ผลการบริบาลเภสัชกรรมโดยใช้รูปแบบการบริการเภสัชกรรมทางไกล (telepharmacy) ในผู้ป่วยเบาหวานโรงพยาบาลปทุมรัตต์ จังหวัดร้อยเอ็ด

ผู้แต่ง

  • สมบูรณ์ หนูธรรมพะเนา โรงพยาบาลปทุมรัตต์

คำสำคัญ:

การบริบาลเภสัชกรรม, การบริการเภสัชกรรมทางไกล, โรคเบาหวาน

บทคัดย่อ

วัตถุประสงค์: เพื่อเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยระดับน้ำตาลสะสมในเลือด (HbA1C) ระดับกลูโคสในพลาสมาขณะอดอาหาร (FPG) ความร่วมมือในการใช้ยาและปัญหาจากการใช้ยาระหว่างกลุ่มที่ได้รับการบริบาลเภสัชกรรมโดยใช้รูปแบบการบริการเภสัชกรรมทางไกล (Telepharmacy) กับกลุ่มที่ได้รับการบริบาลเภสัชกรรมในรูปแบบปกติ ในโรงพยาบาลปทุมรัตต์ จังหวัดร้อยเอ็ด

รูปแบบการวิจัย : การวิจัยกึ่งทดลอง (Quasi-Experimental Research) ชนิด 2 กลุ่มวัดก่อนและหลังการทดลอง (Two Groups Pre-Post test Design)

วัสดุและวิธีการวิจัย : กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ป่วยโรคเบาหวานที่เข้ารับการรักษาแผนกผู้ป่วยนอกโรงพยาบาลปทุมรัตต์  คัดเลือกโดยการสุ่มอย่างง่าย จำนวน 68 ราย แบ่งเป็นกลุ่มทดลอง 34 ราย และกลุ่มควบคุม 34 ราย ตั้งแต่เดือนกันยายน 2567 – พฤษภาคม 2568 เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบบันทึกข้อมูลทั่วไปของผู้ป่วย แบบวัดความร่วมมือการใช้ยาสำหรับชาวไทย (MAST) แบบบันทึกปัญหาการใช้ยาตามแนวทางของ Pharmaceutical Care Network Europe (PCNE) และแบบบันทึกค่า HbA1C และFPG จากเวชระเบียนผู้ป่วย หาค่าความเชื่อมั่นแบบสอบถามโดยสัมประสิทธิ์แอลฟาของครอนบาคได้ 0.85 และวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติ ความถี่ ร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและสถิติเชิงอนุมาน Independent t-test เปรียบเทียบความแตกต่างของค่าเฉลี่ย กำหนดนัยสำคัญทางสถิติที่ 95 % Confidence Interval

ผลการวิจัย : หลังการทดลองพบว่า ผู้ป่วยเบาหวานที่ได้รับการบริบาลเภสัชกรรมโดยใช้รูปแบบการบริการเภสัชกรรมทางไกล (Telepharmacy) มีค่าระดับน้ำตาลสะสมในเลือด (HbA1C) ลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุม แต่ไม่มีความแตกต่างกัน (p=.054) โดยมีค่าระดับน้ำตาลสะสมในเลือด (HbA1C) ลดลง 0.60 mg% (95%CI: 0.01, 1.21) ส่วนค่าเฉลี่ยระดับกลูโคสในพลาสมาขณะอดอาหาร (FPG) พบว่ากลุ่มทดลองมีค่าลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p=.036) โดยมีค่าเฉลี่ยระดับกลูโคสในพลาสมาขณะอดอาหาร (FPG) ลดลง 20.24 mg/dL (95%CI: 1.37, 39.10)  ส่วนค่าเฉลี่ยคะแนนความร่วมมือในการใช้ยาพบว่า กลุ่มทดลองมีคะแนนเฉลี่ยความร่วมมือในการใช้ยามากกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<.001) โดยมีคะแนนเฉลี่ยความร่วมมือในการใช้ยามากกว่า 3.12 คะแนน (95%CI: 2.21, 4.02) และปัญหาจากการใช้ยาที่พบส่วนใหญ่คือเรื่องประสิทธิภาพการรักษาด้านผลการรักษาจากยาไม่เพียงพอ โดยในกลุ่มทดลองพบจำนวน40ครั้ง (93.00%) และในกลุ่มควบคุมพบจำนวน 37ครั้ง (88.10%) สาเหตุส่วนใหญ่มาจากผู้ป่วยใช้ยาน้อยกว่าที่แพทย์สั่งโดยในกลุ่มทดลองพบจำนวน 37ครั้ง (86.00%) ส่วนกลุ่มควบคุมพบจำนวน 31 ครั้ง (73.8%) การแก้ไขปัญหาส่วนใหญ่คือการให้คำแนะนำแก่ผู้ป่วยด้วยวาจา ในกลุ่มทดลองจำนวน 37 ครั้ง (86.00%) และกลุ่มควบคุมจำนวน 31 ครั้ง (73.80%) และผลลัพธ์ของการแก้ไขปัญหาพบว่ากลุ่มทดลองได้รับการแก้ไขปัญหาได้มากกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<.001) โดยกลุ่มทดลองสามารถแก้ไขปัญหาได้ทั้งหมดจำนวน 35 ครั้ง (81.40%) ส่วนกลุ่มควบคุมได้รับการแก้ไขปัญหาได้เพียงจำนวน 8ครั้ง (19.04 %)

สรุปและข้อเสนอแนะ : การบริบาลเภสัชกรรมโดยใช้รูปแบบการบริการเภสัชกรรมทางไกล (Telepharmacy) เป็นทางเลือกสำคัญที่ช่วยส่งเสริมความร่วมมือในการใช้ยา ลดปัญหาจากการใช้ยา และส่งผลให้ผู้ป่วยเบาหวานมีผลลัพธ์ทางคลินิกที่ดีขึ้น โดยสามารถประยุกต์ใช้กับผู้ป่วยกลุ่มอื่นที่ยังไม่บรรลุเป้าหมายการรักษาได้ เพื่อให้เกิดประสิทธิผลสูงสุดควรมีการติดตามผลระยะยาวและพัฒนาระบบให้ครอบคลุมการดูแลแบบองค์รวม ไม่เพียงการจัดการด้านยา แต่รวมถึงการให้คำแนะนำด้านโภชนาการและการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการดูแลตนเองของผู้ป่วยที่บ้านอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน

เอกสารอ้างอิง

International Diabetes Federation. IDF Diabetes Atlas, 10th edition. Brussels, Belgium: International Diabetes Federation; 2021.

วิชัย เอกพลากร, หทัยชนก พรรคเจริญ, วราภรณ์ เสถียรนพเก้า. การสำรวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกาย ครั้งที่ 6 พ.ศ. 2562-2563. นนทบุรี: สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข; 2564.

ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์. แนวทางเวชปฏิบัติสำหรับโรคเบาหวาน 2566. กรุงเทพฯ: บริษัทศรีเมืองการพิมพ์ จำกัด; 2566.

Ministry of Public Health. Health data center [Internet]. 2024 [cited 2024 Oct 18]. Available from: https://hdcservice.moph.go.th/hdc/reports/page.php?cat_id=6a1fdf282fd28180eed7d1cfe0155e11.

Lee Y K, Lee P Y, Ng C J. Self-care behavior and glycemic control among patients with type 2 diabetes mellitus in Malaysia. Primary Care Diabetes. 2022;16(3):254–60.

Cipolle R J, Strand L M, Morley P C. Pharmaceutical Care Practice: The Patient-Centered Approach to Medication Management. 3rd ed. McGraw-Hill Education; 2012.

Siaw M Y L, Ko Y, Malone D C, Tsou K Y K, Lew Y-J, Foo D. Impact of pharmacist-involved care on diabetes management: a systematic review and meta-analysis. J Clin Pharm Ther. 2017;42(4):475–87.

สภาเภสัชกรรม. ประกาศสภาเภสัชกรรม ที่ 62/2565 เรื่อง แนวทางเกี่ยวกับมาตรฐานการให้บริการเภสัชกรรมทางไกล (Telepharmacy) [อินเทอร์เน็ต]. 2565. [เข้าถึงเมื่อ 18 ตุลาคม 2567]. เข้าถึงได้จาก: https://www.pharmacycouncil.org/index.phpcatid=0&itemid=2966&menuid=68&option=content_detail.

พัทร์วรินท์ ศรลัมพ์, ณัฐธิดา เวทนาสุข, รณกฤต ทีทา. ผลของการบริบาลเภสัชกรรมร่วมกับการติดตามการใช้ยาทางไกลในผู้ป่วยเบาหวานที่ควบคุมระดับน้ำตาลไม่ได้ โรงพยาบาลพล จังหวัดขอนแก่น. วารสารสาธารณสุขและสุขภาพศึกษา. 2567;4(1):1-15.

อุไรรัตน์ วิเชียรสาร. ผลการให้บริการเภสัชกรรมทางไกลในผู้ป่วยเบาหวาน อำเภอคำม่วง จังหวัดกาฬสินธุ์. วารสารสิ่งแวดล้อมศึกษา. 2566;8(4):736-46.

อมรพรรณ ศุภจำรูญ, สงวน ลือเกียรติบัณฑิต, วรนุช แสงเจริญ. ความตรงและความเที่ยงของแบบวัดความร่วมมือในการใช้ยาสำหรับชาวไทย: การทดสอบในผู้ป่วยโรคเบาหวาน. วารสารเภสัชกรรมไทย. 2561;10(2):607-19.

กมลชนก จงวิไลเกษม, สงวน ลือเกียรติบัณฑิต. การพัฒนาแบบวัดความร่วมมือในการใช้ยาสำหรับคนไทย. วารสารเภสัชกรรมไทย. 2564;13(1):17-30.

Pharmaceutical Care Network Europe. PCNE classification for drug related problems V 9-1 [Internet]. 2020 [cited 2024 Oct 18]. Available from: https://www.pcne.org/upload/files/417PCNE_classification_V9-1_final.pdf.

จิราวัฒน์ สุวัตธิกะ. ผลของการบริบาลเภสัชกรรมร่วมกับการติดตามการใช้ยาทางไกลโดยประยุกต์ใช้ระบบหมอพร้อมในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ที่ใช้ปากกาฉีดอินซูลิน อำเภอเซกา จังหวัดบึงกาฬ. วารสารการศึกษาและวิจัยการสาธารณสุข. 2566;1(2):122-39.

อรุณวรรณ ต่อกร. ผลของการบริบาลเภสัชกรรมร่วมกับการติดตามการใช้ยาทางไกลในผู้ป่วยเบาหวานที่ใช้ยาฉีดอินซูลิน โรงพยาบาลโกสัมพีนคร จังหวัดกำแพงเพชร.วารสารวิจัยและวิชาการสาธารณสุขจังหวัดพิจิตร. 2565;3(2):108-16.

อาจารี สถานเมือง. ผลการดูแลผู้ป่วยเบาหวานที่ใช้ยาฉีดอินซูลิน โดยรูปแบบการบริการเภสัชกรรมทางไกลในคลินิกโรคเบาหวาน โรงพยาบาลบ้านแท่น จังหวัดชัยภูมิ. วารสารสุขภาพและสิ่งแวดล้อมศึกษา. 2566;8(4):318-26.

พุทธิดา โภคภิรมย์, กรกมล รุกขพันธ์. ผลของการสัมภาษณ์เพื่อเสริมสร้างแรงจูงใจแบบสั้นร่วมกับการให้ความรู้และการติดตามทางโทรศัพท์โดยเภสัชกรในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2: การศึกษาเชิงทดลองแบบสุ่มและมีกลุ่มควบคุม. วารสารเภสัชกรรมไทย. 2563;12(4):984-96.

สิทธิ ฟักทองอยู่. ประสิทธิผลของการบริการเภสัชกรรมทางไกล (Telepharmacy) ในผู้ป่วยเบาหวานของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลในเครือข่ายอำเภอเมืองตาก. วารสารโรงพยาบาลนครพิงค์. 2567;15(2):392-406.

Choe H M, Mitrovich S, Dubay D, Hayward R A, Krein S L, Vijan S. Proactive case management of high-risk patients with type 2 diabetes mellitus by a clinical pharmacist: a randomized controlled trial. The American Journal of Managed Care. 2005;11(4):253-60.

Jarab A S, Alqudah S G, Mukattash T L, Shattat G, Al-Qirim T. Randomized controlled trial of clinical pharmacy management of patients with Type 2 Diabetes in an outpatient Diabetes Clinic in Jordan. Journal of Managed Care Pharmacy. 2012;18(7):516-26.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

เผยแพร่ 2025-06-27 — ปรับปรุง 2025-06-27

เวอร์ชัน

รูปแบบการอ้างอิง

1.
หนูธรรมพะเนา ส. ผลการบริบาลเภสัชกรรมโดยใช้รูปแบบการบริการเภสัชกรรมทางไกล (telepharmacy) ในผู้ป่วยเบาหวานโรงพยาบาลปทุมรัตต์ จังหวัดร้อยเอ็ด. J Res Health Inno Dev [อินเทอร์เน็ต]. 27 มิถุนายน 2025 [อ้างถึง 27 ธันวาคม 2025];6(2):257-73. available at: https://he01.tci-thaijo.org/index.php/jrhi/article/view/280584

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความต้นนิพนธ์