ผลของโปรแกรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมต่อความตระหนัก ความสมดุลในการตัดสินใจการรับรู้ความสามารถตนเอง และพฤติกรรมการรับประทานอาหารเพื่อป้องกันโรคเบาหวาน ของกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวานชนิดที่ 2
คำสำคัญ:
ความตระหนัก, ความสมดุลในการตัดสินใจ, การรับรู้ความสามารถตนเอง, พฤติกรรมการรับประทานอาหาร, กลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวานชนิดที่ 2บทคัดย่อ
วัตถุประสงค์:เพื่อเปรียบเทียบความตระหนัก ความสมดุลในการตัดสินใจ การรับรู้ความสามารถตนเองและพฤติกรรมการรับประทานอาหารเพื่อป้องกันโรคเบาหวานของกลุ่มเสี่ยงเบาหวานชนิดที่ 2
รูปแบบการวิจัย:การวิจัยกึ่งทดลอง(Quasi - Experimental Research ; One group pretest posttest design with Repeated Measures)
วัสดุและวิธีการวิจัย: กลุ่มตัวอย่างเป็นกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวานชนิดที่ 2หน่วยบริการปฐมภูมิ (PCU)โรงพยาบาลเกษตรวิสัยจำนวน 120 คนที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์คัดเข้า(Inclusion criteria)และการสุ่มอย่างง่าย (Simple random sampling) ระยะเวลาดำเนินการ 10 สัปดาห์ เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม และวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน Repeated Measure One Group with Repeated Measureเปรียบเทียบรายคู่ด้วย Bonferroniและ Paired t-test กำหนดนัยสำคัญทางสถิติที่ 95% confidence interval
ผลการวิจัย: กลุ่มเสี่ยงมีคะแนนเฉลี่ยความตระหนัก ความสมดุลในการตัดสินใจการรับรู้ความสามารถตนเอง และการเปรียบเทียบพฤติกรรมการรับประทานอาหาร 3 ช่วงเวลาแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<.001)เมื่อเปรียบเทียบรายคู่ (Pairwise comparisons) ด้วยวิธีของ Bonferroniพบว่า ค่าเฉลี่ยของคะแนนความตระหนัก ความสมดุลในการตัดสินใจ การรับรู้ความสามารถตนเอง และการเปรียบเทียบพฤติกรรมการรับประทานอาหารในสัปดาห์ที่ 10 มากกว่า สัปดาห์ที่ 6 และก่อนทดลองและกลุ่มเสี่ยงมีค่าเฉลี่ยระดับน้ำตาลในเลือด (FBS) ต่ำกว่าก่อนดำเนินการอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<.001) โดยมีค่าเฉลี่ยระดับน้ำตาลในเลือด (FBS) ต่ำกว่าเท่ากับ 14.43 mg/dl (95%CI; 14.25, 14.62)
สรุปและข้อเสนอแนะ: จากผลการศึกษาครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่าการปฏิบัติตามโปรแกรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมส่งผลให้กลุ่มเสี่ยงสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมได้
References
Aekplakorn W, Stolk RP, Neal B, Suriyawongpaisal P, Chongsuvivatwong V, Cheepudomwit S, et al. The prevalence and management of diabetes in Thai adults: the international collaborative study of cardiovascular disease in Asia. Diabetes Care. 2003;26(10):2758-63. doi: 10.2337/diacare.26.10.2758. PMID: 14514576.
Tabak AG, Herder C, Rathmann W, Brunner EJ, Kivimaki M. Prediabetes: a high-risk state for developingdiabetes. Lancet 2012;379(9833):2279-90.doi: 10.1016/S0140-6736(12)60283-9. PMID: 22683128.
ปานทิพย์ รัตนศิลป์กัลชาญ, กิตติพัฒน์โสภิตธรรมคุณ.อันตรายจากโรคเบาหวาน. วารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ.2559;2(2):80-8.
อุไรวรรณ สิงห์ยะเมือง.ผลของโปรแกรมการจัดการตนเองต่อผลลัพธ์ทางสุขภาพของผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ในโรงพยาบาลเกษตรวิสัย จังหวัดร้อยเอ็ด. วารสารวิจัยและพัฒนานวัตกรรมทางสุขภาพ.2563;3(1):175-189.
โรงพยาบาลเกษตรวิสัย. กลุ่มงานหลักประกันสุขภาพยุทธศาสตร์และสารสนเทศทางการแพทย์. ผลการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์สุขภาพปี พ.ศ. 2563. ร้อยเอ็ด: โรงพยาบาล; 2563.
วัฒนา สว่างศรีและศิราณีย์ อินธรหนองไผ่. การพัฒนารูปแบบการส่งเสริมสุขภาพเพื่อป้องกันการเกิดโรคเบาหวานรายใหม่ในชุมชน. วารสารพยาบาลทหารบก. 2558;16(1):116-122.
Prochaska JO, Velicer WF. The transtheoretical model of health behavior change. Am J Health Promot 1997;12(1):38-48. doi: 10.4278/0890-1171-12.1.38. PMID: 10170434.
Bansal N. Prediabetes diagnosis and treatment: A review. World J Diabetes. 2015;6(2):296-303. doi: 10.4239/wjd.v6.i2.296. PMID: 25789110.
เกษฎาภรณ์นาขะมิน. กลวิธีการป้องกันโรคเบาหวานโดยการมีส่วนร่วมของชุมชน. (วิทยานิพนธ์).ขอนแก่น: มหาวิทยาลัยขอนแก่น; 2554.
ณิชาพัฒน์เรืองสิริวัฒก์, ปาหนัน พิชยภิญโญและสุนีย์ ละกำปั่น. ประสิทธิผลของโปรแกรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหาร โดยประยุกต์ทฤษฎีขั้นตอนการเปลี่ยนแปลงในประชากรกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวาน ชนิดที่ 2.วารสารพยาบาลสาธารณสุข.2556; 27(1):74-87.
อรุณีผุยปุ้ย และวันเพ็ญ ปัณราช. การพัฒนาแนวทางการดูแลกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวานชนิดที่ 2 โดยการมีส่วนร่วมของชุมชน กรณีศึกษาชุมชนแห่งหนึ่ง จังหวัดพิจิตร. วารสารสมาคมพยาบาลฯ สาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ.2556; 31(4): 80-88.
กัลยา ตาคำ และอำพินขอนพิกุล. ผลการออกกำลังกาย ด้วยอุปกรณ์ที่ประดิษฐ์จากยางยืดเพื่อลดระดับน้ำตาลในประชากรกลุ่มเสี่ยง. วารสารโรงพยาบาลแพร่.2554; 19(2):70-78.
วิไล แสนยาเจริญกุล, กีรดา ไกรนุวัตร, ปิยะธิดา นาคะเกษียร. ผลของโปรแกรมปรับเปลี่ยนการบริโภคอาหารต่อพฤติกรรมการบริโภคอาหารในกลุ่มเสี่ยงสูงต่อโรคเบาหวาน.วารสารพยาบาลศาสตร์.2562;37(1):60-72.
บุญใจ ศรีสถิตย์นรากูร. ระเบียบวิธีการวิจัยทางพยาบาลศาสตร์.พิมพ์ครั้งที่ 4. กรุงเทพฯ: ยูแอนด์ไอ อินเตอร์มีเดีย; 2550.
กาญจณาพรหมทอง. ผลของโปรแกรมเสริมพลังชุมชนต่อพฤติกรรมการรับประทานอาหารและระดับน้ำตาลในเลือดของกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวาน [วิทยานิพนธ์]. สงขลา: มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์; 2562.
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2020 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด
บทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสารวิจัย และพัฒนานวัตกรรมทางสุขภาพ สํานักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด ถือเป็น ผลงานวิชาการ งานวิจัย วิเคราะห์ ตลอดจนเป็นความเห็นส่วนตัวของผู้ประพันธ์ กองบรรณาธิการไม่จําเป็นต้องเห็น ด้วยเสมอไป และผู้ประพันธ์จะต้องรับผิดชอบต่อบทความของตนเอง