ผลการปฏิบัติสมาธิบำบัดแบบ SKT ท่า 1 และท่า 3 ต่อระดับน้ำตาลสะสมในเลือด (HbA1C) และระดับน้ำตาลในเลือด (FBS) ของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านข่าใหญ่ จังหวัดร้อยเอ็ด
คำสำคัญ:
สมาธิบำบัด, ระดับน้ำตาลสะสมในเลือด (HbA1C), ระดับน้ำตาลในเลือด (FBS), ผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2บทคัดย่อ
วัตถุประสงค์ : เพื่อเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยน้ำตาลสะสมในเลือด (HbA1C) และ Fasting Blood Sugar (FBS) ของผู้ป่วยเบาหวานที่ได้รับการฝึกสมาธิบำบัดแบบ SKT ท่าที่ 1 และ 3 และไม่ได้รับการทำสมาธิบำบัด
รูปแบบการวิจัย : Quasi-experimental Research) แบบ Two group posttest design
วัสดุและวิธีการวิจัย : กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ป่วยเบาหวาน 84 คน แบ่งเป็นกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม กลุ่มละ 42 คน ระยะเวลาการดำเนินตั้งแต่เดือนสิงหาคมถึงเดือนธันวาคม 2566 เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม และแบบบันทึก วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน Independent t-test และกำหนดนัยสำคัญทางสถิติที่ 95% Confidences interval
ผลการวิจัย : ผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 กลุ่มทดลองมีค่าเฉลี่ยน้ำตาลสะสมในเลือด (HbA1C) น้อยกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<.001) โดยหลังการทดลองมีค่าเฉลี่ยน้ำตาลสะสมในเลือด (HbA1C) น้อยกว่ากลุ่มควบคุม 1.70 mg% (95%CI: 1.34, 2.06) และผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 กลุ่มทดลองมีค่าเฉลี่ยน้ำตาล Fasting Blood Sugar (FBS) น้อยกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<.001) โดยหลังการทดลองมีค่าเฉลี่ยน้ำตาล Fasting Blood Sugar (FBS) น้อยกว่ากลุ่มควบคุม 20.85 mg/dl (95%CI: 10.25, 31.42)
สรุปและข้อเสนอแนะ : ผลการวิจัยครั้งนี้ส่งผลให้ผลลัพธ์ทางคลินิกดีขึ้นดังนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรนำการปฏิบัติสมาธิบำบัดนี้ไปใช้
เอกสารอ้างอิง
สมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทย. แนวทางการพัฒนาเพื่อมาตรฐานคลินิกเบาหวาน. กรุงเทพฯ: บริษัท ศรีเมืองการพิมพ์ จำกัด; 2562.
โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านข่าใหญ่. รายงานผลการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์. ร้อยเอ็ด: โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านข่าใหญ่ อำเภอจตุรพักตรพิมาน จังหวัดร้อยเอ็ด; 2562.
สมฤดี ชื่นกิติญานนท์, วราภรณ์ คำรศ. ประสิทธิผลของโปรแกรมสมาธิบำบัด (SKT) ต่อการน้ำตาลในเลือดและลดระดับความดันโลหิตในพระสงฆ์ในเขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยสยาม; 2562.
เรียมรัตน์ รักเสมอวงศ์, พิสมัย หวังผล. ผลการปฏิบัติสมาธิบำบัดแบบ SKT ท่า 1 และท่า 3 ต่อระดับ HbA1C ในผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 โรงพยาบาลทรายมูล จังหวัดยโสธร. วารสารสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 10. 2562;17(2):28-36.
สุภาณี โสทัน. ผลของสมาธิบำบัด SKT ในการลดระดับความดันโลหิตของผู้ที่มารับบริการโรงพยาบาลฟากท่า จังหวัดอุตรดิตถ์. วารสารสุขภาพและสิ่งแวดล้อมศึกษา. 2566;8(1):488-78.
สมพร กันทรดุษฎี- เตรียมชัยศรี. ถอดบทเรียนประสบการณ์การใช้สมาธิบำบัด SKT ของบุคลากรสาธารณสุข เล่มที่ 2. ขอนแก่น; โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยขอนแก่น; 2563.
ณัฏฐ์ธัญศา ยิ่งยงเมธี, ดารารัตน์ อยู่เจริญ, จุฑารัตน์ สว่างชัย, ศิริมา วงศ์แหลมทอง, พเยาว์ นิมิตพรชัย. ประสิทธิผลของการใช้สมาธิบำบัดแบบ SKT ต่อระดับน้ำตาลในผู้ป่วยเบาหวานที่ควบคุมระดับน้ำตาลไม่ได้. วารสารแพทย์เขต 4-5. 2563;39(2):228-38.
ธีรพล มโนศักดิ์เสรี. ผลของสมาธิบำบัดแบบ SKT ต่อการลดระดับน้ำตาลในเลือดของกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวาน. วารสารระบบบริการปฐมภูมิและเวชศาสตร์ครอบครัว. 2563;4(1):22-34.
ศรีบุษย์ ศรีไชยจรูญพง. ประสิทธิผลของการปฏิบัติสมาธิ SKT3 ต่อระดับฮีโมโกลบินเอวันชี้ในกลุ่มผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 [วิทยานิพนธ์]. มหาสารคาม: มหาวิทยาลัยมหาสารคาม; 2561.
สุธาสินี ไถวศิลป์. สมาธิบำบัดแบบ SKT กับการลดระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป้องผู้ป่วยเบาหวาน. กองการแพทย์ทางเลือก. กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข; 2562.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด
บทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสารวิจัย และพัฒนานวัตกรรมทางสุขภาพ สํานักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด ถือเป็น ผลงานวิชาการ งานวิจัย วิเคราะห์ ตลอดจนเป็นความเห็นส่วนตัวของผู้ประพันธ์ กองบรรณาธิการไม่จําเป็นต้องเห็น ด้วยเสมอไป และผู้ประพันธ์จะต้องรับผิดชอบต่อบทความของตนเอง