ผลของโปรแกรมปฏิบัติการพยาบาลการป้องกันระดับปฐมภูมิต่อพฤติกรรมสุขภาพและระดับน้ำตาลในเลือดของกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวานในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านข่าใหญ่ จังหวัดร้อยเอ็ด
คำสำคัญ:
การปฏิบัติการพยาบาล, การป้องกันระดับปฐมภูมิ, พฤติกรรมสุขภาพ, กลุ่มเสี่ยงเบาหวานบทคัดย่อ
วัตถุประสงค์ : เพื่อเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยพฤติกรรมสุขภาพ และระดับน้ำตาลในเลือดระหว่างกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม หลังได้รับโปรแกรม
รูปแบบการวิจัย : Quasi-experimental Research) ชนิด 2 กลุ่มวัดหลัง (แบบ Two group pretest posttest design)
วัสดุและวิธีการวิจัย : กลุ่มตัวอย่างเป็นกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวาน 36 คน กลุ่มตัวอย่างแบ่งเป็นกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม กลุ่มละ 18 คน ระยะเวลาการดำเนินตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนมิถุนายน 2567 เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม และแบบบันทึก วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน Independent t-test และกำหนดนัยสำคัญทางสถิติที่ 95% Confidences interval
ผลการวิจัย : หลังการทดลอง พบว่า กลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวานในกลุ่มทดลองมีคะแนนเฉลี่ยการป้องกันโรคเบาหวานระดับปฐมภูมิโดยรวม มากกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<.001) โดยมีคะแนนเฉลี่ยการป้องกันโรคเบาหวานระดับปฐมภูมิมากกว่ากลุ่มควบคุม 1.23 คะแนน (95%CI: 0.97, 1.48) และหลังการทดลอง พบว่า กลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวานในกลุ่มทดลองมีค่าเฉลี่ยระดับน้ำตาลในเลือด Fasting Blood Sugar (FBS) โดยรวม น้อยกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<.001) โดยมีค่าเฉลี่ยระดับน้ำตาลในเลือด Fasting Blood Sugar (FBS) โดยรวม น้อยกว่ากลุ่มควบคุม 29.38 mg% (95%CI: 23.23, 35.54)
สรุปและข้อเสนอแนะ : ผลการวิจัยครั้งนี้ส่งผลให้กลุ่มเป้าหมายมีทักษะและพฤติกรรมการป้องกันโรคเพิ่มขึ้น ดังนั้น หน่วยงานด้านสาธารณสุขจึงควรนำวิธีการป้องกันโรคเบาหวานระดับปฐมภูมิที่ใช้ในกลุ่มทดลองไปขยายผลในกลุ่มประชากรเสี่ยงอื่น ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันโรคเบาหวานในชุมชน
เอกสารอ้างอิง
Aekplakorn W, Chariyalertsak S, Kessomboon P, Assanangkornchai S, Taneepanichskul S, Putwatana P, et al. Prevalence and management of diabetes and metabolic risk factors in Thai adults: The NHES V. J Diabetes Res. 2018;2018:1–11.
ลัดดา เหมาะสุวรรณ, เยาวลักษณ์ รูปปัทม์. แนวโน้มอาหาร และโภชนาการกับ NCDs. กรุงเทพฯ: บริษัท สหมิตรพัฒนาการพิมพ์ (1992) จำกัด; 2565.
กองโรคไม่ติดต่อ. วันเบาหวานโลก พ.ศ. 2566. สำนักสื่อสารความเสี่ยงฯ กรมควบคุมโรค; 2566.
ยุฑามาส วันดาว, ทิพมาส ชิฒวงศ์, อุดมรัตน์ ชโลธร, อรุณี ทิพย์วงศ์. ประสบการณ์การจัดการตนเองของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ที่ควบคุมไม่ได้ โรงพยาบาลสะเดา อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา. วารสารพยาบาลสงขลานครินทร์. 2561;38(3):52-64.
วรรณภาภรณ์ จงกลาง, นาฏนภา หีบแก้ว ปัดชาสุวรรณ์. ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวาน ชนิดที่ 2 ของกลุ่มวัยทำงาน อำเภอโนนไทย จังหวัดนครราชสีมา. วารสารวิจัยและพัฒนาระบบสุขภาพ. 2564;14(3):71–82.
ประภาส บารมี, จักรพันธ์ บุญอ่อง. การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวานด้วย 4 ป. กรณีศึกษากลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวานตำบลบ้านกลาง อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก. วารสารการแพทย์และสาธารณสุขมหิดล. 2565;15(2):45–57.
สุทธิดา คำมะภา, กิตติภูมิ ภิญโย. สถานการณ์การดูแลผู้ป่วยเบาหวานที่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดไม่ได้ ตำบลนาดี อำเภอยางตลาด จังหวัดกาพสินธุ์. วารสารวิจัยและพัฒนาระบบสุขภาพ. 2565;15(2):1-15.
โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านข่าใหญ่. รายงานผลการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์. ร้อยเอ็ด: โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านข่าใหญ่ อำเภอจตุรพักตรพิมาน จังหวัดร้อยเอ็ด; 2566.
ณัฐวิโรจน์ ชูดำ, นัยนา หนูนิล, รัชฎาภรณ์ จันทสุวรรณ์. บทบาทพยาบาลงานรักษาโรคเบื้องต้นในหน่วยบริการปฐมภูมิ เขตสุขภาพที่ 11. วารสารเครือข่ายวิทยาลัยพยาบาลและการสาธารณสุขภาคใต้. 2565;9(1):42-54.
Cohen J. Quantitative methods in psychology. New York: New York University; 1992.
Flight L, Julious A. Practical guide to sample size calculations: superiority trials. Pharmaceutical Statistics. 2016;15(1):79-5.
กชวรรณ ทะวิชัย. ผลของโปรแกรมการป้องกันโรคเบาหวานโดยประยุกต์ใช้ทฤษฎีระบบของนิวแมนต่อพฤติกรรมสุขภาพและระดับน้ำตาลในเลือดของกลุ่มเสี่ยงโรคเบาทวาน [วิทยานิพนธ์]. พิษณุโลก: มหาวิทยาลัยนเรศวร; 2566.
Neuman B, Fawcett J. The Neuman systems model (4th ed.). Upper Saddle River, NJ: Prentice Hall; 2002.
พวงผกา สุริวรรณ. รูปแบบการเสริมสร้างพฤติกรรมสุขภาพในกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูง ด้วยกระบวนการจัดการความรู้ จังหวัดลำพูน. วารสารวิชาการกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ. 2564;17(2):41-50.
ทิพย์สุมน จิตตวงศพันธุ์, ปินหทัย ศุภเมธาพร, รุ้งนภา ชัยรัตน์. ผลของโปรแกรมส่งเสริมการรับรู้สมรรถนะแห่งตนต่อพฤติกรรมการปองกันโรคและดัชนีมวลกายในกลุ่มเสี่ยงเบาหวานชนิดที่ 2. Nursing Journal. 2564;48(4):243-56.
เพ็ญวดี โรจน์เรืองนนท์, วิทวัส กมุทศรี, พรธิภา ไกรเทพ, ณฐมน สืบซุย, ณภัทร เตียววิไล, ธนพงษ์ เทศนิยม. ผลของโปรแกรมการส่งเสริมความสามารถของตนเองเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอาหารในกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวานแขวงคลองต้นไทร เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร. วารสารกรมการแพทย์. 2564;46(3):81-88.
จันทร์จิรา ไกรสังข์, ภารดี เต็มเจริญ, ลำอาง สืบสมาน. ประสิทธิผลของคู่มือการจัดกลุ่มอาหารตามสัญญาณใฬจราจรต่อควานรู้พฤติกรรมการบริโภคอาหารและระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวาน โรงพยาบาลหนองบัว จังหวัดนครสรรค์. วารสารโรคและภัยสุขภาพ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 3 จังหวัดนครสวรรค์. 2564;15(2):5-20.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด
บทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสารวิจัย และพัฒนานวัตกรรมทางสุขภาพ สํานักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด ถือเป็น ผลงานวิชาการ งานวิจัย วิเคราะห์ ตลอดจนเป็นความเห็นส่วนตัวของผู้ประพันธ์ กองบรรณาธิการไม่จําเป็นต้องเห็น ด้วยเสมอไป และผู้ประพันธ์จะต้องรับผิดชอบต่อบทความของตนเอง