Home ThaiJo
จริยธรรมการตีพิมพ์
มาตรฐานทางจริยธรรมในการตีพิมพ์บทความของวารสารวิทยาศาสตร์สุขภาพ วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สรรพสิทธิประสงค์
วารสารวิทยาศาสตร์สุขภาพ วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สรรพสิทธิประสงค์ ถือเป็นสื่อกลางในการติดต่อสื่อสารผลงานทางวิชาการที่นำเสนอเป็นข้อค้นพบใหม่ ๆ ระหว่างนักวิชาการ นักวิจัย ผู้ทรงคุณวุฒิทางวิชาการให้แก่สังคมภายนอก ซึ่งตีพิมพ์เผยแพร่ผลงานทางวิชาการในรูปแบบของบทความวิชาการ บทความวิจัย การทบทวนวรรณกรรมและบทความกรณีศึกษา กองบรรณาธิการวารสารฯ ตระหนักถึงจริยธรรมการตีพิมพ์ (Publication Ethics) ของผู้เขียนบทความ (Author) ผู้ประเมินบทความ (Reviewer) และบรรณาธิการ (Editor) และเพื่อให้การตีพิมพ์ถูกต้องตามหลักจริยธรรมและมีคุณภาพมาตรฐานรวมถึงมีความโปร่งใส จึงกำหนดจริยธรรมการตีพิมพ์ (Publication Ethics) ของวารสารตามบทบาทผู้ที่เกี่ยวข้องไว้ดังนี้
บทบาทและหน้าที่ของผู้เขียนบทความ (Duties of Authors)
- ผู้นิพนธ์ผลงานต้องส่งบทความใหม่ บทความจะต้องไม่เคยตีพิมพ์ในวารสารอื่นมาก่อน หรือไม่อยู่ในระหว่างส่งไปตีพิมพ์ในวารสารฉบับอื่น
- ผู้นิพนธ์ผลงานที่ส่งบทความเข้าระบบ Online Submissions ของวารสารแล้ว ต้องไม่ส่งบทความไปยังวารสารอื่นอีก
- ผู้เขียนบทความต้องให้ข้อมูลที่ถูกต้อง ไม่บิดเบือนข้อมูล หรือให้ข้อมูลที่เป็นเท็จ
- ผู้นิพนธ์ผลงานที่นำผลงานของผู้อื่นมาใช้ในบทความ ต้องอ้างอิงผลงานของผู้อื่น โดยจัดทำรายการอ้างอิงให้ถูกต้องครบถ้วนรายการอ้างอิง (Reference) ท้ายบทความ
- ข้อความที่ปรากฏในแต่ละบทความแต่ละเรื่องที่ตีพิมพ์ในวารสารวิทยาศาสตร์สุขภาพ วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สรรพสิทธิประสงค์ เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สรรพสิทธิประสงค์ และคณาจารย์ท่านอื่นๆ ในวิทยาลัยพยาบาลฯ ความรับผิดชอบเกี่ยวกับบทความแต่ละเรื่องผู้เขียนจะรับผิดชอบของตนเอง
- ผู้นิพนธ์ผลงานที่คัดลอกผลงานผู้อื่น (Plagiarism) ละเมิดลิขสิทธิ์ผู้อื่น ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรง
- ผู้นิพนธ์ผลงานต้องเขียนบทความให้รูปแบบถูกต้องตามที่วารสารกำหนดไว้ใน “คำแนะนำในการเตรียมต้นฉบับ”
- ผู้นิพนธ์ผลงานที่มีชื่อปรากฎในบทความทุกคน ต้องเป็นผู้ที่มีส่วนในการดำเนินการวิจัยจริง
- ผู้นิพนธ์ผลงานที่ได้รับทุนสนับสนุนต้องระบุแหล่งทุนที่ให้การสนับสนุนการทำวิจัยนี้ไว้ในส่วนกิตติกรรมประกาศ หรือ Acknowledgements
- ผู้เขียนบทความต้องระบุผลประโยชน์ทับซ้อน (ถ้ามี)
บทบาทและหน้าที่ของบรรณาธิการ (Duties of Editors)
- พัฒนาปรับปรุงคุณภาพของวารสารอย่างสม่ำเสมอ
- รับรองคุณภาพของบทความที่ได้รับการตีพิมพ์ลงในวารสาร
- สนับสนุนเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นคงไว้ซึ่งความถูกต้องของผลงานทางวิชาการ
- บรรณาธิการต้องปกป้องมาตรฐานของทรัพย์สินทางปัญญาจากความต้องการทางธุรกิจ
- บรรณาธิการต้องเต็มใจที่จะแก้ไขข้อผิดพลาดการตีพิมพ์ การทำให้เกิดความกระจ่าง การถอด-ถอนบทความ และการขออภัยหากมีความจำเป็น
- บรรณาธิการต้องให้ผู้เขียนแจ้งให้ผู้อ่านทราบเกี่ยวกับผู้ให้ทุนสนับสนุนงานวิจัยหรือบทบาทของผู้ให้ทุนวิจัยในการทำวิจัยนั้นๆ
- หากบรรณาธิการรับรู้ความไม่ถูกต้องเกิดขึ้นกับบทความที่ตีพิมพ์ไปแล้ว หรือมีประโยคที่นำไปสู่ความเข้าใจผิด หรือมีรายงานที่บิดเบือนข้อเท็จจริง ต้องแก้ไขให้ถูกต้องและชัดเจนทันที
- หากปรากฏการประพฤติทุจริตมิชอบใด ๆ ภายหลังการดำเนินการตรวจสอบแล้ว บรรณาธิการต้องดำเนินการเพิกถอนบทความนั้นด้วยความชัดเจนที่จะสามารถพิสูจน์ได้ ทั้งนี้ การเพิกถอนนี้ต้องให้ผู้อ่านและระบบฐานข้อมูลอื่นๆ ทราบด้วย
- บรรณาธิการมีระบบในการจัดการผลประโยชน์ทับซ้อนหรือการขัดกันด้านผลประโยชน์ ของบรรณาธิการเอง รวมทั้งของเจ้าหน้าที่วารสาร ผู้เขียนบทความ ผู้ประเมินบทความ และ กองบรรณาธิการ
บทบาทและหน้าที่ของผู้ประเมิน (Duties of Reviewers)
- พิจารณาประเมินคุณภาพบทความโดยวิธีลับ และต้องไม่เปิดเผยข้อมูลใด ๆ ของบทความที่พิจารณาให้แก่บุคคลอื่น ๆ ทราบ
- ผู้ประเมินบทความสามารถปฏิเสธการประเมินบทความได้ หากพบผลประโยชน์ทับซ้อน หรือ
เนื้อหาบทความไม่ตรงกับสาขาวิชาที่ผู้ประเมินมีความเชี่ยวชาญ - ผู้ประเมินบทความควรให้ข้อเสนอแนะที่สอดคล้องและเป็นประโยชน์ทางวิชาการ แก่ผู้เขียนบทความ
- ผู้ประเมินบทความต้องแจ้งให้บรรณาธิการทราบ หากพบว่าของบทความมีความเหมือน หรือซ้ำซ้อนในผลงานวิชาการชิ้นอี่น ๆ
- ผู้ประเมินให้ข้อเสนอแนะแก่ผู้นิพนธ์ผลงาน หากมีงานวิจัยที่สำคัญและสอดคล้องกับบทความที่กำลังประเมินแต่ผู้นิพนธ์ยังไม่ได้อ้างถึง
- ผู้ประเมินบทความต้องส่งผลการประเมินตามระยะเวลาที่กำหนด หรือแจ้งบรรณาธิการกรณีที่ต้องการเลื่อนกำหนดการส่ง
นอกจากนี้วารสารวิทยาศาสตร์สุขภาพ วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สรรพสิทธิประสงค์ ได้กำหนดบทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบของบรรณาธิการไว้ดังนี้
หน้าที่และความรับผิดชอบของบรรณาธิการ
บทบาทหน้าที่ของบรรณาธิการ:
- ดำเนินการตรวจสอบและพิจารณากลั่นกรองเนื้อหาของบทความร่วมกับกองบรรณาธิการให้ตรงตามความประสงค์ของผู้อ่านและผู้นิพนธ์
- ยอมรับหรือปฏิเสธการตีพิมพ์บทความตามเกณฑ์ที่วารสารกำหนดโดยปราศจากอคติหรือความคิดเห็นส่วนตัว
- รักษามาตรฐานและปรับปรุงวารสารให้มีความทันสมัยอย่างสม่ำเสมอ
- รับรองคุณภาพของบทความที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร
- สนับสนุนเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นตามหลักวิชาการ
- คงไว้ซึ่งความถูกต้องของผลงานทางวิชาการ
- ปกป้องความเป็นอิสระของกองบรรณาธิการ และปฏิบัติตามขั้นตอนต่าง ๆ อย่างเคร่งครัด
- เต็มใจที่จะแก้ไขข้อผิดพลาดการตีพิมพ์ การทำให้เกิดความกระจ่าง การถอด-ถอนบทความ และการขออภัย หากจำเป็น
หน้าที่ของบรรณาธิการต่อผู้อ่าน
- ควรแจ้งให้ผู้อ่านทราบเกี่ยวกับผู้ให้ทุนสนับสนุนงานวิจัยและบทบาทของผู้ให้ทุนวิจัยในการทำวิจัยนั้นๆ
หน้าที่ของบรรณาธิการต่อผู้นิพนธ์
- ดำเนินการให้ผู้นิพนธ์มั่นใจในคุณภาพของบทความที่ตีพิมพ์ เพื่อรับรองคุณภาพของบทความที่ตีพิมพ์ในวารสาร
- ชี้แจงหรือให้ข้อมูลเกี่ยวกับกระบวนการตรวจสอบประเมินบทความ (Peer review)
- มีช่องทางให้ผู้นิพนธ์อุทธรณ์ได้หากผู้นิพนธ์มีความคิดเห็นแตกต่างจากการตัดสินใจของบรรณาธิการ
- จัดพิมพ์คำแนะนำในการส่งบทความเพื่อตีพิมพ์ในวารสารให้แก่ผู้นิพนธ์ในทุกประเด็น ในทุกเรื่องที่ผู้นิพนธ์ควรทราบ และปรับปรุงคำแนะนำให้มีความทันสมัยอยู่เสมอ
- บรรณาธิการใหม่ไม่กลับคำตัดสินใจมาตีพิมพ์บทความที่บรรณาธิการคนก่อนตอบปฏิเสธไปแล้ว ยกเว้นมีการพิสูจน์ถึงปัญหาร้ายแรงที่เกิดขึ้น
หน้าที่ของบรรณาธิการต่อผู้ประเมินบทความ
- บรรณาธิการวารสารมีหน้าที่พิจารณารูปแบบ และคุณภาพของบทความ ก่อนเริ่มกระบวนการประเมินบทความ และจัดพิมพ์คำแนะนำแก่ผู้ประเมินบทความในทุกประเด็นที่บรรณาธิการคาดหวัง
- บรรณาธิการจะไม่เปิดเผยข้อมูลใดๆ ของผู้ประเมินบทความในระหว่างการประเมินบทความแก่บุคคลอื่นที่ไม่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลของผู้นิพนธ์หรือผู้ประเมินบทความ ยกเว้นการประเมินบทความแบบเปิดที่ได้แจ้งให้ผู้นิพนธ์และผู้ประเมินรับทราบล่วงหน้าแล้ว
- บรรณาธิการจะต้องคัดเลือกผู้ประเมินบทความตามสาขาวิชาที่มีความเชี่ยวชาญ โดยพิจารณาเนื้อหาของบทความ และไม่ใช้ความคิดเห็นส่วนตัวที่ไม่มีข้อมูลทางวิชาการรองรับ
กระบวนการพิจารณาประเมินบทความ
- บทความที่ส่งเข้ามายังวารสาร จะได้รับการปกปิดเป็นความลับในระหว่างขั้นตอนการพิจารณาประเมิน
- ไม่แทรกแซงข้อมูลในระหว่างดำเนินกระบวนการพิจารณาบทความ
- ไม่แก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงเนื้อหาการประเมินบทความ และผลประเมินบทความจากผู้ทรงคุณวุฒิ
การร้องเรียน
- บรรณาธิการจะดำเนินการตามขั้นตอนมาตรฐานด้านจริยธรรมการตีพิมพ์ ที่กำหนดไว้ในวารสาร
- หากมีการร้องเรียน บรรณาธิการต้องตอบกลับคำร้องเรียนในทันที และผู้ร้องเรียนสามารถร้องเรียนได้อีกหากผลยังไม่เป็นที่น่าพอใจ
การสนับสนุนการอภิปราย
- มีการเปิดเผยคำวิจารณ์บทความที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร ยกเว้นในกรณีที่บรรณาธิการมีเหตุผลหรือความจำเป็นอื่นเพียงพอต่อการไม่เปิดเผยคำวิจารณ์นั้น
- เปิดโอกาสให้ผู้นิพนธ์บทความที่มีคนอื่นวิจารณ์ ให้สามารถชี้แจงตอบกลับได้ นอกจากนี้การศึกษาวิจัยที่มีผลขัดแย้งกับบทความวิจัยที่ลงตีพิมพ์ไปแล้ว ก็ควรได้รับโอกาสนี้เช่นกัน
- ไม่ตัด หรือลบข้อความเกี่ยวกับการศึกษาวิจัยที่มีการรายงานผลการวิจัยในด้านลบ
สนับสนุนความถูกต้องทางวิชาการ
- บทความวิจัยที่มีการตีพิมพ์ในวารสาร ต้องเป็นไปตามหลักจริยธรรมสากลที่เป็นที่ยอมรับ
- บทความที่ส่งมาเพื่อตีพิมพ์ ต้องได้รับการอนุมัติและเห็นชอบโดยคณะบุคคลที่มีอำนาจ (เช่น คณะกรรมการทางจริยธรรมการวิจัย คณะกรรมการพิจารณาบทความวิจัยของสถาบัน เป็นต้น)
การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
- ปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นความลับ (เช่น ความสัมพันธ์ระหว่างคนไข้และแพทย์ เป็นต้น) การเปิดเผยข้อมูลต้องมีหนังสือยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากคนไข้ หากชื่อ หรือ รูปของคนไข้ปรากฏในรายงานหรือบทความ
- บรรณาธิการสามารถตีพิมพ์บทความได้โดยไม่ต้องมีเอกสารยินยอมหากบทความนั้นมีความสำคัญต่อสุขภาพของคนทั่วไป (หรือมีความสำคัญในบางเรื่อง) หรือมีความยากลำบากในการได้มาซึ่งเอกสารยินยอม และบุคคลผู้นั้นไม่คัดค้านต่อการตีพิมพ์เผยแพร่
การติดตามความประพฤติมิชอบ
- ติดตาม ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีที่บทความถูกกล่าวหาว่าประพฤติมิชอบ โดยไม่ปฏิเสธบทความที่มีประเด็นมิชอบในทันทีทันใด
- ดำเนินการตรวจสอบ หรือแสวงหาคำตอบจากผู้ถูกกล่าวหาก่อน หากยังไม่พอใจต่อคำตอบที่ได้รับให้สอบถามหัวหน้าหรือคณะบุคคลที่เกี่ยวข้อง (ซึ่งในบางครั้งอาจเป็นหน่วยงานที่ออกกฎระเบียบ) เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง
- ดำเนินการตามข้อกำหนดในจริยธรรมการตีพิมพ์อย่างเคร่งครัด
- การดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงเป็นไปอย่างถูกต้องตามหลักเหตุผล โดยไม่มีส่วนได้ส่วนเสียในบทความนั้นๆ
การรับรองความถูกต้องของผลงานทางวิชาการ
- เมื่อมีการรับรู้ว่ามีความไม่ถูกต้องเกิดขึ้นกับบทความที่ตีพิมพ์ไปแล้ว รวมถึงมีเนื้อหาบางส่วนที่อาจนำไปสู่ความเข้าใจผิด หรือเป็นรายงานที่บิดเบือนข้อเท็จจริง บรรณาธิการต้องแก้ไขในทันที
- หากปรากฎการประพฤติทุจริตภายหลังการดำเนินการตรวจสอบแล้ว บรรณาธิการต้องดำเนินการเพิกถอนบทความนั้นด้วยความชัดเจนที่สามารถพิสูจน์ได้ ทั้งนี้การเพิกถอนบทความจะต้องให้ผู้อ่านและระบบฐานข้อมูลอื่นๆทราบด้วย
ความสัมพันธ์กับเจ้าของวารสารและสำนักพิมพ์
- บรรณาธิการ และกองบรรณาธิการวารสารดำเนินการอยู่บนพื้นฐานความเป็นอิสระ การพิจารณาตัดสินใจเกี่ยวกับการรับบทความเพื่อตีพิมพ์ ยึดคุณภาพและความเหมาะสมกับผู้อ่านมากกว่าผลตอบแทนทางการเงินหรือการเมือง
ประเด็นพิจารณาที่เกี่ยวข้องในเชิงพาณิชย์
- ไม่ตีพิมพ์การโฆษณาที่อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิด
- การนำบทความเดิมมาพิมพ์ใหม่นั้น ต้องให้คงลักษณะเดิมทุกประการยกเว้นหากจะมีการเพิ่มเติมส่วนที่แก้ไข
ผลประโยชน์ทับซ้อน
- บรรณาธิการจะต้องไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนกับผู้นิพนธ์ ผู้ประเมินบทความ หรืออื่นๆ ที่จะทำให้ผู้ประเมินไม่สามารถประเมินและให้ข้อเสนอแนะได้อย่างอิสระได้
กระบวนการจัดการกับข้อร้องเรียนที่มีต่อบรรณาธิการที่มีการส่งมาให้คณะกรรมการจริยธรรมการตีพิมพ์
- ข้อร้องเรียนของ ผู้นิพนธ์ ผู้อ่าน ผู้ประเมิน บรรณาธิการจะดำเนินการส่งให้คณะกรรมการจริยธรรมการตีพิมพ์พิจารณา
- ขั้นตอนการร้องเรียน ต้องร้องเรียนไปที่บรรณาธิการอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร หากข้อร้องเรียนไม่ได้รับการแก้ไขเป็นที่น่าพอใจ ก็สามารถยื่นข้อร้องเรียนนั้นต่อคณะกรรมการต้นสังกัดของบรรณาธิการได้
- ข้อร้องเรียนที่ผ่านขั้นตอนการร้องเรียนต่อวารสารเท่านั้นจึงจะสามารถส่งต่อมาที่คณะกรรมการจริยธรรมการตีพิมพ์ได้
- คณะกรรมการจริยธรรมการตีพิมพ์รับข้อร้องเรียนและจะพิจารณาข้อร้องเรียนให้แล้วเสร็จโดยไม่ล่าช้า
- คณะกรรมการจริยธรรมการตีพิมพ์จะไม่พิจารณาการร้องเรียนเกี่ยวกับเนื้อหาของการตัดสินตีพิมพ์บทความของบรรณาธิการ (แต่จะพิจารณากระบวนการ) หรือข้อวิจารณ์เกี่ยวกับเนื้อหาในบทบรรณาธิการ
- คณะกรรมการจริยธรรมการตีพิมพ์จะไม่พิจารณาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้าการเผยแพร่เอกสารมาตรฐานทางจริยธรรมนี้