อัตรากำลังพยาบาลกับผลลัพธ์ด้านการติดเชื้อในโรงพยาบาล
คำสำคัญ:
อัตรากำลังพยาบาล, ชั่วโมงการพยาบาลต่อผู้ป่วยต่อวัน, ร้อยละของพยาบาลวิชาชีพ, การติดเชื้อในโรงพยาบาล, อัตราตายบทคัดย่อ
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ของอัตรากำลังพยาบาลกับการติดเชื้อในโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง กลุ่มตัวอย่างคือหอผู้ป่วยที่มีการรายงานการติดเชื้อทั้งหมด 44 แห่ง เก็บข้อมูลจากฐานข้อมูลของโรงพยาบาล วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา และสัมประสิทธิสหสัมพันธ์ของสเปียร์แมนแรงค์ ผลการศึกษาไม่พบความสัมพันธ์ของอัตรากำลังและการติดเชื้อในโรงพยาบาลอย่างมีนัยสำคัญ แต่พบว่าชั่วโมงการพยาบาลที่ผู้ป่วยได้รับ/คน/วัน มีความสัมพันธ์กับระยะเวลาการนอนในโรงพยาบาล (r = 0.33, p <.05) ร้อยละของพยาบาลวิชาชีพ มีความสัมพันธ์กับระยะเวลาการนอนในโรงพยาบาลและอัตราตาย (r = 0.40, r= 0.33, p <.05) ผลการวิจัยอื่นที่สำคัญพบว่าการติดเชื้อในกระแสเลือดในผู้ป่วยที่คาสายสวนหลอดเลือดดำส่วนกลางมีความสัมพันธ์กับระดับความรุนแรงของความเจ็บป่วยและการเกิดปอดอักเสบจากการใช้เครื่องช่วยหายใจ (r = 0.32, r = 0.48, p <.05)
สรุป ไม่พบว่าอัตรากำลังมีความสัมพันธ์กับการติดเชื้อในโรงพยาบาลอย่างมีนัยสำคัญ อาจเนื่องมาจากหอผู้ป่วยที่รายงานการติดเชื้อเกือบทั้งหมดในการศึกษาครั้งนี้เป็นหอผู้ป่วยที่มีผู้ป่วยอาการหนักทำให้ข้อมูลขาดความหลากหลาย จึงควรทำการวิจัยเรื่องนี้ซ้ำโดยเพิ่มขนาดกลุ่มตัวอย่าง เพื่อเพิ่มอำนาจการวิเคราะห์ข้อมูล ส่วนผลการวิจัยที่พบว่าการติดเชื้อในโรงพยาบาลมีความสัมพันธ์กับอัตราตายนั้น ผู้บริหารและบุคลากรในหอผู้ป่วยควรหาวิธีการป้องกันการติดเชื้อหรือเพิ่มคุณภาพการดูแลโดยเฉพาะในผู้ป่วยหนักเพื่อให้บรรลุผลลัพธ์ที่ดีขึ้น
เอกสารอ้างอิง
กองยุทธศาสตร์และแผนงาน สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์. (2560). รายงานข้อมูลทรัพยากรสาธารณสุขประจำปี 2559. นนทบุรี: กระทรวงสาธารณสุข.
กฤษดา แสวงดี. (2550). “สถานการณ์ด้านกําลังคนพยาบาลวิชาชีพในประเทศไทย”. ใน ฑิณกร โนรี (บรรณาธิการ) วิกฤตกําลังคนด้านสุขภาพ ทางออกหรือทางตัน. กรุงเทพฯ: บริษัทกราฟฟิโกซิสเต็ม.
ดุสิตา เครือคำปิว. (2551). ลักษณะคุณภาพชีวิตการทำงาน ลักษณะผู้นำที่มีประสิทธิภาพ วัฒนธรรมองค์การ กับการลาออกของพยาบาล โรงพยาบาลรามาธิบดี โรงพยาบาลวิชัยยุทธ และสถาบันมะเร็งแห่งชาติ. วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต, คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
นิตยา อินทราวัฒนา และมุทิตา วนาภรณ์. (2558). โรคติดเชื้อในโรงพยาบาลและสถานการณ์ดื้อยา. Journal of Medicine and Health Sciences, 22(1), 82-92.
รัชนี ศุจิจันทรรัตน์, อรุณรัตน์ คันธา, และ วราภรณ์ หาญคุณเศรษฐ์. (2558). อัตรากำลังบุคคลากรพยาบาลและผลลัพธ์ด้านความปลอดภัยของผู้ป่วย: การศึกษาเบื้องต้น. นำเสนอในการประชุมวิชาการคณะพยาบาลศาสตร์ประจำปี 2558 เรื่อง “ความปลอดภัยของผู้ป่วยและพยาบาล เส้นทางสู่คุณภาพการดูแล” วันที่ 16-19 มิถุนายน 2558 ณ โรงแรมโกลเด้นทิวลิป ซอฟเฟอร์ริน, กรุงเทพฯ (รหัส AC029).
วิจิตร ศรีสุพรรณ และกฤษดา แสวงดี. (2555). ข้อเสนอเชิงนโยบายในการแก้ปัญหาการขาดแคลนพยาบาลวิชาชีพใน ประเทศไทย. วารสารสภาการพยาบาล, 27(1), 5-12.
สภาการพยาบาล. (2548). ประกาศสภาการพยาบาล เรื่องมาตรฐานบริการการพยาบาลและการผดุงครรภ์ระดับทุติยภูมิและระดับตติยภูมิ. พระราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 122 ตอนที่ 94 หน้า 44 ลงวันที่ 3 พฤศจิกายน 2548.
อรุณรัตน์ คันธา. (2557). ผลกระทบและทางออกของการขาดแคลนกำลังคนทางการพยาบาลในประเทศไทย. วารสารพยาบาลศาสตร์, 32(1), 81-90.
Bae, S. H., Kelly, M., Brewer, C. S., & Spencer, C. S. (2014). Analysis of nurse staffing and patient outcomes using comprehensive nurse staffing characteristics in acute nursing units. Journal of Nursing Care Quality, 29(4), 318-26.
Danchaivijitr, S., Judaeng, T., Sripalakij, S., Naksawas, K., & Plipat, T. (2007). Prevalence of nosocomial infection in Thailand 2006, Journal of Medical Association of Thailand, 90(8), 1524-9.
Dudeck, M. A, Horan, T. C., Peterson, K. D., Allen-Bridson, K., Memish, G., Anttila, A, & et al. (2013). National Healthcare Safety Network report, data summary for 2011, device- associated module. American Journal of Infection Control, 41, 286-330.
Duffield, C., Diers, D., O’Brian-Pallas, L., Aisbett, C., Roche, M., King, M., & Aisbett, K. (2011). Nurse staffing, nursing workload, the work environment and patient outcomes. Applied Nursing Research, 24(4), 244-55.
Erdfelder, E., Faul, F., & Buchner, A. (1996). GPOWER: A general power analysis program. Behavior Research Methods, Instruments & Computers;
Fakih, M. H., Heavens, M., & Ratcliffe, H. A. (2013). First step to reducing infection risk as a system: Evaluation infection prevention process for 71 hospitals. American Journal of Infection Control, 41, 950-4.
Gordon, P. R. (2015). The effects of nursing education on decreasing catheter associated UTI rates. Minneapolis, MN: Doctor of Nursing Practice, Walden University.
Khaliq, A. A., Broyles, R. W., & Mwachofi, A. K. (2009). Global nurse migration: its impact on developing countries and prospects for the future. Nursing Leadership, 22(1), 24-50.
Khamsribut, P. (2010). Situation analysis of nurse staffing in pediatric intensive care unit in a university hospital. Master Thesis, Bangkok: Graduate school, Mahidol University.
Khan, R., Al-Dorzi, H. M., Al-Atts, K., Ahmed, F. W., Marini, A. M., Mundekkadan, S, & et al. (2016). The impact of implementing multifaceted interventions on the prevention of ventilator-associated pneumonia. American Journal of Infection Control, 44, 320-6.
Kinfu, Y., Dal Poz, M. R., Mercer, H. & Evans, D. B. (2009). The health worker shortage in Africa: Are enough physicians and nurses being trained? Bulletin World Health Organization, 87:225–30. doi: 10.2471/BLT.08.051599.
Li, X., Bowman, S. M. & Smith, T. C. (2016). Effect of registered nurse staffing level on hospital-acquired conditions in cardiac surgery patients: A propensity score matching analysis. Nursing Outlook, 64(1), 1-9.
Minnesota Department of Health (MDH). (2015). Hospital nurse staffing and patient outcomes. St. Paul, MN: MDH.
Nicolle, L. E. (2014). Catheter associated urinary tract infection. Antimicrobial Resistant Infection Control, 3, 23. DOI:10.1186/2047-3-23.
Roussel, L., & Swansburg, R. (2009). Management and leadership for nurse administrators. Boston: Jones and Bartlett Teaching.
Stone, P. W., Mooney-kane, C., Larson, E. L., Horan, T., Glance, L. G., Zwanziger, J., & et al. (2007). Nurse working conditions and patient safety outcomes. Medical Care, 45(6), 571-8.
Sujijantararat, R., Booth, Z. R., & Davis, L. L. (2005). Nosocomial urinary tract infection: Nursing sensitive quality indicator in a Thai hospital. Journal of Nursing Care Quality, 20(2), 134-139.
Thamwiriyakul, N. (2007). The outcome of the guideline development and implementation for prevention of central line-associated bloodstream infection in pediatric wards of Chonburi hospital. [Internet]. Bangkok; 2007[update 2007 Nov; cited 2016 Nov 22]. Available on: https://www.thaipediatrics.org/thesis/pdf/Chon_Buri/Nirucha_Thamwiriyakul.pdf
Twigg, D., Duffield, C., Bremner, A., Rapley, P. & Finn, J. (2011). The impact of the nursing hours per patient day (NHPPD) staffing method on patient outcomes: A retrospective analysis of patient and staffing data. Internal Journal of Nursing Studies, 48, 1540-8.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
เนื้อหาและข้อมูลที่เผยแพร่ในวารสารพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยามถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้นิพนธ์บทความโดยตรง
บทความ เนื้อหา ข้อมูล รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการเผยแพร่ในวารสารพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่หรือเพื่อกระทำการใด ๆ จะต้องอ้างอิงวารสารพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยามทุกครั้ง
