ผลของโปรแกรมการจัดการตนเองต่อพฤติกรรมการดูแลตนเองและระดับน้ำตาลสะสมในเลือด ของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ที่ควบคุมระดับน้ำตาลไม่ได้ ในคลินิกโรคเบาหวาน โรงพยาบาลธวัชบุรี
คำสำคัญ:
โปรแกรมการจัดการตนเอง, พฤติกรรมการดูแลตนเอง, เบาหวานชนิดที่ 2 ที่ควบคุมไม่ได้บทคัดย่อ
วัตถุประสงค์: เพื่อเปรียบเทียบพฤติกรรมการดูแลตนเอง และค่าเฉลี่ยระดับน้ำตาลสะสมในเลือดของผู้ป่วยเบาหวานที่ควบคุมระดับน้ำตาลไม่ได้ หลังการเข้าร่วมโปรแกรมการจัดการตนเองต่อพฤติกรรมการดูแลตนเองและระดับน้ำตาลสะสมในเลือดของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2
รูปแบบการวิจัย: วิจัยกึ่งทดลอง (Quasi–Experimental Research) โดยการทดสอบหลังการทดลอง (Two Group Post Test)
วัสดุและวิธีการวิจัย: กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ที่ได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ ว่าเป็นเบาหวานชนิดที่ 2 แล้วไม่เกิน 5 ปี ที่มีระดับน้ำตาลสะสมในเลือด HbA1C มากกว่า 7% ขึ้นทะเบียนการรักษาผู้ป่วยเบาหวานในแผนกผู้ป่วยนอก โรงพยาบาลธวัชบุรี จำนวน 60 คน แบ่งเป็น กลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม กลุ่มละ 30 คน ดำเนินการวิจัยระหว่างเดือนสิงหาคม – เดือนธันวาคม 2566 เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามและวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและสถิติทดสอบโดยใช้สถิติ Independent t- test
ผลการวิจัย: หลังการเข้าร่วมโปรแกรมการจัดการตนเองพบว่า ผู้ป่วยเบาหวานในกลุ่มทดลองมีค่าคะแนนเฉลี่ยพฤติกรรมการจัดการตนเองมากกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<.001) โดยมีคะแนนเฉลี่ยพฤติกรรมการจัดการตนเองมากกว่า 0.03 คะแนน (95% CI; 0.02, 0.05) ผู้ป่วยเบาหวานในกลุ่มทดลองมีค่าคะแนนเฉลี่ยพฤติกรรมการดูแลสุขภาพมากกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<.001) โดยมีคะแนนเฉลี่ยพฤติกรรมการดูแลสุขภาพมากว่า 0.27 คะแนน (95% CI; 0.24, 0.30) และผู้ป่วยเบาหวานในกลุ่มทดลองมีค่าเฉลี่ยน้ำตาลสะสมในเลือด (HbA1C) น้อยกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<.001) โดยมีค่าเฉลี่ยน้ำตาลสะสมน้อยกว่า 1.40 mg% (95% CI; 0.84, 1.95)
สรุปและข้อเสนอแนะ: ผลการวิจัยครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรมีการนำโปรแกรมการจัดการตนเองนี้ไปใช้ในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการจัดการตนเอง การดูแลสุขภาพตนเองในด้านการบริโภคอาหาร การรับประทานยาและการออกกำลังกายเพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดต่อไป
เอกสารอ้างอิง
IDF Diabetes Atlas. IDF Diabetes Atlas update [Internet]. 2021. [cited 2023 Oct 24]. Available from: www.diabetesatlas.org.
Diabetes Association of Thailand. Hemoglobin A1C: HbA1c. [Internet]. 2019. [cited 2023 Oct 24]. Available from: https://www.i-regist.igenco.co.th/web/dmthai_old/news_and_knowledge/1943.
Aekplakorn W. Thai national health examination survey V study group. Nonthaburi: Aksorn Graphic and Design; 2016.
กระทรวงสาธารณสุข. ร้อยละของผู้ป่วยโรคเบาหวานที่ควบคุมได้ [อินเทอร์เน็ต]. 2565. [เข้าถึงเมื่อ 30 มกราคม 2565]. เข้าถึงได้จาก: http://https://healthkpi.moph.go.th/kpi2/kpi-list/view/?id=169
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด. ระบบคลังข้อมูลสุขภาพ Health Data Center (HDC) [อินเทอร์เน็ต]. 2565. [เข้าถึงเมื่อ 30 มกราคม 2565]. เข้าถึงได้จาก: https://ret.hdc.moph.go.th/hdc/reports/report.php
โรงพยาบาลธวัชบุรี. ระบบรายงานข้อมูลโปรแกรม Hos-Xp. โรงพยาบาลธวัชบุรี; 2566.
วัชราภรณ์ นาฬิกุล, ลำไพร แทนสา, สุรภา พิลาออน. ผลของโปรแกรมสนับสนุนการจัดการตนเองต่อการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวานที่ควบคุมระดับน้ำตาลไม่ได้โรงพยาบาลเปือยน้อย จังหวัดขอนแก่น. วารสารสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น; 2563;2(1):77-90.
Kanfer F H, Gaelick-Bays L. Self-management method. In: Kanfer FH, Goldstein A, editors. Helping people change: A textbook of methods. 4th ed. New York: Pergamon press; 1991. p.305-60.
Creer T L. Self-management of chronic illness. In: Boekaerts M, Pintrich PR, Zeidner M, editors. Handbook of self-regulation. Academic Press; 2000. p. 601–29.
Cohen J. Statistical power analysis for the behavioral sciences (2nd ed.). Hillsdale, NJ: Lawrence Erlbaum Associates; 1988.
Schmitt A, Reimer A, Hermanns N, Huber J, Ehrmann D, Schall S, et al. Assessing diabetes self-management with the Diabetes Self-Management Questionnaire [DSMQ] can help analyse behavioural problems related to reduced glycemic control. PLOS ONE. 2016;11(3):1-12.
Davis L L. Instrument review: Getting the most from a panel of experts. Applied Nursing Research. 1992;5:194-7.
มหิดลแชนแนล. Mahidol World [อินเทอร์เน็ต]. 2559 [เข้าถึงเมื่อ 5 กันยายน 2566]. เข้าถึงได้จาก: https://www.youtube.com/watch?v=I-TUhCsTkro
กองกิจกรรมทางกายเพื่อสุขภาพ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข. ข้อแนะนำการส่งเสริมกิจกรรมทางกาย การลดพฤติกรรมเนือยนิ่งและการนอนหลับ. กรุงเทพฯ: เอ็นซีคอนเซ็ปต์; 2562.
โชติกา สัตนาโค, จุฬาภรณ์ โสตะ. ผลของโปรแกรมการจัดการตนเองเพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูง. วารสารการพยาบาลและการศึกษา. 2560;10(4):32-47.
แสงอรุณ สุรวงศ์. ผลของโปรแกรมการจัดการตนเองของบุคคลและครอบครัวต่อระดับน้ำตาลเฉลี่ยสะสมของผู้สูงอายุโรคเบาหวานชนิดที่ 2 [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต]. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย; 2560.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
เวอร์ชัน
- 2025-02-13 (5)
- 2025-02-13 (4)
- 2025-02-13 (3)
- 2025-02-13 (2)
- 2025-02-13 (1)
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด
บทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสารวิจัย และพัฒนานวัตกรรมทางสุขภาพ สํานักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด ถือเป็น ผลงานวิชาการ งานวิจัย วิเคราะห์ ตลอดจนเป็นความเห็นส่วนตัวของผู้ประพันธ์ กองบรรณาธิการไม่จําเป็นต้องเห็น ด้วยเสมอไป และผู้ประพันธ์จะต้องรับผิดชอบต่อบทความของตนเอง