พฤติกรรมการป้องกันและการรับรู้ความเสี่ยงต่อการเกิดกลุ่มอาการ คอมพิวเตอร์ซินโดรมของบุคลากรสายสนับสนุน
คำสำคัญ:
การรับรู้ความเสี่ยง, พฤติกรรมการป้องกัน, กลุ่มอาการคอมพิวเตอร์ซินโดรม, บุคลากรสายสนับสนุนบทคัดย่อ
บทคัดย่อ
การรับรู้ความเสี่ยงและพฤติกรรมการใช้คอมพิวเตอร์ในการทำงานที่ไม่ถูกต้องเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดกลุ่มอาการคอมพิวเตอร์ซินโดรม การวิจัยเชิงบรรยายนี้เพื่อศึกษาการรับรู้ความเสี่ยงอันตราย พฤติกรรมการป้องกัน และการเกิดกลุ่มอาการคอมพิวเตอร์ซินโดรมของบุคลากรสายสนับสนุน มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 169 คน คัดเลือกโดยการสุ่มแบบง่าย เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถาม ตรวจสอบความตรงตามเนื้อหาโดยผู้ทรงคุณวุฒิจำนวน 3 ท่าน ตรวจสอบความเที่ยงของเครื่องมือทั้งฉบับ เท่ากับ 0.88 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา ผลการวิจัยพบว่า
- การรับรู้ความเสี่ยงอันตรายกลุ่มอาการคอมพิวเตอร์ซินโดรมโดยรวม อยู่ในระดับสูง (= 3.11, SD = 0.26) เมื่อพิจารณารายด้านอยู่ในระดับสูงเช่นเดียวกัน โดยการรับรู้เกี่ยวกับสาเหตุที่ก่อให้เกิดกลุ่มอาการคอมพิวเตอร์ซินโดรมมีคะแนนสูงสุด (= 3.29, SD = 0.36) รองลงมาคือการรับรู้เกี่ยวกับอันตรายกลุ่มอาการคอมพิวเตอร์ซินโดรม (= 3.26, SD = 0.37) และความตระหนักถึงวิธีการป้องกันอันตรายกลุ่มอาการคอมพิวเตอร์ซินโดรมมีคะแนนต่ำสุด (= 3.13, SD = 0.31)
- พฤติกรรมการป้องกันกลุ่มอาการคอมพิวเตอร์ซินโดรมโดยรวม อยู่ในระดับสูง (=3.14, SD = 0.40) เมื่อพิจารณารายด้านอยู่ในระดับสูงเช่นเดียวกัน โดยการจัดสิ่งแวดล้อมในการทำงานและการใช้อุปกรณ์ป้องกันมีคะแนนเฉลี่ยสูงสุด (=3.21, SD = 0.48) รองลงมาคือ พฤติกรรมการป้องกันอื่น ๆ (=3.12, SD = 0.37) และด้านวิธีปฏิบัติในการทำงานมีคะแนนเฉลี่ยต่ำสุด (=3.08, SD = 0.55)
- การเกิดกลุ่มอาการคอมพิวเตอร์ซินโดรมเกี่ยวกับดวงตาและการมองเห็น พบร้อยละ 24.85 โดยปวดตามากที่สุด รองลงมาคือ แสบตา และปวดศีรษะ (ร้อยละ 39.05, 34.91, 30.80 ตามลำดับ) ส่วนกลุ่มอาการเกี่ยวกับกล้ามเนื้อและกระดูก พบร้อยละ 15.38 โดยปวดท้ายทอย/คอมากที่สุด รองลงมาคือ ปวดไหล่/บ่า และปวดข้อมือ/มือ (ร้อยละ 77.50, 56.80, 42.60 ตามลำดับ)
จากผลการวิจัยผู้เกี่ยวข้องต้องส่งเสริมให้บุคลากรสายสนับสนุนมีการรับรู้ความเสี่ยงอันตรายกลุ่มอาการคอมพิวเตอร์ซินโดรมให้สูงยิ่งขึ้น โดยเฉพาะความตระหนัก ซึ่งจะทำให้พฤติกรรมการป้องกันที่ดีได้
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร. (2559). รายงานการสำรวจการมีการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในครัวเรือน. กรุงเทพ ฯ: สำนักงานสถิติแห่งชาติ.
คณิต ลูกรักษ์, สรา อาภรณ์, สิรินมาศ คัชมาตย์, จุฬาลักษณ์ ภาคดวงใจ, และวันเพ็ญ ทองสุข. (2556). ศึกษาการรับรู้ความเสี่ยงจากการใช้เครื่องสำอางของช่างเสริมสวยในกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2554. วารสารอาหารและยา, 20 (1): 32-37.
ทรงฤทธิ์ ทองมีขวัญ, วรวรรณ จันทวีเมือง, ทิพย์สุคนธ์ กิจรุ่งโรจน์, และวิกานดา หมัดอะดั้ม, (2560). การรับรู้ความเสี่ยงอันตรายและพฤติกรรมการป้องกันของพนักงานถ่ายเอกสาร. วารสารเครือข่ายวิทยาลัยพยาบาลและการสาธารณสุขภาคใต้. ปีที่ 4(2), 28-44.
ธนิต คำมีอ้าย. (2555). ศึกษาการรับรู้ความเสี่ยงและพฤติกรรมความปลอดภัยของคนงานก่อสร้างในงานชลประทาน. วิทยานิพนธ์วิศกรรมศาสตรมหาบัณฑิตสาขาวิชาวิศวกรรมและการบริหารการก่อสร้าง, มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
ธานินทร์ ศิลป์จารุ. (2551). การวิจัยและวิเคราะห์ทางสถิติด้วย SPSS (พิมพ์ครั้งที่ 9). กรุงเทพฯ: เอส อาร์พริ้นติ้งแมสโปรดักส์จำกัด.
นรากร พลหาญ, สมสมร เรืองวรบูรณ์, โกมล บุญแก้ว, และอนุพงษ์ ศรีวิรัตน. (2557). กลุ่มอาการที่เกิดต่อร่างกายจากการใช้คอมพิวเตอร์ในการปฏิบัติงานของบุคลากรสายสนับสนุนมหาวิทยาลัยนครพนม. วารสารมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (สาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี), 6(12): 26-38.
นุจรินทร์ วงศ์อินทร์อยู่ และยรรยงค์ อินทร์ม่วง. (2555) ศึกษาการประเมินการรับรู้ด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อมของผู้ประกอบอาชีพต้มเกลือสินเธาว์ในพื้นที่ตำบลกุดเรือคำ อำเภอวานรนิวาส จังหวัดสกลนคร. วารสารวิจัย มข., 17(6): 1012-1027.
บุญมามณี ฟักสุวรรณ, อุปวิทย์ สุวคันธกุล, และไพรัช วงศ์ยุทธไกร. (2554). ศึกษาปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการปฏิบัติงานด้านความปลอดภัยในการก่อสร้างของเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทํางาน. วารสารวิชาการอุตสาหกรรมศึกษา, 5(1): 36-42.
บุษป์รัตน์ การะโชติ. (2559). โรคคอมพิวเตอร์วิชั่นซินโดรม. จดหมายข่าวองค์การเภสัชกรรม, 23(1): 17-18.
ปิยะนุช บุญวิเศษ, มัณฑนา ดำรงศักดิ, และธีรนุช ห้านิรัติศัย. (2556). ศึกษาปัจจัยทำนายพฤติกรรมการป้องกันการสัมผัสฝุ่นธูปในผู้ประกอบอาชีพผลิตธูป. วารสารพยาบาลสาร, 40(4): 80-90.
ไพโรจน์ มีมั่งคั่งธีระพล, เทพหัสดิน ณ อยุธยา, และสมเดช เฉยไสย. (2554). ศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อการรับรู้ระบบความปลอดภัยของพนักงานโรงงานผลิตชิ้นส่วนมอเตอร์ไฟฟ้า. วารสารวิชาการอุตสาหกรรมศึกษา, 5(2): 57-67.
รัตตินันท์ โภควินภูดิสนันท์, ชวพรพรรณ จันทร์ประสิทธิ์, และวันเพ็ญ ทรงคำ. (2552). การรับรู้ภาวะเสี่ยงอันตรายจากฝุ่นและพฤติกรรมการป้องกันของคนงานโรงงานเซรามิกขนาดใหญ่ในจังหวัดลำปาง. วารสารวิชาการสาธารณสุข, 18(4): 587-596.
วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สงขลา. (2559). รายงานการสำรวจภาวะสุขภาพผู้ใช้คอมพิวเตอร์ในการทำงาน. สงขลา: ม.ป.พ.
วิทิต กมลรัตน์. (2552). พฤติกรรมความปลอดภัยในการปฏิบัติงานของพนักงานฝ่ายปฏิบัติการบริษัทอดิตยาเบอร์ล่าเคมีคอลส์ จํากัด. สารนิพนธ์วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต (การจัดการสิ่งแวดล้อม). สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์.
วีราษฎร์ สุวรรณ, พรนภา ศุกรเวทย์ศิริ, และสุนิสา ชายเกลี้ยง. (2556). ศึกษาปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อการป้องกันตนเองจากการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชของเกษตรกรทำสวนมะลิ ตำบลศิลา อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น. วารสารวิจัยสาธารณสุขศาสตร์, 6(2): 24-33.
ศิริพร ขัมภลิขิต และจุฬาลักษณ์ บารมี. (2555). คู่มือการสอนการสร้างเสริมสุขภาพในหลักสูตรพยาบาล
ศาสตรบัณฑิต. ขอนแก่น: โรงพิมพ์คลังนานาวิทยา.
สุธาทิพย์ รองสวัสดิ์. (2554). ศึกษาปัจจัยการรับรู้เรื่องความปลอดภัยในการทำงานที่มีผลต่อพฤติกรรมในการทำงานของพนักงานระดับปฏิบัติการ ประจำการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จังหวัดเชียงใหม่. วิทยานิพนธ์บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยกรุงเทพ.
สุนทร บุญบำเรอ. (2557). ศึกษาพฤติกรรมความปลอดภัยในการทำงานของพยาบาล ในโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา. วารสารวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี นครราชสีมา, 20(2): 85-92.
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ. (2559). คอมพิวเตอร์วิชั่นซินโดรม. สืบค้นเมื่อ 20 พ.ย. 59, จากhttps://www.thaihealth.or.th/Content/27946%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%9E%E0%B8%.
Becker, M. H. (1974). The health belief model and personal health behavior. Health Education monograpk.
Krejcie, R. V. & Morgan, D. W. (1970). Determining Sample Size for Research Activities. Educational and Psychological Measurement, 30: 607-610.
Pender, Nola J., Murdaugh, Carolyn L. & Parsons, Mary Ann. (2006). Health Promotion
in Nursing Practice. (5th ed). New Jersey: Pearson Prentice Hall.
Osei EK, Amoh GEA, Schandorf C. (1997). Risk ranking by perception. Health Physics.
72(2): 195–203.
Rosenstock, I. M. (1974). Historical origins of the health belief model. Health Education.
Sadhra, S. S. & Rampal, K. G., (1999). Basic concepts and developments in health: risk assessment and management. in: S.S. Sadhra, K.G. Rampal (Eds.) Occupational health risk assessment and management. (4th ed). Blackwell Science Ltd, Oxford (UK), 3–187.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
เนื้อหาและข้อมูลที่เผยแพร่ในวารสารพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยามถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้นิพนธ์บทความโดยตรง
บทความ เนื้อหา ข้อมูล รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการเผยแพร่ในวารสารพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่หรือเพื่อกระทำการใด ๆ จะต้องอ้างอิงวารสารพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยามทุกครั้ง