การพัฒนาสายผูกรัดข้อมือทารกแรกเกิดของหอผู้ป่วยพิเศษ พระปทุมวรราชสุริยวงศ์ 4 โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์
คำสำคัญ:
สายผูกรัดข้อมือ, ทารกแรกเกิด , ผ้าขูดขนบทคัดย่อ
การระบุตัวตนผู้ป่วยช่วยให้สามารถตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์ของผู้ป่วยได้อย่างถูกต้อง ป้องกันไม่ให้เกิดความผิดพลาดในการให้ยา การวินิจฉัย หรือการทำหัตถการต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทารกแรกเกิดที่ไม่สามารถสื่อสารได้ การพัฒนาสายผูกรัดข้อมือทารกแรกเกิดครั้งนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนานวัตกรรมสายผูกรัดข้อมือทารกแรกเกิด และ2) เพื่อเปรียบเทียบประสิทธิภาพของสายผูกรัดข้อมือทารกแรกเกิดแบบเดิมและนวัตกรรมสายผูกรัดข้อมือทารกแรกเกิด โดยดำเนินการ 5 ขั้นตอน คือ 1) การทำความเข้าใจปัญหา (Empathize) 2) ตีความปัญหา (Define) 3) การระดมจินตนาการ (Ideate) 4) สร้างต้นแบบ (Prototype) และ5) การทดสอบต้นแบบ (Test) กลุ่มตัวอย่างคือพยาบาลวิชาชีพโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ที่ให้การพยาบาลทารกแรกเกิด แบ่งเป็นกลุ่มควบคุมและกลุ่มทดลอง กลุ่มละ 30 คน และผู้ปกครองของทารกแรกเกิด แบ่งเป็นกลุ่มควบคุมและกลุ่มทดลอง กลุ่มละ 30 คน เครื่องมือประกอบด้วย 1) นวัตกรรมสายผูกรัดข้อมือทารกแรกเกิด ตรวจสอบโดยผู้ทรงคุณวุฒิ 3 คน และ 2) แบบประเมินประสิทธิภาพสายผูกรัดข้อมือทารก ตรวจสอบคุณภาพเครื่องมือโดยผู้ทรงคุณวุฒิ 3 คน ได้ค่าความตรง เท่ากับ 1 และหาความเที่ยง ได้ค่าครอนบารคแอลฟ่าเท่ากับ .89 วิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพด้วยการวิเคราะห์เนื้อหา ข้อมูลเชิงปริมาณวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ Independent t-test
ผลการวิจัย: เมื่อนำนวัตกรรมสายผูกรัดข้อมือทารกแรกเกิดที่ผลิตจากผ้าขูดขนไปทดลองใช้พบว่า มีประสิทธิภาพด้านความปลอดภัยแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (t (43.76) =-9.17, p < .01; t (45.82) = -30.98, p < .01) ตามลำดับ โดยผู้ปกครองและพยาบาลกลุ่มทดลองมีคะแนนเฉลี่ยสูงกว่า กลุ่มควบคุม (Mean = 4.64, 4.78 S.D. = 0.50, 0.20 ตามลำดับ) สำหรับประสิทธิภาพการใช้สายผูกรัดข้อมือทารกแรกเกิดด้านการระบุตัวตนมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (t (39.90) =-5.28, p < .01; t (51.02) = -21.83, p < .01) ตามลำดับ โดยผู้ปกครองและพยาบาลกลุ่มทดลองมีคะแนนเฉลี่ยสูงกว่ากลุ่มควบคุม (Mean = 4.63, 4.90, S.D. = 0.61, 0.31 ตามลำดับ) ควรส่งเสริมให้พยาบาลได้มีการนำแนวคิดเชิงออกแบบไปใช้ในการพัฒนานวัตกรรมสำหรับผู้ป่วยเนื่องจากแต่ละขั้นตอนมีการใช้ความคิดที่เป็นระบบ เพิ่มการคิดวิเคราะห์ มุ่งเน้นการแก้ปัญหาให้ผู้รับบริการอย่างตรงจุด ทำให้เกิดการพัฒนางานอย่างต่อเนื่องต่อไป
เอกสารอ้างอิง
World Health Organization. Patient identification [Internet]. 2007 [cited 2025 Jun 5]. Available from: https://cdn.who.int/media/docs/default-source/patient-safety/patient-safety-solutions/ps-solution2-patient-identification.pdf?sfvrsn=ff81d7f9_6
The Joint Commission. National Patient Safety Goals Effective January 2024. Oakbrook Terrace (IL): The Joint Commission; 2024.
หอผู้ป่วยพิเศษพระปทุมวรราชสุริยวงศ์ 4 โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์. แนวปฏิบัติการระบุตัวตนทารกแรกเกิดก่อนส่งออกนอกแผนกเพื่อทำหัตถการ. อุบลราชธานี: โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์; 2566.
สถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล (องค์การมหาชน). มาตรฐานโรงพยาบาลและบริการสุขภาพ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2562) หมวดที่ 6: การดูแลรักษาผู้ป่วย. กรุงเทพมหานคร: สถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล (องค์การมหาชน); 2562.
หอผู้ป่วยมารดาและทารกแรกเกิด โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์. รายงานข้อมูลความเสี่ยงด้านการระบุตัวตนทารกแรกเกิด กรณีส่งออกนอกแผนกเพื่อทำหัตถการโดยไม่ระบุตัวตน. อุบลราชธานี: โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์; 2566.
Wallace SC. Newborns pose unique identification challenges. Pa Patient Saf Advis. 2016;13:42-9.
ภัทริษา ชุมพล, พิมพ์พรรณ ศิลปะสุวรรณ, ดุสิต สุจิรารัตน์, พรชัย สิทธิศรัณย์กุล. วัฒนธรรมความปลอดภัยในองค์กรกับการปฏิบัติงานพยาบาลตามมาตรฐานความปลอดภัยตามการรับรู้ของพยาบาลวิชาชีพที่มีต่อการเกิดและการรายงานอุบัติการณ์เหตุการณ์ไม่พึงประสงค์และเหตุการณ์เกือบพลาด. วารสารกรมการแพทย์ 2561;43:142-7.
Ku B, Lupton E. Health design thinking: creating products and services for better health. Cambridge (MA): MIT Press; 2022.
Cadi Scientific. Bangkok Hospital uses RFID to ensure the right baby is given to the right mother [Internet]. 2012 [cited 2025 Oct 24]. Available from: https://cadi.com.sg/2012/05/16/bangkok-hospital-uses-rfid-to-ensure-the-right-baby-is-given-to-the-right-mother/
กิตติภรณ์ ดำแก้ว, กาญจนา คงหอม. การพัฒนาระบบการระบุตัวคู่ Duo band แม่-ลูกเพื่อการมอบลูกถูกแม่ในห้องคลอด [อินเทอร์เน็ต]. 2566 [เข้าถึงเมื่อ 30 มี.ค. 2568]. เข้าถึงได้จาก: https://www.rama.mahidol.ac.th/km/sites/default/files/public/qc/pdf/CQI163%20การพัฒนาระบบการระบุคู่%20Duo%20band%20แม่-ลูก%20เพื่อการมอบลูกถูกแม่ในห้องคลอด.pdf
จิรปรียา ขันใจ, ชุติมา พรวิลาศสิริ, ทิพยรัตน์ แสนค่า, วิการรัตน์ อุ่นอารมย์. โครงการ Proactive risk การป้องกันการระบุตัวและส่งมอบการกุมารโดยมารดาผู้มีส่วนร่วม [อินเตอร์เน็ต]. 2567 [เข้าถึงเมื่อ 27 เม.ย. 2568]. เข้าถึงได้จาก: https://km.med.cmu.ac.th/award/โครงการ-proactive-risk-การป้องกันการ/
วิทยาลัยพยาบาลกองทัพบก.แนวคิดในการป้องกันความเสี่ยงและการใช้นวัตกรรม Baby Tag ป้องกันการขโมยเด็กทารกในโรงพยาบาล [อินเตอร์เน็ต]. 2566 [เข้าถึงเมื่อ5 มิ.ย. 2568]. เข้าถึงได้จาก: https://anyflip.com/gexcj/mamd/basic
ชนัญชิดา ณะสม, สาคร ชลสาคร, ศุภนิชา ศรีวรเดชไพศาล. ศึกษาลักษณะและสมบัติทางกายภาพของผ้าที่เหมาะสมสำหรับการออกแบบหมวกทารก. วารสารคหเศรษฐศาสตร์ 2566;66:90-107.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สรรพสิทธิประสงค์

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิทยาศาสตร์สุขภาพ วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สรรพสิทธิประสงค์ ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สรรพสิทธิประสงค์ และคณาจารย์ท่านอื่นๆ ในวิทยาลัยพยาบาลฯ ความรับผิดชอบเกี่ยวกับบทความแต่ละเรื่องผู้เขียนจะรับผิดชอบของตนเอง
