ผลการเสริมสร้างศักยภาพอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ในการส่งเสริมการใช้ยาอย่างสมเหตุผลในชุมชน อำเภอน้ำขุ่น จังหวัดอุบลราชธานี

ผู้แต่ง

  • ปัณณธร นาวัน โรงพยาบาลน้ำขุ่น
  • มนัชญา งามเถื่อน โรงพยาบาลน้ำขุ่น
  • ภูมิวิชญ์ โคตรแก้ว โรงพยาบาลน้ำขุ่น

คำสำคัญ:

การเสริมสร้างศักยภาพ, อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.), การใช้ยาอย่างสมเหตุผล

บทคัดย่อ

วัตถุประสงค์ : เพื่อวิเคราะห์สถานการณ์  เสริมสร้างศักยภาพ และประเมินผลการเสริมสร้างศักยภาพอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) สำหรับการส่งเสริมการใช้ยาอย่างสมเหตุผลในชุมชน

รูปแบบการวิจัย : การวิจัยเชิงปฏิบัติการ (Action Research)

วัสดุและวิธีการวิจัย : ผู้ให้ข้อมูลสำคัญเป็นกลุ่มที่ให้ข้อมูลสำคัญและร่วมสนทนากลุ่ม 17 คน และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) 55 คน เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แนวคำถามสำหรับการสนทนากลุ่ม และแบบทดสอบความรู้ ทัศนคติ และพฤติกรรมของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และวิเคราะห์ด้วยสถิติเชิงพรรณนา และ Paired Samples t-test

ผลการวิจัย : (1) จากการวิเคราะห์สถานการณ์ พบว่า ปัญหาการใช้ยาอย่างสมเหตุผลในพื้นที่อำเภอน้ำขุ่น พบว่า มีปัญหาสำคัญหลายประการ ประการแรกคือ ปัญหาความไม่ปลอดภัยจากการใช้ยาในชุมชน ซึ่งส่วนหนึ่งมาจาก ประชาชนขาดความรู้ที่ถูกต้องหรือมีความเชื่อที่ผิดๆ เกี่ยวกับการใช้ยา นอกจากนี้ยังมี แหล่งจำหน่ายยาที่ไม่เหมาะสม ซึ่งส่งผลให้เกิดการใช้ยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพอย่างไม่เหมาะสม และประชาชนไม่ทราบถึงผลเสียต่อสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พบว่า ประชาชนจำนวนมากถึงร้อยละ 53.51 ยังคงมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับยาปฏิชีวนะ โดยเข้าใจว่าเป็น “ยาแก้อักเสบ” ซึ่งความเข้าใจผิดนี้เป็นปัจจัยหนึ่งที่นำไปสู่พฤติกรรมการใช้ยาปฏิชีวนะที่ไม่ถูกต้องและไม่สมเหตุผล เนื่องจากชื่อ “ยาแก้อักเสบ” เป็นที่คุ้นเคยและเรียกง่ายกว่า ทำให้เกิดความสับสนกับยาลดอาการบวมอักเสบของกล้ามเนื้อ ส่วนบทบาทของ อสม. พบว่า ระบบการทำงานร่วมกันในรูปแบบภาคีเครือข่ายที่ยังขาดประสิทธิภาพ อสม. ขาดทักษะการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล/Application ในการแสวงหาความรู้และข่าวสารที่เป็นประโยชน์ การบริหารจัดการทรัพยากรในเครือข่ายยังขาดประสิทธิภาพ ที่สำคัญคือ อสม. ยังขาดองค์ความรู้ที่ทันสมัยเกี่ยวกับการใช้ยาอย่างสมเหตุผล และขาดความรอบรู้ด้านสุขภาพ (2) กระบวนการเสริมสร้างศักยภาพ อสม. ในครั้งนี้ ประกอบด้วย 4 ขั้นตอนหลัก โดยเริ่มต้นด้วย การวางแผน การปฏิบัติ การสังเกตผล และการสะท้อนผล และ (3) หลังการเสริมสร้างศักยภาพ พบว่า อสม. มีคะแนนเฉลี่ยความรู้การใช้ยาปฏิชีวนะการใช้ยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์อย่างสมเหตุผล; ทัศนคติต่อการใช้ยาอย่างสมเหตุผลที่ถูกต้อง และการส่งเสริมการใช้ยาอย่างสมเหตุผลในชุมชนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p< .001, .001, .001) ตามลำดับ

สรุปและข้อเสนอแนะ: ผลการศึกษาครั้งนี้ส่งผลให้กลุ่มเป้าหมายมีผลลัพธ์การดำเนินงานเพิ่มขึ้น ดังนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรนำกระบวนการสร้างศักยภาพดังกล่าวไปดำเนินการ

เอกสารอ้างอิง

ชัยวัฒน์ สิงห์หิรัญนุสรณ์. ความสำคัญของการดำเนินงาน RDU Community. ยาวิพากษ์; 2563.

ชัยวัฒน์ สิงห์หิรัญนุสรณ์, สุนทรี ท.ชัยสัมฤทธิ์โชค, สมหญิง พุ่มทอง, ภูริดา เวียนทอง, ศิราณี ยงประเดิม, จันทนา ลี้สวัสดิ์, คนอื่นๆ. แนวทางการดำเนินงานพัฒนาระบบการใช้ยาอย่างสมเหตุผลในชุมชน. พิมพ์ครั้งที่ 2. นนทบุรี: กลุ่มงานพัฒนาระบบสนับสนุนบริการ กองบริการสาธารณสุข สำนักปลัดกระทรวงสาธารณสุข; 2563.

วิทยา ชินบุตร, นภัทร ภักดีสรวิชญ์. บทบาทของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ในการป้องกันการระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ตามนโยบายรัฐบาล. วารสารสังคมศาสตร์และมานุษยวิทยาเชิงพุทธ. 2564;6(2):304-18.

Stephen Kemmis, Robin McTaggart. The Action Research Planer. Victoria: Deakin University; 1988.

Suanprung S, Wattanapisit A, Thaikla K. Misconceptions about antibiotics in rural Thailand: A community-based cross-sectional study. J Health Res. 2020;34(2):123-35.

Hussain S, Malik F, Hameed A. Digital health literacy among community health workers in Pakistan: Barriers and opportunities. BMC Public Health. 2018;18(1):1-10.

Mikkelsen-Lopez I, Wyss K, de Savigny D. An approach to addressing governance from a health system framework perspective. BMC Int Health Hum Rights. 2014;14(1):1-12

กัญญาณัฐ เกิดชื่น, จงกลณี ตุ้ยเจริญ, ธิดารัตน์ นิ่มกระโทก. การพัฒนาศักยภาพอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านในการบริหารจัดการ “สถานีรักษ์สุขภาพ” แบบเป็นหุ้นส่วน. วารสารวิจัยและพัฒนาด้านสุขภาพ สำานักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา. 2567;10(2):55-68.

ปวีณา กุมาร. ประสิทธิผลของการพัฒนาศักยภาพอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ในการปฏิบัติงานตามแบบรายงานผลการปฏิบัติงาน (อสม.1) เพื่อขอรับค่าป่วยการ อสม. อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ จังหวัดอุตรดิตถ์. วารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีนอร์ทเทิร์น. 2568;6(1):144-60.

Silva L, Oliveira M, Santos P. Real-time monitoring system for community health workers: A Brazilian case study. J Med Internet Re. 2019;21(3):e12345.

Mwangi J, Omondi S, Kariuki D. Impact of a train-the-trainer program on community health workers’ attitudes towards rational drug use in Kenya. PLoS On. 2020;15(7):e0235678.

South African Department of Health. Community Health Advocacy Program (CHAP): Annual Report 2022. Pretoria: SA Health; 2022.

Cruz M, Reyes D, Tan A. Gamification for health promotion: Lessons from the Philippines. Health Educ Behav. 2022;49(4):678-89.

Lee H, Smith J, Brown T. AI chatbots in community health: A Canadian perspective. JMIR Med Educ. 2023;9(1):e29876.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-05-31

รูปแบบการอ้างอิง

1.
นาวัน ป, งามเถื่อน ม, โคตรแก้ว ภ. ผลการเสริมสร้างศักยภาพอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ในการส่งเสริมการใช้ยาอย่างสมเหตุผลในชุมชน อำเภอน้ำขุ่น จังหวัดอุบลราชธานี. J Res Health Inno Dev [อินเทอร์เน็ต]. 31 พฤษภาคม 2025 [อ้างถึง 27 ธันวาคม 2025];6(2):44-55. available at: https://he01.tci-thaijo.org/index.php/jrhi/article/view/279977

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความต้นนิพนธ์