ผลของการใช้แรงสนับสนุนทางสังคมร่วมกับการใช้แอปพลิเคชัน BSE ในการตรวจเต้านมด้วยตนเองของสตรี อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม
คำสำคัญ:
แอปพลิเคชันตรวจเต้านม BSE ตรวจเต้านมด้วยตนเอง, แรงสนับสนุนทางสังคม, ความเชื่อด้านสุขภาพบทคัดย่อ
วัตถุประสงค์ : เพื่อศึกษาผลของการใช้แรงสนับสนุนทางสังคมร่วมกับการใช้แอปพลิเคชัน BSE ในการตรวจเต้านมด้วยตนเองของสตรี อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม
รูปแบบการวิจัย : การวิจัยกึ่งทดลอง (Quasi–Experimental research design) ประเภทการวิจัยแบบหนึ่งกลุ่ม วัดก่อนและหลังการทดลอง (One group pretest posttest design)
วัสดุและวิธีการวิจัย : ทำการศึกษาที่เขตพื้นที่อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม ใช้เวลาทำการวิจัย 4 สัปดาห์ ระหว่างวันที่ 1 – 30 มิถุนายน 2567 จำนวน 90 ราย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ ชุดแอปพลิเคชันการตรวจเต้านม แบบสอบถามความเชื่อด้านสุขภาพ ประกอบด้วย การรับรู้โอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งเต้านม การรับรู้ความรุนแรงของโรคมะเร็งเต้านม การรับรู้ประโยชน์ในการตรวจเต้านมด้วยตนเอง การรับรู้ความสามารถในการตรวจเต้านมด้วยตนเอง แบบประเมินความพึงพอใจในการใช้แอปพลิเคชันตรวจเต้านมด้วยตนเอง และแบบสอบถามความถูกต้องของการตรวจเต้านมด้วยตนเอง ผ่านการตรวจสอบความตรงตามเนื้อหาจากผู้ทรงคุณวุฒิ 3 ท่าน วิเคราะห์ข้อมูลด้วยค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติ Paired t–test
ผลการวิจัย : พบว่า หลังการใช้แอปพลิเคชันตรวจเต้านมด้วยตนเอง กลุ่มตัวอย่างมีคะแนนการรับรู้โอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งเต้านม การรับรู้ความรุนแรงของโรคมะเร็งเต้านม การรับรู้ประโยชน์ในการตรวจเต้านมด้วยตนเอง การรับรู้ความสามารถในการตรวจเต้านมด้วยตนเอง และความถูกต้องในการตรวจเต้านมด้วยตนเองเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และมีความพึงพอใจหลังการใช้แอปพลิเคชันตรวจเต้านมอยู่ในระดับมากที่สุด
สรุปและข้อเสนอแนะ : การใช้แรงสนับสนุนทางสังคมร่วมกับแอปพลิเคชันตรวจเต้านมด้วยตนเองส่งผลให้กลุ่มตัวอย่างมีความรับรู้ในทุกด้าน ผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ตลอดเวลา สะดวก กลุ่มตัวอย่างมีความพึงพอใจมากที่สุดหลังการใช้แอปพลิเคชัน ควรนำแอปพลิเคชันไปประยุกต์ใช้กับการพยาบาลผู้ป่วยโรคอื่น ๆ เพื่อเป็นสื่อการสอนที่น่าสนใจ
เอกสารอ้างอิง
American Cancer Society. Breast Cancer Facts & Figures 2011–2012. American Cancer Society. 2011;1–34.
Heo J, Chun M, Lee K Y, Oh Y-T, Noh O K, Park R W. Effects of a Smartphone Application on Breast Self–Examination: A Feasibility Study. Healthcare Informatics Research. 2013;19(4):250–260.
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครพนม. รายงานสรุปการปฏิบัติงานด้านสาธารณสุขอำเภอเมืองนครพนม ปีงบประมาณ 2566. นครพนม; 2566.
จารุวรรณ ไตรทิพย์สมบัติ. ความสัมพันธ์ระหว่างความรู้ การรับรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมการป้องกันมะเร็งเต้านมในตรีกลุ่มเสี่ยง. ขอนแก่น: สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 ขอนแก่น; 2562.
จุฑามาศ แอนเนียน. ดูแลเต้านมอย่างใส่ใจ สู้ภัยจากมะเร็ง = Breast care & breast cancer. กรุงเทพฯ: ใกล้หมอ; 2550.
ชัญวลี ศรีสุโข. ต้านมะเร็งเต้านม. กรุงเทพฯ: อัมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง; 2560.
อาคม ชัยวีระวัฒนะ, วีรวุฒิ อิ่มสำราญ. ข้อเสนอแนะการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมที่เหมาะสมสำหรับประเทศไทย. กรุงเทพฯ; 2562.
ศิริพร จิตรเอื้อ, ฉันทนา จันทวงศ์, นิสากร กรุงไกรเพชร. ผลของโปรแกรมการสร้างแรงจูงใจต่อพฤติกรรมการตรวจเต้านมด้วยตนเองของสตรีวัยผู้ใหญ่ตอนต้น เทศบาลเมืองขลุง อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี.วารสารศูนย์การศึกษาแพทยศาสตร์คลินิก โรงพยาบาลพระปกเกล้า. 2560;34(1):40–53.
อาภาพร เผ่าวัฒนา, สุรินธร กลัมพากร, สุนีย์ ละกำปั่น, ขวัญใจ อำนาจสัตย์ชื่อ. การสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคในชุมชน : การประยุกต์แนวคิดและทฤษฎีสู่การปฏิบัติ. สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.); 2554.
น้ำอ้อย ภักดีวงศ์, นวรัตน์ โกมลวิภาต. ความรู้ ความเชื่อด้านสุขภาพ การรับรู้ความสามารถตนเองและพฤติกรรมการตรวจเต้านมด้วยตนเองของนักศึกษาหญิงที่ได้รับโปรแกรมส่งเสริมการตรวจเต้านมด้วยตนเอง. สมาคมสถาบันอุดมศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี. 2561;(7)1:57-70.
วราพร วิริยะอลงกรณ์, กนิษฐา จำรูญสวัสดิ์, วีรศักดิ์ เมืองไพศาล, สืบวงศ์ จุฑาภิสิทธิ์. ผลของโปรแกรมพัฒนาทักษะการตรวจเต้านมด้วยตนเองต่อความรู้ เจตคติ และความถูกต้องในการตรวจเต้านมด้วยตนเอง ของสตรีอาสาสมัครสาธารณสุข อำเภอวังจันทร์ จังหวัดระยอง. ธรรมศาสตร์เวชสาร. 2558;15(2):282-90.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด
บทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสารวิจัย และพัฒนานวัตกรรมทางสุขภาพ สํานักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด ถือเป็น ผลงานวิชาการ งานวิจัย วิเคราะห์ ตลอดจนเป็นความเห็นส่วนตัวของผู้ประพันธ์ กองบรรณาธิการไม่จําเป็นต้องเห็น ด้วยเสมอไป และผู้ประพันธ์จะต้องรับผิดชอบต่อบทความของตนเอง