การเปรียบเทียบผลการดำเนินงานระหว่างศูนย์รับแจ้งเหตุและสั่งการทางการแพทย์โดยโรงพยาบาลหาดใหญ่และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
คำสำคัญ:
ระยะเวลาตอบสนองต่อเหตุ, ศูนย์รับแจ้งเหตุและสั่งการทางการแพทย์, องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นบทคัดย่อ
ความสำคัญและวัตถุประสงค์
สืบเนื่องจากการบริหารจัดการและดำเนินงานของศูนย์รับแจ้งเหตุและสั่งการทางการแพทย์ของจังหวัดสงขลาได้ย้ายไปดำเนินงาน ณ องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2559 ผู้วิจัยจึงต้องการศึกษาผลการดำเนินงานที่สำคัญของศูนย์รับแจ้งเหตุและสั่งการทางการแพทย์ของจังหวัดสงขลาโดยเปรียบเทียบกับการดำเนินงานเดิม ณ โรงพยาบาลหาดใหญ่
วิธีการศึกษา
การศึกษานี้ เป็นการศึกษาเปรียบเทียบย้อนหลังเก็บข้อมูลในช่วงเดือนธันวาคม พ.ศ. 2558 และพ.ศ. 2559 โดยเลือกผู้ป่วยทุกกลุ่มวัยที่เรียกใช้บริการระบบการแพทย์ฉุกเฉินในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เปรียบเทียบระยะเวลาตอบสนองต่อเหตุของชุดปฏิบัติการฉุกเฉินที่ได้รับการสั่งออกเหตุของศูนย์รับแจ้งเหตุและสั่งการทางการแพทย์, อัตราส่วนการคัดแยกผู้ป่วยที่เหมาะสม และอัตราส่วนการสั่งออกเหตุที่เหมาะสม
ผลการศึกษา
ในช่วงเวลาดังกล่าว พบผู้แจ้งเหตุเจ็บป่วยฉุกเฉินที่เข้าเกณฑ์ทั้งสิ้น 2,263 ราย ไม่พบความแตกต่างในแง่อัตราส่วนระยะเวลาตอบสนองต่อเหตุ ≤ 8 นาทีของชุดปฏิบัติการฉุกเฉิน แต่พบว่าอัตราส่วนการคัดแยกผู้ป่วยที่เหมาะสมและอัตราส่วนการจ่ายงานชุดปฏิบัติการฉุกเฉินที่เหมาะสมของโรงพยาบาลหาดใหญ่มากกว่าองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลาอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (ร้อยละ 86.50 VS ร้อยละ 79.07 p-value <0.001), (ร้อยละ 61.17 VS ร้อยละ 56.65, p-value = 0.031) ตามลำดับ
สรุป
การย้ายศูนย์รับแจ้งเหตุและสั่งการทางการแพทย์ไปดำเนินงานที่อบจ.สงขลาไม่มีผลต่อระยะเวลาตอบสนองต่อเหตุ แต่มีผลในแง่ลบกับอัตราส่วนการคัดแยกผู้ป่วยและอัตราส่วนการจ่ายงานชุดปฏิบัติการฉุกเฉินที่เหมาะสม
เอกสารอ้างอิง
รายงานสถิติการแพทย์ฉุกเฉิน.จำนวนปฏิบัติการรายเดือน จังหวัดสงขลา [เข้าถึงเมื่อ 26 กันยายน 2560]. เข้าถึงได้จาก: https://ws.niems.go.th/ITEMS_DWH/
ธีระ ศิริสมุด, พรทิพย์ วชิรดิลก, ชนนิกานต์ สิงห์พยัค, บรรณาธิการ. Annual report 2015. National institute for emergency medicine 2015; 2, 30, 45.
National institute for emergency medicine.เคลื่อนวงล้อคุณภาพการแพทย์ฉุกเฉินไทย.เรียบเรียงจาก การประชุมวิชาการการแพทย์ฉุกเฉินระดับชาติ ครั้งที่ 10 ประจำปี 2559 ณ อาคารอิมแพคฟอรั่ม เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี, 30 มีนาคม - 1 เมษายน 2559; 57.
องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา [ เข้าถึงเมื่อ 30 พฤศจิกายน 2560 ]. เข้าถึงได้จาก : http://songkhlapao.go.th/gallery/detail/1481.
ราชกิจจานุเบกษา, พระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542; 116:48.
ราชกิจจานุเบกษา, พระราชบัญญัติการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ พ.ศ. 2551; 13.
สิริมา ใจปล้ำ, บรรณาธิการ. คู่มือการจัดการและปฏิบัติงานในระบบรับแจ้งเหตุผู้ป่วยฉุกเฉิน ในระบบการแพทย์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2551; 15.
Ziad Nehme, Emily Andrew, Karen Smith.Factors Influencing the Timeliness of Emergency Medical Service Response to Time Critical Emergencies. Prehospital Emergency Care 2016; 20:783-791.
Cunningham C, Howard D, Walsh J. Coakley D, The effects of age on accident severity and
outcome in Irish road traffic accident patient, Irish medical journal 2001 Jun; 94(6): 169-71.
Haung, C.H., Chen, W.J., Ma, M.H-M., Lai, C.L., et al. Ambulance utilization in
metropolitan and rural areas in Taiwan. Journal of Formos Med Assoc. 2001; 100(9): 581–6.
ธีระ ศิริสมุด, พรทิพย์ วชิรดิลก, รายงานประจำปี 2559 สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ; 42, 59.
ภุมรินทร์ แซ่ลิ่ม, การประเมินคุณภาพของการคัดกรองผู้ป่วยฉุกเฉินด้วยระบบ Emergency Severity Index, วารสารวิชาการเขต 12 พ.ศ. 2556.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิชาการ การแพทย์ภัยพิบัติและฉุกเฉินเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ และคณาจารย์ท่านอื่นๆในราชวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว