การพัฒนาแนวปฏิบัติทางการพยาบาลเพื่อลดความวิตกกังวลในผู้ป่วยผ่าตัดคลอดทางหน้าท้องครรภ์แรก งานการพยาบาลผู้ป่วยห้องผ่าตัด โรงพยาบาลโพนทอง จังหวัดร้อยเอ็ด
คำสำคัญ:
ความวิตกกังวล, ผ่าตัดคลอดทางหน้าท้องครรภ์แรก, แนวปฏิบัติทางการพยาบาลบทคัดย่อ
วัตถุประสงค์: เพื่อพัฒนาแนวปฏิบัติทางการพยาบาลที่เหมาะสมในการลดความวิตกกังวลของผู้ป่วยผ่าตัดคลอดทางหน้าท้องครรภ์แรก งานการพยาบาลผู้ป่วยห้องผ่าตัด โรงพยาบาลโพนทอง จังหวัดร้อยเอ็ด
รูปแบบการวิจัย: การวิจัยนี้เป็นการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) แบ่งออกเป็น 3 ระยะ คือ 1) ระยะศึกษาสถานการณ์และปัจจัยที่เกี่ยวข้อง 2) ระยะพัฒนาแนวปฏิบัติทางการพยาบาล และ 3) ระยะทดลองใช้และประเมินผลแนวปฏิบัติ
วัสดุและวิธีการวิจัย: กลุ่มตัวอย่างประกอบด้วย 1) ผู้ป่วยตั้งครรภ์แรกที่ได้รับการผ่าตัดคลอดทางหน้าท้องแบบไม่ฉุกเฉิน จำนวน 60 ราย 2) พยาบาลวิชาชีพที่ปฏิบัติงานในห้องผ่าตัดและหอผู้ป่วยสูติกรรม โรงพยาบาลโพนทอง จำนวน 15 คน วิธีดำเนินการวิจัยแบ่งเป็น 3 ระยะ ได้แก่ 1) ศึกษาสถานการณ์โดยใช้แบบสอบถามและสัมภาษณ์ผู้ป่วยครรภ์แรก 30 ราย และพยาบาลวิชาชีพ 15 คน 2) พัฒนาแนวปฏิบัติ โดยได้รับความเห็นจากผู้ทรงคุณวุฒิ 5 คน (สูติแพทย์ วิสัญญีแพทย์ พยาบาลวิชาชีพ 3 คน) และ 3) ทดลองใช้แนวปฏิบัติกับกลุ่มทดลอง 30 ราย และกลุ่มควบคุม 30 ราย โดยเปรียบเทียบผลด้วย Paired t-test, Independent t-test และ ANCOVA เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลประกอบด้วย แบบสอบถามข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลทางสูติกรรม แบบประเมินความวิตกกังวล State-Trait Anxiety Inventory (STAI) ฉบับภาษาไทย แบบสัมภาษณ์เชิงลึกเกี่ยวกับประสบการณ์และความต้องการการดูแลเพื่อลดความวิตกกังวล แบบประเมินความพึงพอใจต่อแนวปฏิบัติการพยาบาลและแบบประเมินความเป็นไปได้ในการปฏิบัติตามแนวปฏิบัติการพยาบาล วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและสถิติเชิงอนุมาน ได้แก่ Paired t-test, Independent t-test และ ANCOVA (กรณีที่ต้องควบคุมตัวแปรแทรกซ้อน)
ผลการวิจัย: เชิงปริมาณ พบว่า กลุ่มทดลองที่ได้รับแนวปฏิบัติทางการพยาบาลมีระดับความวิตกกังวล สัญญาณชีพและอุบัติการณ์ของภาวะแทรกซ้อนทางคลินิกต่ำกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<.05) โดยกิจกรรมที่ลดความวิตกกังวลได้มากที่สุด คือ การให้ข้อมูลและคำแนะนำที่ชัดเจนและการมีส่วนร่วมของญาติ ส่วนผลการวิจัยเชิงคุณภาพสนับสนุนว่า การให้ข้อมูลครบถ้วนและการสนับสนุนทางอารมณ์ช่วยให้ผู้ป่วยรู้สึกมั่นใจและลดความวิตกกังวลได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงสรุปได้ว่า แนวปฏิบัติที่พัฒนาขึ้นสามารถนำไปใช้เพื่อลดความวิตกกังวลในผู้ป่วยผ่าตัดคลอดครรภ์แรกได้อย่างเหมาะสม
สรุปและข้อเสนอแนะ: แนวปฏิบัติทางการพยาบาลที่พัฒนาขึ้นนี้สามารถลดความวิตกกังวลของผู้ป่วยผ่าตัดคลอดทางหน้าท้องครรภ์แรกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควรมีการส่งเสริมให้นำแนวปฏิบัตินี้ไปใช้ในหน่วยบริการคลอด และควรมีการพัฒนาต่อยอดเพื่อให้ครอบคลุมถึงการดูแลแบบองค์รวม รวมทั้งศึกษาปัจจัยส่วนบุคคลที่มีผลต่อความวิตกกังวลเพิ่มเติม
เอกสารอ้างอิง
สำนักงานสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข. รายงานสถานการณ์การผ่าตัดคลอดในประเทศไทย. กรุงเทพฯ: กระทรวงสาธารณสุข; 2564.
Ngamjarus C, Chongsuvivatwong V, Thavorncharoensap M. Anxiety among first-time mothers undergoing cesarean section: a cross-sectional study. J Med Assoc Thai. 2019;102(4):423-30.
สุชาดา ศรีอุบล. ปัจจัยที่มีผลต่อความวิตกกังวลของมารดาที่ผ่าตัดคลอดทางหน้าท้อง. วารสารพยาบาลศาสตร์. 2563;38(2):25-34.
Martha D, John S, Smith L. Preoperative anxiety and physiological outcomes in cesarean section patients. Int J Obstet Anesth. 2018;33:49-56.
John M, Smith K. Effects of anxiety on anesthetic requirements and postoperative recovery. Anesth Analg. 2020;130(3):776-82.
Putri A, Sari D, Wijaya H. Impact of maternal anxiety on early mother-infant bonding after cesarean delivery. J Perinat Neonatal Nurs. 2021;35(1):34-41.
โรงพยาบาลโพนทอง. รายงานการสำรวจความวิตกกังวลในผู้ป่วยผ่าตัดคลอดทางหน้าท้องครรภ์แรก. ข้อมูลภายใน; 2566.
Kong L, Lim W, Tan C. Nursing interventions to reduce anxiety in cesarean section patients: a systematic review. Nurs Health Sci. 2022;24(2):256-65.
World Health Organization. WHO recommendations on interventions to improve preoperative anxiety and outcomes. Geneva: WHO; 2015.
Lazarus R S, Folkman S. Stress, Appraisal, and Coping. Springer Publishing;1984.
Haines H M, Wilson D T, Lee D S. Reducing anxiety in surgical patients using structured preoperative information. Journal of Clinical Nursing. 2021;20(5);652–661.
Akbarzadeh M, Rafiee B, Asadi N, Zare N. The effect of supportive care on anxiety levels in women undergoing cesarean section. Iranian Red Crescent Medical Journal. 2015;17(4):e11870.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
เวอร์ชัน
- 2025-06-19 (2)
- 2025-06-19 (1)
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด
บทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสารวิจัย และพัฒนานวัตกรรมทางสุขภาพ สํานักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด ถือเป็น ผลงานวิชาการ งานวิจัย วิเคราะห์ ตลอดจนเป็นความเห็นส่วนตัวของผู้ประพันธ์ กองบรรณาธิการไม่จําเป็นต้องเห็น ด้วยเสมอไป และผู้ประพันธ์จะต้องรับผิดชอบต่อบทความของตนเอง