การพัฒนาการส่งเสริมการใช้ยาอย่างสมเหตุผลในชุมชนในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลนาเยีย อำเภอนาเยีย จังหวัดอุบลราชธานี
คำสำคัญ:
การพัฒนา, การส่งเสริม, การใช้ยาอย่างสมเหตุผลบทคัดย่อ
วัตถุประสงค์ : เพื่อส่งเสริมการใช้ยาอย่างสมเหตุผลในชุมชน ในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลนาเยีย อำเภอนาเยีย จังหวัดอุบลราชธานี
รูปแบบการวิจัย : การวิจัยเชิงปฏิบัติการ
วัสดุและวิธีการวิจัย : การวิจัยครั้งนี้แบ่งการศึกษาออกเป็น 2 ระยะ คือ 1) ระยะเตรียมการ 2) ระยะดำเนินการการส่งเสริมการใช้ยาอย่างสมเหตุผล ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยแบบเก็บข้อมูลที่พัฒนาขึ้น วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา เปรียบเทียบผลลัพธ์ก่อนและหลังการพัฒนาและวิเคราะห์เชิงเนื้อหา
ผลการวิจัย : การส่งเสริมการใช้ยาอย่างสมเหตุผลในชุมชน ในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลนาเยีย อำเภอนาเยีย จังหวัดอุบลราชธานี มีความรู้ความเข้าใจและทักษะในการส่งเสริมการใช้ยาอย่างสมเหตุผลหลังการพัฒนาส่วนใหญ่อยู่ในระดับสูง ทั้งนี้เป็นเพราะว่า เจ้าหน้าที่ รพ.สต. และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน มีการเน้นย้ำเนื้อหาความรู้ความเข้าใจและทักษะในการใช้ยาอย่างสมเหตุผลที่ถูกต้อง จึงส่งผลให้มีความรู้ความเข้าใจและทักษะในการใช้ยาอย่างสมตุผลเพิ่มสูงขึ้น คะแนนเฉลี่ยความรู้ความเข้าใจและทักษะในการส่งเสริมการใช้ยาอย่างสมเหตุผลหลังการพัฒนามีคะแนนเฉลี่ยเพิ่มขึ้น ผลการเปรียบเทียบความแตกต่างของคะแนนความรู้ความเข้าใจก่อนและหลังการพัฒนา มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 การพัฒนาการส่งเสริมการใช้ยาอย่างสมเหตุผลในชุมชน ในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลนาเยีย ทำให้ผู้เข้าร่วมโครงการมีความรู้เพิ่มขึ้น
สรุปและข้อเสนอแนะ : การส่งเสริมการใช้ยาอย่างสมเหตุผลในชุมชน ในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลนาเยีย อำเภอนาเยีย จังหวัดอุบลราชธานี จะต้องมีการพัฒนาให้ครอบคลุมทุกระดับตั้งแต่ระดับโรงพยาบาลถึงระดับชุมชน การพัฒนาทุกภาคส่วนจะทำให้เกิดการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น ส่งผลทางตรงให้มีการใช้ยาที่เหมาะสมมากขึ้นและส่งผลทางอ้อมคือ ค่าใช้จ่ายด้านยาที่ลดลงและช่วยลดภาวะดื้อยาตามมา
เอกสารอ้างอิง
ชัยวัฒน์ สิงห์หิรัญนุสรณ์. RUD community : เอกสารประกอบการอบรมเรื่องการพัฒนาการใช้ยาอย่างสมเหตุผลในชุมชน. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย; 2566.
สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข. แนวทางการดำเนินงานพัฒนาระบบการใช้ยาอย่างสมเหตุผลในชุมชน. นนทบุรี : กลุ่มงานพัฒนาระบบสนับสนุนบริการ กองบริหารการสาธารณสุข; 2566.
เบญจมาศ บุดดาวงศ์. การส่งเสริมการใช้ยาอย่างสมเหตุผลในชุมชน อำเภอโนนคูณ จังหวัดศรีสะเกษ. ศรีสะเกษ: โรงพยาบาลโนนคูณ จังหวัดศรีสะเกษ; 2566.
เอมอัชฌาวัฒนบุรานนท์. หลักการทางสุขศึกษา. กรุงเทพฯ: โอเดียนสโตร์; 2566.
Kemmis S, McTaggart R. The action research planner. 3rd ef. Victoria : Deakin University press; 1988.
ปรารถนา ชามพูนท. ยาเหลือใช้และพฤติกรรมการใช้ยาของประชาชนในจังหวัดเชียงใหม่ [วิทยานิพนธ์]. เชียงใหม่ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่; 2564.
ดรุวรรณ คลังศรี. การมีส่วนร่วมของเจ้าหน้าที่หน่วยบริการปฐมภูมิในกระบวนการ พัฒนาระบบงานบริการส่งมอบยาและให้คำแนะนำการใช้ยา. วารสารเภสัชกรรมไทย. 2566;5(2):91–107.
ธนพงศ์ ภูผาลี. รูปแบบการพัฒนาร้านชำแบบชุมชนมีส่วนร่วม ต.โพนสูง จ.สกลนคร. วารสารอาหารและยา. 2567;57–63.
สรัญญ์รักษ์ บุญมุสิก. ความรู้ เจตคติและพฤติกรรมการใช้ยาปฏิชีวนะอย่างสมเหตุผลของนักศึกษาพยาบาล เครือข่ายวิทยาลัยพยาบาลและสาธารณสุขภาคใต้. วารสารวิจัยและนวัตกรรมทางสุขภาพ. 2562;2(1):25–36.
โสพิศ สุมานิต. ผลของการเสริมสร้างการรับรู้สมรรถนะแห่งตนต่อการรับรู้สมรรถนะการมีส่วนร่วมดูแลผู้ป่วยเด็กภาวะวิกฤตของผู้ดูแล. รามาธิบดีพยาบาลสาร. 2564;17(1):63–74.
จิรชัย มงคลชัยภักดิ์. การศึกษาความรู้และพฤติกรรมเกี่ยวกับการใช้ยาปฏิชีวนะของผู้รับบริการในร้านยาชุมชนจังหวัดปทุมธานี. วิทยานิพนธ์ปริญญาสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารสาธารณสุข. มหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย; 2565.
อารีย์ แร่ทอง. ความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ 3อ 2ส ของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน กรณีศึกษาตำบลหินตก อำเภอร่อนพิบูลย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช. วารสารวิชาการ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ. 2562;15(3):62–70.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
เวอร์ชัน
- 2025-06-27 (2)
- 2025-06-27 (1)
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด
บทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสารวิจัย และพัฒนานวัตกรรมทางสุขภาพ สํานักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด ถือเป็น ผลงานวิชาการ งานวิจัย วิเคราะห์ ตลอดจนเป็นความเห็นส่วนตัวของผู้ประพันธ์ กองบรรณาธิการไม่จําเป็นต้องเห็น ด้วยเสมอไป และผู้ประพันธ์จะต้องรับผิดชอบต่อบทความของตนเอง