การพัฒนารูปแบบบริการไร้รอยต่อผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง จังหวัดร้อยเอ็ด
คำสำคัญ:
การพัฒนารูปแบบบริการไร้รอยต่อ, ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองบทคัดย่อ
วัตถุประสงค์ : เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มและประสิทธิภาพของระบบบริการโรคหลอดเลือดสมอง โดยใช้ข้อมูลทุติยภูมิ ระบุช่องว่างของการบริการและความท้าทายที่ต้องแก้ไขในระบบบริการปัจจุบัน และเสนอรูปแบบการพัฒนาระบบบริการไร้รอยต่อที่เหมาะสมกับบริบทของจังหวัดร้อยเอ็ดและเขตสุขภาพที่ 7
รูปแบบการวิจัย : การศึกษาเชิงพรรณนา (Descriptive Study) ร่วมกับการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณ (Quantitative Analysis)
วัสดุและวิธีการวิจัย : ใช้ข้อมูลทุติยภูมิจากรายงานตรวจราชการ เขตสุขภาพที่ 7, ข้อมูล Stroke Tour, และฐานข้อมูล HDC ระหว่างปี พ.ศ. 2565–2567 ตัวชี้วัดที่นำมาวิเคราะห์ ได้แก่ อัตราการได้รับยา rt-PA, ระยะเวลาเฉลี่ย Door-to-Needle (DTN), อัตราตายในโรงพยาบาล และการครอบคลุมของระบบ Tele-stroke วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนาและการเปรียบเทียบ (Descriptive & Comparative Analysis) และนำเสนอผลผ่านตารางและกราฟประกอบ
ผลการวิจัย : พบว่าอัตราการได้รับยา rt-PA ในจังหวัดร้อยเอ็ดเพิ่มขึ้นจาก 10.0% (พ.ศ. 2565) เป็น 13.9% (พ.ศ. 2567) สูงกว่าค่าเฉลี่ยเขตสุขภาพที่ 7 (10.5%) และค่าเฉลี่ยประเทศ (9.0%) ระยะเวลาเฉลี่ย DTN ลดลงจาก 74 นาทีในปี พ.ศ.2565 เหลือ 68 นาทีในปี พ.ศ.2567 ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยประเทศ (78 นาที) อัตราตายในโรงพยาบาลของจังหวัดร้อยเอ็ดลดลงจาก 8.2% เหลือ 7.7% ในช่วงเวลาเดียวกัน ขณะที่ประเทศอยู่ที่ 8.3% และความครอบคลุมของระบบ Tele-stroke ในเขตสุขภาพที่ 7 เพิ่มจาก 65% (18 Node) ในปี พ.ศ.2565 เป็น 92% (29 Node) ในปี พ.ศ.2567
สรุปและข้อเสนอแนะ : การพัฒนาระบบบริการโรคหลอดเลือดสมองแบบไร้รอยต่อในจังหวัดร้อยเอ็ดและเขตสุขภาพที่ 7 ช่วยเพิ่มโอกาสการเข้าถึงการรักษาที่มีคุณภาพ ลดระยะเวลาการรักษาและอัตราการเสียชีวิตได้อย่างมีนัยสำคัญ ควรขยายการลงทุนด้าน CT Scan และ Endovascular Therapy (EVT) ให้ครอบคลุมโรงพยาบาล Node, พัฒนาศักยภาพระบบ Tele-stroke, การอบรมบุคลากรสหสาขาวิชาชีพ และเชื่อมโยงการดูแลต่อเนื่องด้าน Rehabilitation เพื่อสร้างผลลัพธ์ที่ยั่งยืนในระดับประเทศ
เอกสารอ้างอิง
World Health Organization. Global Health Estimates. Geneva: WHO; 2023.
สมาคมโรคหลอดเลือดสมองไทย. การพัฒนาเครือข่ายโรคหลอดเลือดสมองภาคอีสาน. วารสารสมาคมโรคหลอดเลือดสมองไทย. 2558;14(2):85-92.
Ministry of Public Health. Stroke Registry Thailand Report 2023. Bangkok: MOPH; 2023.
Donabedian A. Evaluating the quality of medical care. Milbank Q. 1966;44(3):166-206.
Hacke W, Kaste M, Bluhmki E, Brozman M, Dávalos A, Guidetti D, et al. Thrombolysis with alteplase 3–4.5 hours after acute ischemic stroke. N Engl J Med. 2008;359:1317-29.
Heidenreich P A, Trogdon J G, Khavjou O A, Butler J, Dracup K, Ezekowitz M D, et al. Telemedicine in stroke: a systematic review. Stroke. 2019;50:e343–50.
กรมการแพทย์. แนวทางการดูแลรักษาผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง. กรุงเทพฯ: กรมการแพทย์; 2565.
I-SAN Stroke Network. Regional stroke care development report. Khon Kaen: Srinagarind Hospital; 2022.
Saver J L. Time is brain-quantified. Stroke. 2006;37:263–6.
Adams H P, del Zoppo G, Alberts M J, Bhatt D L, Brass L, Furlan A, et al. Guidelines for the early management of ischemic stroke. Stroke. 2007;38:1655-711.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด
บทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสารวิจัย และพัฒนานวัตกรรมทางสุขภาพ สํานักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด ถือเป็น ผลงานวิชาการ งานวิจัย วิเคราะห์ ตลอดจนเป็นความเห็นส่วนตัวของผู้ประพันธ์ กองบรรณาธิการไม่จําเป็นต้องเห็น ด้วยเสมอไป และผู้ประพันธ์จะต้องรับผิดชอบต่อบทความของตนเอง