การศึกษาสมรรถนะการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุของบุคลากรสาธารณสุข ประจำโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ในพื้นที่อำเภอแม่ลาน้อย จังหวัดแม่ฮ่องสอน
คำสำคัญ:
สมรรถนะการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ, ผู้สูงอายุ, บุคลากรสาธารณสุขบทคัดย่อ
วัตถุประสงค์: เพื่อศึกษาสมรรถนะการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับสมรรถนะการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ และศึกษาแนวทางการพัฒนาสมรรถนะด้านการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุของบุคลากรสาธารณสุขประจำโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ในพื้นที่อำเภอแม่ลาน้อย จังหวัดแม่ฮ่องสอน
รูปแบบการวิจัย: เป็นการวิจัยเชิงและพัฒนาแบบผสมผสาน (Mixed methods Research and Development)
วัสดุและวิธีการวิจัย: กลุ่มตัวอย่างเป็นบุคลากรสาธารณสุขประจำโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล จำนวน 40 คน ที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์การคัดเข้าและคัดออก เก็บรวบรวมข้อมูลด้วยแบบสอบถามและแบบสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้าง จำนวน 15 คำถาม โดยการตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือมีค่าดัชนีความสอดคล้องระหว่าง 0.67-1.00 และค่า Cronbach’s alpha ทั้งฉบับเท่ากับ 0.98 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา มาตรประมาณค่า ทดสอบความสัมพันธ์ด้วยสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์เพียร์สันและหาปัจจัยทำนายสมรรถนะด้วยการวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณรายงานผลด้วย 95%CI ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ .05 รวมทั้งการวิเคราะห์เชิงเนื้อหา
ผลการวิจัย: พบว่ากลุ่มตัวอย่างมีสมรรถนะโดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง (Mean= 52.50, SD. = 18.25) โดยสมรรถนะด้านการบริการมีคะแนนเฉลี่ยสูงที่สุด (Mean= 50.20, SD. = 16.12) ด้านการประสานงานมีคะแนนเฉลี่ยน้อยที่สุด (Mean= 46.80, SD. = 16.90) การทดสอบ Pearson’s correlation พบว่า ประสบการณ์การปฏิบัติงานมีความสัมพันธ์ทางบวกอย่างมีนัยสำคัญกับสมรรถนะการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ (r = 0.583, p < .001) ผลการวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณแบบ Stepwise ระบุว่าประสบการณ์การปฏิบัติงานเป็นปัจจัยที่สามารถทำนายสมรรถนะการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุได้ดีที่สุด (β = 0.56, p < .001) ข้อมูลเชิงคุณภาพ พบว่ากลุ่มตัวอย่างประสบปัญหาด้านการประสานงานระหว่างหน่วยงานและภาคีเครือข่าย มีอุปสรรคด้านเวลาและปริมาณงาน
ไม่เอื้อต่อการพัฒนาศักยภาพ รวมทั้งความห่างไกลของพื้นที่และภาษาในการสื่อสาร
สรุปและข้อเสนอแนะ: แนวทางพัฒนาสมรรถนะเน้นการอบรมแบบแบ่งเนื้อหาการเรียนรู้ออกเป็นส่วนย่อย ๆ ขนาดเล็กและกระชับ มีสื่อดิจิทัลที่สั้นและเข้าใจง่ายในเวทีประชุมประจำเดือน เรียนรู้จากประสบการณ์ตรงและมีระบบพี่เลี้ยงตามระดับการปฏิบัติงานในพื้นที่เพื่อให้เหมาะสมกับบริบทและข้อจำกัดด้านการสื่อสาร
เอกสารอ้างอิง
สำนักงานสถิติแห่งชาติ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม. การสำรวจประชากรสูงอายุในประเทศไทย พ.ศ. 2567 ระดับจังหวัด [อินเทอร์เน็ต]. กรุงเทพฯ: สำนักงานสถิติแห่งชาติ; 2567 [เข้าถึงเมื่อ 10 กรกฎาคม 2567]. เข้าถึงได้จาก: https://www.nso.go.th/nsoweb/storage/survey_detail/2025/20250103144326_51634.pdf
ระบบคลังข้อมูลสุขภาพ (Health Data Center: HDC) จังหวัดแม่ฮ่องสอน. รายงานข้อมูลสุขภาพจังหวัด แม่ฮ่องสอน [อินเทอร์เน็ต]. แม่ฮ่องสอน: สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดแม่ฮ่องสอน; 2568 [เข้าถึงเมื่อ 13 มีนาคม 2568]. เข้าถึงได้จาก: https://msn.hdc.moph.go.th/hdc/reports/report.php?&cat_id=aceedbddb23d6130746d62d2538fd0&id=710884bc8d16f755073cf19497b064a
กระทรวงสาธารณสุข. แผนยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี ด้านสาธารณสุข (พ.ศ. 2560–2579) ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 2 (พ.ศ. 2561) [อินเทอร์เน็ต]. นนทบุรี: กองยุทธศาสตร์และแผนงาน สำนักปลัดกระทรวงสาธารณสุข; 2561 [เข้าถึงเมื่อ 10 กรกฎาคม 2567]. เข้าถึงได้จาก: http://www.stopcorruption.moph.go.th/index.php/main/p_detail/page/60.
ศาลากลางจังหวัดแม่ฮ่องสอน. ข้อมูลทั่วไปอำเภอแม่ลาน้อย [อินเทอร์เน็ต]. แม่ฮ่องสอน: ศาลากลางจังหวัดแม่ฮ่องสอน; 2568 [เข้าถึงเมื่อ 13 มีนาคม 2568]. เข้าถึงได้จาก: https://www.maehongson.go.th/new/public-health/
กองการพยาบาลสาธารณสุข สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข. หลักสูตรการพัฒนาสมรรถนะพยาบาลผู้จัดการสุขภาพชุมชน [อินเทอร์เน็ต]. นนทบุรี: สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข; 2567 [เข้าถึงเมื่อ 13 มีนาคม 2567]. เข้าถึงได้จาก: https://www.don.go.th/?page_id=917
ยมนา ชนะนิล, สุนันทา ครองยุทธ, ณัฐนันท์ คำพิริยะพงศ์, อรทัย บุญชูวงศ์, เพ็ญพักตร์ ไชยสงเมือง. ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อสมรรถนะของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านในการดูแลผู้สูงอายุในชุมชนที่มีโรคเรื้อรัง. วารสารพยาบาลศาสตร์ กระทรวงสาธารณสุข. 2567;34 (2):125–37.
Pattra S, Siphai S, Hirunwan D, Lamluk P. Communication Competencies of Caregivers of Dependent Elderly People: A Case Study of Chaiyaphum Province, Thailand. Universal Journal of Public Health. 2025;13(14);990-9.
Hanklang S, Sivasan S. Effectiveness of the project-based learning program on Thai nursing student competency for elderly care in the community. Journal of Health Research. 2021;35(2):132–46.
World Health Organization. World report on ageing and health. Geneva: WHO [Internet]. 2015 [cited 2025 Mar 13]: https://www.who.int/publications/i/item/9789241565042
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
เวอร์ชัน
- 2025-10-18 (2)
- 2025-10-18 (1)
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด
บทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสารวิจัย และพัฒนานวัตกรรมทางสุขภาพ สํานักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด ถือเป็น ผลงานวิชาการ งานวิจัย วิเคราะห์ ตลอดจนเป็นความเห็นส่วนตัวของผู้ประพันธ์ กองบรรณาธิการไม่จําเป็นต้องเห็น ด้วยเสมอไป และผู้ประพันธ์จะต้องรับผิดชอบต่อบทความของตนเอง