การวิจัยประเมินโครงการส่งเสริมสุขภาพเด็กร้อยแก่นสารสินธุ์ ดี เก่ง มีสุข เขตสุขภาพที่ 7 (Smart Kids 4.0) ปีงบประมาณ 2566 (พื้นที่ศึกษาจังหวัดร้อยเอ็ด)

ผู้แต่ง

  • ภัทรานิษฐ์ จำปา สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด
  • ญาวิตา ใจหาญ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด
  • สิริวิมล ไชยมงคล ศูนย์สุขภาพจิตที่ 7

คำสำคัญ:

โครงการส่งเสริมสุขภาพเด็กร้อยแก่นสารสินธุ์ ดี เก่ง มีสุข จังหวัดร้อยเอ็ด

บทคัดย่อ

วัตถุประสงค์ : เพื่อประเมินผลของโครงการส่งเสริมสุขภาพเด็กร้อยแก่นสารสินธุ์ ดีเก่งมีสุข ปีงบประมาณ 2566 พื้นที่ศึกษาจังหวัดร้อยเอ็ด  

รูปแบบการวิจัย : ใช้รูปแบบวิจัยประเมินผลโครงการโดยนำแนวคิดการประเมิน Stufflebeam’s CIPP Model แบ่งวิธีการดำเนินการวิจัยเป็น 3 ระยะ คือ ระยะก่อนดำเนินโครงการ ระยะระหว่างดำเนินโครงการ ระยะประเมินผลโครงการและการประเมินผลผลิต

วัสดุและวิธีการวิจัย : กลุ่มตัวอย่างคัดเลือกแบบเฉพาะเจาะจง (Purposive Sampling) โดยการคัดเลือกจากผู้มีประสบการณ์ในการส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย และสามารถถ่ายทอดกิจกรรมตามโปรแกรมส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย (Smart Kids) ที่ได้รับการถ่ายทอดการใช้โปรแกรม ตำบลละ 2 คน รวม 20 ตำบล จำนวนทั้งหมด 40 คน เป็นเจ้าหน้าที่สาธารณสุข หรือครูจากสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย และกลุ่มเด็กปฐมวัยอายุ 3 – 5 ปี ที่ได้รับการตรวจพัฒนาการด้วยเครื่องมือ DSPM และมีพัฒนาการที่สงสัยล่าช้า และผู้เลี้ยงดูหลัก จำนวน 592 คน โดยแบ่งวิธีดำเนินการวิจัยออกเป็น 3 ระยะ โดยใช้กรอบแนวคิดการประเมิน Stufflebeam’s CIPP Model เป็นกรอบในการดำเนินงาน ประกอบด้วย Context Evaluation ประเมินบริบทและปัจจัยนำเข้าก่อนดำเนินโครงการ Input Evaluation ประเมินปัจจัยนำเข้า ระยะก่อนดำเนินโครงการ Process Evaluation ประเมินกระบวนการระหว่างดำเนินโครงการ และ Product Evaluation ประเมินผลลัพธ์ของโครงการ

ผลการวิจัย : พบว่า ส่วนใหญ่ผู้ปกครองที่ทำหน้าที่เลี้ยงดูเด็กปฐมวัยมากกว่าครึ่งเป็น ปู่ย่าตายาย มีบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญและมีความร่วมมือจากหลายภาคส่วนในการขับเคลื่อนงาน วัสดุอุปกรณ์ดำเนินงานเพียงพอครอบคลุมสำหรับเด็กปฐมวัย ระดับจังหวัดมีงบประมาณที่เพียงพอ โดยได้รับงบประมาณสนับสนุนจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ แต่ในระดับอำเภอ และระดับตำบลยังมีงบประมาณไม่เพียงพอในการขับเคลื่อนงาน หลังเข้าร่วมโปรแกรม พบว่า ครู ก มีคะแนนเฉลี่ยความรู้ความเข้าใจด้านการส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัยสูงกว่าก่อนเข้าร่วมการอบรมแตกต่างกัน เท่ากับ 4.0 คะแนน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p< .001) ผู้ปกครองมีทักษะในการเลี้ยงดูเด็กปฐมวัยผ่านเกณฑ์เพิ่มขึ้น คิดเป็นร้อยละ 59.2 เด็กมีภาวะโภชนาการสมส่วน เพิ่มขึ้น คิดเป็นร้อยละ 3.3 เด็กไม่มีฟันผุเพิ่มขึ้น คิดเป็นร้อยละ 2.2 และเด็กมีคะแนนเฉลี่ยความฉลาดทางด้านอารมณ์สูงกว่าก่อนเข้าร่วมโปรแกรมแตกต่างกัน เท่ากับ 6.5 คะแนน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < .001) 

สรุปและข้อเสนอแนะ : โครงการส่งเสริมสุขภาพเด็กร้อยแก่นสารสินธุ์ ดี เก่ง มี สุข จังหวัดร้อยเอ็ด มีความสำคัญและส่งผลต่อการส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัยเป็นอย่างมาก กิจกรรมที่จัดทำได้ส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ได้ครอบคลุมทั้งครู ผู้ดูแลเด็ก ครอบครัว และเด็กปฐมวัย จนเกิดเป็นกระบวนเรียนรู้ ที่สามารถส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัยได้จริง

เอกสารอ้างอิง

ดุษฎี จึงศิรกุลวิทย์, อมรา ธนศุภรัตนา, กีรติ ลิ่มสืบเชื้อ. โปรแกรมการส่งเสริมพัฒนาการและสร้างวินัยเชิงบวก โดยครอบครัวมีส่วนร่วม (Preschool Parenting Program ;Triple P)[อินเทอร์เน็ต]. [เข้าถึงเมื่อ 9 กรกฎาคม 2564]. เข้าถึงได้จาก: https://www.dmh.goth/bp/files/modelkid.pdf

กระทรวงสาธารณสุข. รายงานตามตัวชี้วัดกระทรวง เด็กไทยมีการเจริญเติบโตและพัฒนาการสมวัย [อินเทอร์เน็ต]. [เข้าถึงเมื่อ 1 พฤษภาคม 2565]. เข้าถึงได้จาก: https://hdcservice.moph.go.th/hdc/reports/page_kpi.php?flag_kpi_level=1&flag_kpi_year=2021

จันทร์อาภา สุขทัพภ์. เดินหน้า สร้างเด็กไทย ไอคิวดี การสำรวจสถานการณ์ระดับสติปัญญา (IQ) และความฉลาดทางอารมณ์ (EQ) เด็กไทยชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ประจำปี 2564. กรุงเทพ: โรงพิมพ์บียอนด์พับลิสซิ่ง จำกัด; 2565.

สถาบันพัฒนาอนามัยเด็กแห่งชาติ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข. แนวทางการส่งเสริมคุณภาพสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย ด้านสุขภาพ (4D) ตามมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ.กรุงเทพ: สำนักงานกิจการโรงพิมพ์องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก; 2564.

Stufflebeam, Daniel L, Shinkfield, Anthony J. Evalution Theory, Model & Application. San Francisco: John Wilwy; 2007.

วิทวัฒน์ ขัตติยะมาน, ฉัตรศิริ ปิยะพิมลสิทธิ์. การปรับปรุงจุดมุ่งหมายทางการศึกษาของบลูม.(Revised Bloom’s Taxonomy) [อินเทอร์เน็ต]. [เข้าถึงเมื่อ 9 กรกฎาคม 2564]. เข้าถึงได้จาก: http://www.watpon.com/th/mod/page/view.php

กระทรวงสาธารณสุข. คู่มือเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการ เด็กปฐมวัย (DSPM). กรุงเทพ: สำนักงานกิจการโรงพิมพ์องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก; 2563.

สถาบันราชานุกูล กรมสุขภาพจิต. คู่มือพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์เด็กปฐมวัย สำหรับพ่อแม่ผู้ปกครอง. นนทบุรี: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด; 2557.

ยุพิน นุชิต. ประสิทธิผลของโปรแกรมส่งเสริมพัฒนาการและสร้างวินัยเชิงบวกโดยครอบครัวมีส่วนร่วมต่อทักษะความฉลาดทางอารมณ์และทักษะการเลี้ยงดูเด็กปฐมวัยในเครือข่ายสุขภาพอำเภอโพนทอง. วารสารวิจัยและพัฒนานวัตกรรมทางสุขภาพ. 2561;5เพิ่มเติม(1):47-57.

ฮาลาวาตี สนิหวี, อังคณา วังทอง, อนุชิต วังทอง. กระบวนการเสริมสร้างความรอบรู้ด้านพัฒนาการเด็กสำหรับผู้ปกครองในพื้นที่อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี. วารสารมหาวิทยาลัยทักษิณ 2563;2(1):41-51.

วิจิตรา จันทาบุตร, วิทยา บุญสุข, วิโรจน์ เซมรัมย์. การพัฒนาแนวทางการส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัยในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลสีวิเชียร อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี. วารสารวิจัยทางการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒ. 2561;13(1):208-19.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

เผยแพร่ 2025-03-03 — ปรับปรุง 2025-03-03

เวอร์ชัน

รูปแบบการอ้างอิง

1.
จำปา ภ, ใจหาญ ญ, ไชยมงคล ส. การวิจัยประเมินโครงการส่งเสริมสุขภาพเด็กร้อยแก่นสารสินธุ์ ดี เก่ง มีสุข เขตสุขภาพที่ 7 (Smart Kids 4.0) ปีงบประมาณ 2566 (พื้นที่ศึกษาจังหวัดร้อยเอ็ด). J Res Health Inno Dev [อินเทอร์เน็ต]. 3 มีนาคม 2025 [อ้างถึง 27 ธันวาคม 2025];6(1):305-16. available at: https://he01.tci-thaijo.org/index.php/jrhi/article/view/277720

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความต้นนิพนธ์