ผลของโปรแกรมการจัดการความขัดแย้งในระบบสาธารณสุขต่อความรู้ ทัศนคติ และพฤติกรรม การจัดการความขัดแย้งของรองหัวหน้าหอผู้ป่วย

ผู้แต่ง

  • พัชรินทร์ ชินการสวัสดิ์ โรงพยาบาลร้อยเอ็ด
  • ทักษนัย พัศดุ โรงพยาบาลร้อยเอ็ด
  • กนกพร ยอดยศ โรงพยาบาลร้อยเอ็ด

คำสำคัญ:

ความขัดแย้งในระบบสาธารณสุข, ความรู้, ทัศนคติ, พฤติกรรม

บทคัดย่อ

วัตถุประสงค์: เพื่อเปรียบเทียบคะแนนเฉลี่ยความรู้ ทัศนคติ และพฤติกรรมการจัดการความขัดแย้งของรองหัวหน้าหอผู้ป่วย

รูปแบบการวิจัย: เป็นการวิจัยกึ่งทดลอง (Quasi - experimental research) แบบมีกลุ่มควบคุม

วัสดุและวิธีการวิจัย: กลุ่มตัวอย่างเป็นพยาบาลวิชาชีพ รองหัวหน้าหอผู้ป่วยในโรงพยาบาลร้อยเอ็ด จำนวน 58 คน แบ่งเป็นกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม กลุ่มละ 29 คน กลุ่มทดลองได้รับโปรแกรมฯ ซึ่งประกอบด้วยการบรรยาย การแสดงบทบาทสมมติ กิจกรรมสื่อสาร และการเผยแพร่คู่มือแนวทางการจัดการความขัดแย้งฯ กลุ่มควบคุมได้รับการสื่อสารแนวทางและคู่มือในรูปแบบปกติ เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม ดำเนินกิจกรรมรวม 8 สัปดาห์ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติ Paired t-test เพื่อเปรียบเทียบคะแนนเฉลี่ยก่อนและหลังการทดลอง และ Independent samples t-test โดยกำหนดนัยสำคัญทางสถิติที่ 95% Confidences Interval

ผลการวิจัย:  หลังได้รับโปรแกรมฯ กลุ่มทดลองมีคะแนนเฉลี่ยความรู้ (Mean Diff = 2.76, 95%CI = 1.67-3.84) ทัศนคติ (Mean Diff = 10.62, 95%CI = 6.14-15.10) และพฤติกรรมการจัดการความขัดแย้ง (Mean Diff = 18.38, 95%CI = 12.94-23.82) เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 เมื่อเปรียบเทียบระหว่างกลุ่มพบว่ากลุ่มทดลองมีคะแนนเฉลี่ยด้านความรู้ (Mean Diff = 2.31, 95%CI = 1.43-3.20) ทัศนคติ (Mean Diff = 7.97, 95%CI = 2.85-13.08) และพฤติกรรมการจัดการความขัดแย้ง (Mean Diff = 8.41, 95%CI = 5.08-11.74) สูงกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05

สรุปและข้อเสนอแนะ: โปรแกรมการจัดการความขัดแย้งมีประสิทธิผลในการเพิ่มพูนความรู้ ทัศนคติ และพฤติกรรมการจัดการความขัดแย้งของรองหัวหน้าหอผู้ป่วย ควรพิจารณาขยายผลโปรแกรมไปสู่บุคลากรวิชาชีพอื่น ๆ และบูรณาการเข้ากับแผนงานประจำปีขององค์กร รวมถึงจัดทำคู่มือหรือสื่อการเรียนรู้ที่หลากหลายและติดตามผลในระยะยาว เพื่อให้เหมาะสมกับบริบทที่เปลี่ยนแปลง

เอกสารอ้างอิง

กระทรวงสาธารณสุข. แผนขับเคลื่อนกระทรวงสาธารณสุข พ.ศ. 2567. กรุงเทพฯ: กระทรวงสาธารณสุข; 2567.

สถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล (องค์การมหาชน). รายงานประจำปี 2565. นนทบุรี: สถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล (องค์การมหาชน); 2565.

ศูนย์ข้อมูลโรงพยาบาลร้อยเอ็ด. รายงานสถิติงานบริการ ปี 2567. ร้อยเอ็ด: โรงพยาบาลร้อยเอ็ด; 2567.

กองการพยาบาล. แนวทางการพัฒนาระบบการพยาบาลผู้ป่วยที่มีภาวะซับซ้อน. กรุงเทพฯ: กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข; 2561.

บุญศักดิ์ หาญเทิดสิทธิ์. การชดเชยความเสียหายจากการให้บริการสาธารณสุข: การพัฒนาแนวทางในประเทศไทย. วารสารการแพทย์. 2553.

วันชัย วัฒนศัพท์. ระบบการจัดการความขัดแย้งทางการแพทย์. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์สุขภาพไทย; 2550.

บรรพต ต้นธีรวงศ์. การไกล่เกลี่ยข้อขัดแย้งในระบบบริการสุขภาพ. วารสารสาธารณสุขชุมชน. 2552;15(3):45-52.

เพ็ญจันทร์ แสนประสาน และคณะ. แนวทางการพัฒนาระบบบริการพยาบาลโดยใช้ข้อมูลเชิงประจักษ์. เชียงใหม่: คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่; 2549.

พิชญ์สินี รัตนลือชากุล. การจัดการความขัดแย้งในองค์กรสุขภาพ. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์; 2563.

ศิริวรรณ มนอัตระผดุง. ความขัดแย้งในสถานพยาบาลและการบริหารจัดการ. วารสารบริหารการพยาบาล. 2559;9(2):15–22.

สุมาลี ยุทธวรวิทย์. การจัดการความขัดแย้งในบริบทการพยาบาล. เชียงใหม่: คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่; 2550.

Rahim M A. Managing conflict in organizations. 4th ed. New Brunswick: Transaction Publishers; 2017.

Broukhim M, et al. Healthcare conflict management: perspectives from professionals. J Healthc Manag. 2018;63(1):35–45.

Choi J Y, Ahn S. Effects of Conflict Management Program on Nursing Students. Nurse Education Today. 2021;99:104765.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

เผยแพร่ 2025-08-11 — ปรับปรุง 2025-08-11

เวอร์ชัน

รูปแบบการอ้างอิง

1.
ชินการสวัสดิ์ พ, พัศดุ ท, ยอดยศ ก. ผลของโปรแกรมการจัดการความขัดแย้งในระบบสาธารณสุขต่อความรู้ ทัศนคติ และพฤติกรรม การจัดการความขัดแย้งของรองหัวหน้าหอผู้ป่วย. J Res Health Inno Dev [อินเทอร์เน็ต]. 11 สิงหาคม 2025 [อ้างถึง 27 ธันวาคม 2025];6(2):459-70. available at: https://he01.tci-thaijo.org/index.php/jrhi/article/view/281635

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความต้นนิพนธ์