การพัฒนารูปแบบการจัดการโรคเบาหวานในโรงเรียนเบาหวานวิทยา : การมีส่วนร่วมของชุมชน เพื่อการป้องกันและควบคุมที่ยั่งยืน อำเภอเชียงยืน จังหวัดมหาสารคาม

ผู้แต่ง

  • สมพร อุดมตะคุ สำนักงานสาธารณสุขอำเภอเชียงยืน

คำสำคัญ:

การจัดการโรคเบาหวาน, การมีส่วนร่วมของชุมชน, โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง, อำเภอเชียงยืน

บทคัดย่อ

วัตถุประสงค์ : เพื่อการพัฒนารูปแบบการจัดการโรคเบาหวานในโรงเรียนเบาหวานวิทยา โดยการมีส่วนร่วมของชุมชนเพื่อการป้องกันและควบคุมที่ยั่งยืน อำเภอเชียงยืน จังหวัดมหาสารคาม                           

รูปแบบการวิจัย: เป็นการวิจัยเชิงปฏิบัติการ (Action research)                                           

วัสดุและวิธีการวิจัย: เก็บข้อมูลระหว่างเดือนตุลาคม 2566 -กันยายน 2567 ในกลุ่มตัวอย่าง 3 กลุ่ม ได้แก่ (1) ผู้ป่วยเบาหวาน Hba1c 7-9 mg% 300 คน (2) เจ้าหน้าที่สาธารณสุข 20 คน และ (3) อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน 97 คน เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบวิเคราะห์สถานการณ์และสภาพปัญหา แบบประเมินผลโครงการ แบบสอบถามการรับรู้คุณภาพบริการของผู้รับบริการ และแบบสอบถามการรับรู้คุณภาพบริการของเจ้าหน้าที่ และวิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา             

ผลการวิจัย : รูปแบบการจัดการโรคเบาหวานในโรงเรียนเบาหวานวิทยาโดยมีส่วนร่วมของชุมชนเพื่อการป้องกันและควบคุมที่ยั่งยืน ประกอบด้วย 5 ขั้นตอน ได้แก่ 1) การให้คำแนะนำการปฏิบัติตัวและการใช้ยา 2) การติดตามระดับน้ำตาลในเลือดทุกสัปดาห์ 3) การตรวจระดับน้ำตาลสะสม (HbA1c) ทุก 3 เดือน 4) การพิจารณาปรับลดยาในผู้ป่วยที่ควบคุมได้ และ 5) การปรับเพิ่มยาในผู้ป่วยที่ควบคุมไม่ได้และเข้าโรงเรียนเบาหวานวิทยาต่อ ผลการดำเนินงานพบว่าผู้ป่วยเบาหวานที่มีระดับน้ำตาลสะสมในเลือดต่ำกว่า 7 mg% เพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 48.3 คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยดีขึ้นร้อยละ 85.0 ระดับความเครียดลดลงร้อยละ 74.0 และความพึงพอใจต่อการดูแลอยู่ที่ร้อยละ 95.0 สำหรับความพึงพอใจของผู้ให้บริการ 117 คน พึงพอใจในความพร้อมของสถานที่และอุปกรณ์อยู่ที่ร้อยละ 94.0 แนวทางการดูแลชัดเจนร้อยละ 84.6 เนื้อหาการให้ความรู้เหมาะสมร้อยละ 95.72 และการมีส่วนร่วมของเจ้าหน้าที่ร้อยละ 89.7 ในกลุ่มผู้ป่วย 300 คน พบความพึงใจในความสะดวกในการเข้ารับบริการร้อยละ 83.3 ความชัดเจนของข้อมูล 81.6 ความเป็นมิตรของเจ้าหน้าที่ร้อยละ 86.6 และความพึงพอใจต่อสถานที่ร้อยละ 95.0                                                                                        

สรุปและข้อเสนอแนะ: รูปแบบการจัดการโรคเบาหวานในโรงเรียนเบาหวานวิทยาการมีส่วนร่วมของชุมชนเพื่อการป้องกันและควบคุมที่ยั่งยืนที่พัฒนาขึ้นประกอบด้วย 5 ขั้นตอน ซึ่งข้อเสนอแนะที่ได้จากการศึกษา ได้แก่ ควรมีการขยายโครงการไปสู่กลุ่มเสี่ยง เพิ่ม อสม. เชี่ยวชาญเบาหวานหมู่บ้านละ 2 คน จัดสรรอุปกรณ์ให้ อสม. และบูรณาการกับนโยบายท้องถิ่น รวมถึงปรับเปลี่ยนอาหารตามวัฒนธรรมพื้นถิ่นและส่งเสริมการออกกำลังกายในชีวิตประจำวัน ผลลัพธ์ที่โดดเด่นคือ ชุมชนมีสุขภาวะที่ยั่งยืน

เอกสารอ้างอิง

The International Diabetes Federation (IDF). IDF Diabetes Atlas 2021 [Internet]. [cited 2025 March 1]. Available from: https://diabetesatlas.org/atlas/tenth-edition/

Parker E D, Lin J, Mahoney T, Ume N, Yang G, Gabbay R A, et al. Economic Costs of Diabetes in the U.S. in 2022. Diabetes Care. 2023;47(1):26–43.

WHO. Global report on diabetes [Internet]. [cited 2025 March 1]. Available from: https://www.who.int/publications/i/item/9789241565257

Ong K L, Stafford L K, McLaughlin S A, Boyko E J, Vollset S E, Smith A E, et al. Global, regional, and national burden of diabetes from 1990 to 2021, with projections of prevalence to 2050: a systematic analysis for the Global Burden of Disease Study 2021. The Lancet. 2023;402(10397):203–34.

กรมควบคุมโรค. รณรงค์วันเบาหวานโลก ปี 2564 ตระหนักถึงการดูแลรักษาโรคเบาหวาน ให้ได้รับการรักษาอย่างทั่วถึง [อินเทอร์เน็ต]. [เข้าถึงเมื่อ 22 กุมภาพันธ์ 2568]. เข้าถึงได้จาก: https://ddc.moph.go.th/brc/news.php?news=21692&deptcode=brc

Aekplakorn W, Abbott-Klafter J, Premgamone A, Dhanamun B, Chaikittiporn C, Chongsuvivatwong V, et al. Prevalence and management of diabetes and associated risk factors by regions of Thailand: Third National Health Examination Survey 2004. Diabetes Care. 2007;30(8):2007-12.

สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม. รายงานสถานการณ์โรคเบาหวานในจังหวัดมหาสารคาม. มหาสารคาม: สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม; 2564.

Thojampa S, et al. Factors associated with self-management among people with type 2 diabetes in Thailand. Pacific Rim International Journal of Nursing Research. 2017;21(3):177-89.

To-On S, Sukdee S. Factors Affecting Glycemic Control in Patients with Uncontrolled Type 2 Diabetes Mellitus in Khai Bang Rachan Hospital, Singburi Province. Singburi Hospital Journal 2023;32(2).B111-B21.

Kemmis S, McTaggart R. The Action Research Planner. Deakin University; 1988.

ศิวพร อึ้งวัฒนา, วราภรณ์ บุญเชียง, ธนพรรณ จรรยาศิริ. การพัฒนาระบบสุขภาพชุมชนโดยชุมชนเพื่อชุมชน: กรณีศึกษาตำาบลหนองหาร อำาเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่. พยาบาลสาร 2556;40(1):140-146.

กองยุทธศาสตร์และแผนงาน สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข. แผนปฏิบัติราชการของกระทรวงสาธารณสุขและสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ประจำปีงบประมาณ 2563 – กองยุทธศาสตร์และแผนงาน สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข [อินเทอร์เน็ต]. [เข้าถึงเมื่อ 16 มีนาคม 2568]. เข้าถึงได้จาก: https://spd.moph.go.th/government-action-plan-2563/

อภิชาต ขันตี. ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลหนองฮี อำเภอปลาปาก จังหวัดนครพนม. วารสารวิชาการทางการพยาบาลและวิทยาศาสตร์สุขภาพ. 2567;4(1):18–28.

วัฒนา สว่างศรี, ศิราณีย์ อินธรหนองไผ่. การพัฒนารูปแบบการส่งเสริมสุขภาพเพื่อป้องกัน การเกิดโรคเบาหวานรายใหม่ในชุมชน. วารสารพยาบาลทหารบก. 2558;16(1):116-22.

ธีรศักดิ์ พาจันทร์, กฤชกันทร สุวรรณพันธุ์, บุญสัน อนารัตน์, นิรันดร์ ถาละคร. ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย. วารสารศูนย์อนามัยที่ 9. วารสารส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อม. 2565;16(1):285–98.

จิตรศุภ์อรณ์ ดอนนาค. ผลของโปรแกรมการเยี่ยมบ้านที่มีต่อระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวานในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์. วารสารโรงพยาบาลนครพนม. 2560;4(1):60–70.

อารยา เชียงของ, พัชรี ดวงจันทร์, อังศินันท์ อินทรกำแหง. วามรอบรู้ทางสุขภาพในผู้ป่วยเบาหวานวัยผู้ใหญ่: ประสบการณ์ของการเป็นผู้ป่วยโรคเบาหวานและมุมมอง ที่เกี่ยวข้องกับความรอบรู้ทางสุขภาพ.2560;24(2):162-78.

Oba N, Newbood S, Rithpho P, Panyam S. Lessons learned from the initial stages of the Bang Rakam PUWADOL Model Diabetes Academy : A Qualitative Research. Journal of diseases Prevention and Control: DPC. 2 Phitsanulok. 2024;11(2).60-77.

Yodprong S, Piyabunditkul L. Establishing diabetes mellitus school by community participation. Journal of Nursing and Health Care. 2018;36(2):185-95.

Khtibancha C, Loophai R. STUDY GUIDELINES FOR CONTROLLING BLOOD SUGAR LEVEL AMONG PEOPLE WITH TYPE 2 DIABETES WITTAYA SCHOOL NAKHON CHAI BURIN, PAK CHONG DISTRICT, NAKHON RATCHASIMA PROVINCE. Multidisciplinary Journal of Shinawatra University. 2024:1(1):27-45.

Wongsawan P. The effectiveness of diabetes academic program for new diabetic mellitus type 2 patients in Nakhonphanom hospital. NAKHONPHANOM HOSPITAL JOURNAL. 2561;5(1):16-26.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

เผยแพร่ 2025-04-25 — ปรับปรุง 2025-04-25

เวอร์ชัน

รูปแบบการอ้างอิง

1.
อุดมตะคุ ส. การพัฒนารูปแบบการจัดการโรคเบาหวานในโรงเรียนเบาหวานวิทยา : การมีส่วนร่วมของชุมชน เพื่อการป้องกันและควบคุมที่ยั่งยืน อำเภอเชียงยืน จังหวัดมหาสารคาม. J Res Health Inno Dev [อินเทอร์เน็ต]. 25 เมษายน 2025 [อ้างถึง 27 ธันวาคม 2025];6(1):458-70. available at: https://he01.tci-thaijo.org/index.php/jrhi/article/view/279039

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความต้นนิพนธ์