การพัฒนาระบบการวางแผนจำหน่ายผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ที่ควบคุมระดับน้ำตาลไม่ได้ โดยใช้แนวคิด IDEAL ตึกผู้ป่วยใน โรงพยาบาลทุ่งเขาหลวง
คำสำคัญ:
แนวคิด IDEAL, โรคเบาหวานชนิดที่ 2, การวางแผนจำหน่าย, การควบคุมระดับน้ำตาลไม่ได้บทคัดย่อ
วัตถุประสงค์ : เพื่อศึกษาสถานการณ์ พัฒนาระบบ และการประเมินระบบการวางแผนจำหน่ายผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ที่ควบคุมระดับน้ำตาลไม่ได้ โดยใช้แนวคิด IDEA model ตึกผู้ป่วยใน โรงพยาบาลทุ่งเขาหลวง
รูปแบบการวิจัย : การวิจัยเชิงปฏิบัติการ (Participatory Action Research: PAR)
วัสดุและวิธีการวิจัย : ผู้ให้ข้อมูลสำคัญในการวิจัยครั้งนี้แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ (1) เป็นพยาบาลวิชาชีพที่ปฏิบัติงานหอผู้ป่วย 8 คน (2) ผู้ป่วยเบาหวานที่ได้รับวินิจฉัยว่ามีภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำหรือภาวะน้ำตาลในเลือดสูงที่เข้านอนรักษาในตึกผู้ป่วยใน 20 ราย และผู้ร่วมวิจัย 24 คน เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แนวคำถามสำหรับการสนทนากลุ่ม แบบประเมินความเป็นไปได้ และแบบประเมินการปฏิบัติตามคู่มือฯ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์เชิงเนื้อหา (Content analysis)
ผลการวิจัย : 1) การศึกษาสถานการณ์ พบว่า ปัญหาทั้งด้านผู้ป่วยและญาติ ระบบบริการ ผู้ให้บริการและเครื่องมือและวัสดุการแพทย์ 2) การพัฒนาระบบฯ พบว่า ได้จัดทำเป็นคู่มือการวางแผนจำหน่ายผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ที่ควบคุมระดับน้ำตาลไม่ได้ ประกอบด้วยกระบวนการ 5 ขั้น ได้แก่ (1) การระบุผู้ดูแลหลัก (2) การพูดคุยปัญหาอย่างลึกซึ้ง (3) การให้ความรู้ (4) การประเมินความรู้ผู้ป่วย และ (5) การฟังปัญหาอย่างตั้งใจ และ 3) ผลลัพธ์การดำเนินงาน พบว่า การลดอัตราการกลับมารักษาซ้ำโดยไม่ได้วางแผนลงเหลือเพียงร้อยละ 15.0 ซึ่งถือเป็นผลลัพธ์ที่มีนัยสำคัญทางสถิติ และสะท้อนถึงประสิทธิภาพของการวางแผนจำหน่ายที่ครอบคลุมทั้งมิติด้านคลินิกและจิตสังคม
สรุปและข้อเสนอแนะ : ผลการวิจัยครั้งนี้ส่งผลให้คุณภาพการดูแลและเข้าใจโรคได้ดียิ่งขึ้นอย่างชัดเจนในทุกมิติ ทั้งการสื่อสารและผู้ป่วยมีความพร้อมก่อนกลับบ้าน ที่สำคัญคือ อัตราการกลับมารับการรักษาซ้ำลดลงอย่างมีนัยสำคัญเหลือเพียงร้อยละ 15.0 และผู้ป่วยที่ได้รับการประเมินครบทั้ง 5 องค์ประกอบไม่มีรายใดกลับมารักษาซ้ำเลย ซึ่งยืนยันประสิทธิภาพของโมเดลนี้
เอกสารอ้างอิง
สมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทย. สถิติ [อินเทอร์เน็ต]. [เข้าถึงเมื่อ 2 กรกฎาคม 2568]. เข้าถึงได้จาก: https://www.dmthai.org/new/index.php/sara-khwam-ru/the-chart/the-chart-1dmthai.org+1dmthai.org+1
เทพ หิมะทองคำ และคณะ. ความรู้เรื่องเบาหวาน ฉบับสมบูรณ์. พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพฯ: วิทยพัฒน์; 2557.
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด. สรุปผลการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ ปี พ.ศ.2566. ร้อยเอ็ด: กลุ่มงานพัฒนายุทธศาสตร์สาธารณสุข; 2566.
สมาคมความดันโลหิตสูงแห่งประเทศไทย. แนวทางการรักษาโรคความดันโลหิตสูงในเวชปฏิบัติทั่วไป พ.ศ.2562 [อินเทอร์เน็ต]. [เข้าถึงเมื่อ 2 กรกฎาคม 2568]. เข้าถึงได้จาก: https://www.thaihypertension.org/hypertensiondetail.php?n_id=442thaihypertension.org+1www2.si.mahidol.ac.th+1
โรงพยาบาลทุ่งเขาหลวง. ข้อมูลผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ปี พ.ศ.2566. วารสารวิจัยและพัฒนานวัตกรรมทางสุขภาพ. 2566;4(3):235–46.
Halasyamani L, Kripalani S, Coleman E, Schnipper J, Van Walraven C, Nagamine I, et al. Transition of care for hospitalized elderly patients-development of a discharge checklist for hospitalists. Journal of Hospital Medicine. 2006;1(6):354-60.
Agency for Healthcare Research and Quality (AHRQ). IDEAL Discharge Planning Overview, Process, and Checklist [Internet]. Rockville, MD: AHRQ; 2013 [cited 2025 Jul 2]. Available from: https://www.ahrq.gov/patientsafety/settings/hospital/medicationdischarge/strategies/strategy4/index.html.
National Health and Medical Research Council [NHMRC]. A guide to the development, evaluation and implementation of clinical practice guidelines [Internet].1999. [cited 2025 Jul 2]. Available from: https://www.nhmrc.gov.au/filesnhmre/publications/attachments/cp30.pdf
พรรณวรดา สุวัน, ลุนนี ราชไชย, ณัฐวรรณ ชัยมีเขียว. ประสิทธิผลของการพัฒนารูปแบบการวางแผนจำหน่ายผู้ป่วยเบาหวานตามกรอบแนวคิด IDEAL โรงพยาบาลส่องดาว สกลนคร. คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชธานี วิทยาเขตอุดรธานี; 2560.
Kemmis S, Wilkinson J, Edwards-Groves C, Hardy L, Grootenboer P, Bristol L. Changing practices, changing education. Singapore: Springer; 2014.
Black R L, Duval C. Integrated discharge planning for diabetes management: A multinational cohort study. Journal of Diabetes Science and Technology. 2021;15(4), 889-901.
Fitri E Y, Andhini D, Natosba J. Social determinants in diabetes discharge planning: Lessons from the LIMA Model. Diabetes Care International. 2023;8(2):112-25.
Shepperd S, McClaran , Phillips C O. Telemedicine for post-discharge care: A systematic review and meta-analysis. The Lancet Digital Health, 2022;4(6):e412-e23.
Henderson R, Duarte M, Chen L. Integrated transitional care for diabetes management: A randomized controlled trial. Diabetes Care. 2023;46(5):1021-9.
Yamamoto S, Tanaka K, Aoki M. Home-based empowerment for uncontrolled type 2 diabetes: A cluster-randomized study in rural Japan. J Clin Endocrinol Metab. 2022;107(8):e3425-e3433.
Gomez P, Silva H, Martinez R. Effectiveness of diabetes education programs in Europe: A systematic review and meta-analysis. Lancet Diabetes Endocrinol. 2024;12(3):189-201.
Waniga H, et al. Effect of implementing of the IDEAL discharge model on satisfaction and readmission rates. PLoS One. 2023;18(3):e0304969.
Tong H J, Qiu F, Fan L. Effect of hospital discharge plan for children with type 1 diabetes on discharge readiness, discharge education quality, and blood glucose control. World J Clin Cases. 2021;9(4):774–83.
Braet A, et al. The Role of the Discharge Planning Team on the Length of Hospital Stay and Readmission Rates: A Systematic Review. Healthcare (Basel). 2023;13(2):143.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
เวอร์ชัน
- 2025-07-16 (2)
- 2025-07-16 (1)
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด
บทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสารวิจัย และพัฒนานวัตกรรมทางสุขภาพ สํานักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด ถือเป็น ผลงานวิชาการ งานวิจัย วิเคราะห์ ตลอดจนเป็นความเห็นส่วนตัวของผู้ประพันธ์ กองบรรณาธิการไม่จําเป็นต้องเห็น ด้วยเสมอไป และผู้ประพันธ์จะต้องรับผิดชอบต่อบทความของตนเอง