewYork: Harper & Row. pp. 202-204.
Davis, F. D. (1989). "Perceived usefulness, perceived ease of use, and user acceptance of information technology". MIS Quarterly, 13(3): 319–340.
Gajos K.Z., Muller M., Grosz B.J. (2015). Acceptance of Mobile Technology by Older Adults: A Preliminary Study.
Kiseal Y and Folly L. (2008). Age cohort analysis in adoption of mobile data services: genXers versus
baby boomers”. Journal of Consumer Marketing, 25;5.
Krejcie, R. V. & Morgan, D. W. (1970). Determining Sample Size for Research Activities. Educational and Psychological Measurement, 30(3), pp. 607-610.
Luarn, P. and Lin, H.H. (2005). Toward an Understanding of the Behavioral Intention to Use Mobile Banking. Computers in Human Behavior, 21(6), 873-891.
Pan, S & M. Jordan-Marsh. (2010). Internet use intention and adoption among Chinese older adults: From the expanded technology acceptance model perspective. Computers in Human Behavior, 26(5), 1111-1119.
Polit, D. F., & Hungler, B. P. (1999). Nursing research: Principles and methods (6th ed.). Philadelphia: J.B. Lippincott.
Sebastiaan T.M.Peek, E.J.M.Wouters, J.H. (2014). Factors influencing acceptance of technology for aging in place: A systematic Review. International Journal of Medical Informatics, 83(4), 235-248.
Venkatesh, M. Morris, and G. B. Davis. (2003). “User acceptance of information technology: Toward unified view,” MIS Quarterly, vol. 27, no. 3, pp. 425-478.
World Health Organization. (2020). COVID-19 – WHO Thailand Situation Reports. Situation reports. World Health Organization.
World Health Organization. (2020). Ageing and health; A rapidly changing world. Situation reports. World Health Organization.
.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
เนื้อหาและข้อมูลที่เผยแพร่ในวารสารพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยามถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้นิพนธ์บทความโดยตรง
บทความ เนื้อหา ข้อมูล รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการเผยแพร่ในวารสารพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่หรือเพื่อกระทำการใด ๆ จะต้องอ้างอิงวารสารพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยามทุกครั้ง