ประสิทธิผลการใช้ยาหอมเทพจิตรต่อคุณภาพการนอนและคุณภาพชีวิตในสตรีวัยหมดประจำเดือนที่มารับบริการคลินิกแพทย์แผนไทย โรงพยาบาลสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด
คำสำคัญ:
คุณภาพการนอน, คุณภาพชีวิต, ตำรับยาหอมเทพจิตร, สตรีวัยหมดประจำเดือนบทคัดย่อ
วัตถุประสงค์ : เพื่อศึกษาประสิทธิผลการใช้ยาหอมเทพจิตรต่อคุณภาพการนอนและคุณภาพชีวิตในสตรีวัยหมดประจำเดือน ที่มารับบริการคลินิกแพทย์แผนไทย โรงพยาบาลสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด
รูปแบบการวิจัย : การวิจัยกึ่งทดลอง (Quasi – experimental research)
ระเบียบวิธีการวิจัย : กลุ่มตัวอย่างเป็นสตรีวัยหมดประจำเดือนที่มารับบริการคลินิกแพทย์แผนไทย โรงพยาบาลสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด ที่มีคะแนนคุณภาพการนอน (Pittsburgh Sleep Quality Index : PSQI) มากกว่า 5 คะแนน จำนวน 40 คน เป็นกลุ่มทดลอง 20 คน และกลุ่มควบคุม 20 คน ดำเนินการระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2568 – 31 มีนาคม 2568 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) เครื่องมือที่ใช้ในการทดลอง คือ การบำบัดรักษาด้วยตำรับยาหอมเทพจิตร และ 2) เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบสอบถามข้อมูลทั่วไป แบบประเมินคุณภาพการนอนหลับ และแบบประเมินคุณภาพชีวิต สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ ได้แก่ สถิติเชิงพรรณนา และสถิติอนุมาน Paired sample t-test กำหนดระดับนัยสำคัญทางสถิติ p<.05
ผลการวิจัย : หลังการทดลอง กลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุมมีคะแนนคุณภาพการนอน แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<.001) โดยกลุ่มทดลองมีคะแนนคุณภาพการนอน เท่ากับ 3.25 คะแนน (SD. = 0.91) กลุ่มควบคุมมีคะแนนคุณภาพการนอน เท่ากับ 12.65 คะแนน (SD. = 3.24) ซึ่งแตกต่างกัน 9.40 คะแนน (95%CI: 7.87, 10.92) และมีคุณภาพชีวิตแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<.001) โดยกลุ่มทดลองมีคะแนนคุณภาพชีวิตเฉลี่ย น้อยกว่ากลุ่มควบคุม เท่ากับ 24.80 คะแนน (95%CI: 16.87, 32.61)
สรุปและข้อเสนอแนะ : การบำบัดรักษาด้วยตำรับยาหอมเทพจิตร ส่งผลให้สตรีวัยหมดประจำเดือน มีคุณภาพการนอนหลับ และมีคุณภาพชีวิตดีขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม จึงควรนำผลการศึกษามาใช้ในการขยายผล และพัฒนาการพยาบาลผู้ป่วยในกลุ่มโรคอื่นๆ
เอกสารอ้างอิง
ประวีดา คำแดง. การจัดการกับอาการวัยทอง. พยาบาลสาร. 2563;47(1):478-88.
National Center for Health Statistics. Sleep Duration and Quality Among Women Aged 40–59, by Menopausal Status [อินเทอร์เน็ต]. 2567 [เข้าถึงเมื่อ 18 พฤศจิกายน 2567]. เข้าถึงได้จาก: https://www.cdc.gov/nchs/data/databriefs/db286.pdf
Buysse D J, Reynolds C F, Monk T H, Berman S R, Kupfer D J. The Pittsburgh Sleep Quality Index: A New Instrument for Psychiatric Practice and Research. 1989;28(2):193-213.
Heinisch O. Cochran W. G.: Sampling Techniques, 2. Aufl. John Wiley and Sons, New. York, London 1963. Preis s. Biometrische Zeitschrift. 1965;7(3):203.
เสาวลักษณ์ กิติยามาตย์. ผลของยาไทยตำรับยาหอมเทพจิตรต่อคุณภาพการนอนในผู้ที่มีภาวะนอนไม่หลับ. [อินเตอร์เน็ต]. 2567. [เข้าถึงเมื่อ 18 พฤศจิกายน 2567]. เข้าถึงได้จาก. https://postgrads.mfu.ac.th/wp-content/uploads/2022/12/5652003284-Anti-Sc.pdf
กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก. ข้อมูลรายการอ้างอิงผลิตภัณฑ์สมุนไพร ประเภทตำรับยาแผนไทย พ.ศ. 2566. นนทบุรี: กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก; 2566.
ตะวันชัย จิรประมุขพิทักษ์, วรัญ ตันชัยสวัสดิ์. ปัญหาคุณภาพการนอนหลับของพยาบาลประจำการโรงพยาบาลสงขลานครินทร์. วารสารสมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทย, 2540;42(3):123-32.
สุวัฒน์ มหัตนิรันดร์กุล และคณะ. เครื่องมือวัดคุณภาพชีวิตขององค์การอนามัยโลก ชุดย่อฉบับภาษาไทย. เชียงใหม่: โรงพยาบาลสวนปรุง; 2545.
อัคบาร์ ยะโกะ. รูปแบบการดูแลแบบประคับประคองต่อสุขภาพจิตและคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยมะเร็งที่ได้รับรังสีรักษา อาคารเย็นศิระ [วิทยานิพนธ์]. สงขลา: มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์; 2561.
Polit D. Hungler B. Nursing Research: Principle and Method, 6th ed.; Philadelphia: Lippincott Company; 1999.
นัชมีนย์ หลง, จุฬา วิริยะบุบผา. การศึกษานำร่องประสิทธิผลยาหอมเทพจิตรต่อการรักษาผู้ที่มีภาวะซึมเศร้าระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง. ใน: ประชุมหาดใหญ่วิชาการระดับชาติและนานาชาติ ครั้งที่ 11; 17 กรกฎาคม 2563; ณ มหาวิทยาลัยหาดใหญ่. หาดใหญ่; 2563.
กนกรัศม์ จันทน์สุทธิประภา, วรรณวิไล ฤทธิ์เนื่อง. ผลการใช้ยาหอมเทพจิตรและยาขิงในการช่วยลดความปวดกล้ามเนื้อของผู้รับบริการคลินิกแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก. วารสารศูนย์อนามัยที่ 10. 2565;10(1):17-29.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด
บทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสารวิจัย และพัฒนานวัตกรรมทางสุขภาพ สํานักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด ถือเป็น ผลงานวิชาการ งานวิจัย วิเคราะห์ ตลอดจนเป็นความเห็นส่วนตัวของผู้ประพันธ์ กองบรรณาธิการไม่จําเป็นต้องเห็น ด้วยเสมอไป และผู้ประพันธ์จะต้องรับผิดชอบต่อบทความของตนเอง