ผลของโปรแกรมสร้างเสริมการรับรู้ภาวะสุขภาพเพื่อป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง ในผู้ป่วยความดันโลหิตสูงที่ควบคุมไม่ได้

ผู้แต่ง

  • วัลลภา ดิษสระ วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี นครศรีธรรมราช คณะพยาบาลศาสตร์ สถาบันพระบรมราชชนก
  • บุญประจักษ์ จันทร์วิน วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี นครศรีธรรมราช คณะพยาบาลศาสตร์ สถาบันพระบรมราชชนก

คำสำคัญ:

พฤติกรรมสุขภาพ, โรคหลอดเลือดสมอง, ความดันโลหิตสูง, การรับรู้ภาวะสุขภาพ

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้เป็นการศึกษากึ่งทดลอง (Quasi-experimental research) แบบสองกลุ่ม วัดก่อนและหลัง (Two-group pretest-posttest design) มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของโปรแกรมสร้างเสริมการรับรู้ภาวะสุขภาพต่อพฤติกรรมสุขภาพและระดับความดันโลหิตของผู้ป่วยความดันโลหิตสูงที่ควบคุมไม่ได้ กลุ่มตัวอย่างคือผู้ป่วยความดันโลหิตสูงที่ควบคุมไม่ได้ กลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม กลุ่มละ 32 คน โดยกลุ่มทดลองได้รับโปรแกรมสร้างเสริมการรับรู้ภาวะสุขภาพต่อเนื่อง 12 สัปดาห์ ส่วนกลุ่มควบคุมได้รับ การดูแลตามปกติเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) โปรแกรมสร้างเสริมการรับรู้ภาวะสุขภาพเพื่อป้องกันโรคหลอดเลือดสมองในผู้ป่วยความดันโลหิตสูงที่ควบคุมไม่ได้ 2) แบบสอบถามข้อมูลส่วนบุคคล แบบสอบถามข้อมูลสุขภาพ 3) แบบสอบถามพฤติกรรมในการป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง ตรวจสอบความตรงตามเนื้อหาโดยผู้เชี่ยวชาญได้ดัชนีความตรงตามเนื้อหาเท่ากับ 1.0 และทดสอบความเที่ยงได้ค่าสัมประสิทธิ์แอลฟาของครอนบาคเท่ากับ 0.92  และวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนาและสถิติทดสอบ t-test

ผลการวิจัย: พบว่า หลังได้รับโปรแกรมกลุ่มทดลองมีคะแนนพฤติกรรมสุขภาพเพื่อป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง โดยรวมเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (Mean = 4.26, S.D. = 0.58) เมื่อเทียบกับก่อนรับโปรแกรม (Mean = 2.95, S.D. = 1.02) และมากกว่ากลุ่มควบคุม (Mean = 2.84, S.D. = 0.36) โดยมีค่าความแตกต่างเฉลี่ย (Mean Difference) เท่ากับ 2.18 (p = .002) นอกจากนี้ระดับความดันโลหิตทั้งค่าความดันโลหิตช่วงบน (Systolic blood pressure : SBP)  และความดันโลหิตช่วงล่าง (Diastolic blood pressure : DBP) ของกลุ่มทดลองลดลงอย่างมีนัยสำคัญ สรุปได้ว่า โปรแกรมสร้างเสริมการรับรู้ภาวะสุขภาพสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ และลดระดับค่าความดันโลหิตของผู้ป่วยความดันโลหิตสูงที่ควบคุมไม่ได้ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พยาบาลวิชาชีพหรือบุคลากรสาธารณสุขในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) หรือคลินิกโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการวางแผนดูแลผู้ป่วยความดันโลหิตสูง ที่ควบคุมไม่ได้ เพิ่มการรับรู้ความเสี่ยงของตนเองและปรับพฤติกรรมสุขภาพ เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดสมองในระยะยาว

เอกสารอ้างอิง

World Stroke Organization. Leading global action on stroke. [Internet]. 2024 [cited 2024 Dec 1]. Available from: https://www.world-stroke.org/

กองโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. รายงานประจำปี 2565 โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง.(E-Book/ PDF) [อินเตอร์เน็ต]. 2567 [เข้าถึงเมื่อ 21 ธ.ค. 2567]. เข้าถึงได้จาก: http://www.thaincd.com/document/file/download/paper-manual_NCD_2565.pdf

กระทรวงสาธารณสุข. ประชากร 35 ปีขึ้นไปได้รับการคัดกรองและเสี่ยงต่อโรคความดันโลหิตสูง 2564-2566 [อินเตอร์เน็ต]. 2566 [เข้าถึงเมื่อ 12 ธ.ค.2567]. เข้าถึงได้จาก: https://hdcservice.moph.go.th

กระทรวงสาธารณสุข. อัตราป่วยด้วยโรคหลอดเลือดสมอง 2564-2566. [อินเตอร์เน็ต]. 2567 [เข้าถึงเมื่อ 12 ธ.ค.2567]. เข้าถึงได้จาก: https://hdcservice.moph.go.th/

สมบัติ มุ่งทวีพงษา. โรคหลอดเลือดสมองและประสาทวิทยาวิกฤต. พิมพ์ครั้งที่ 3. ปทุมธานี: สำนักพิมพ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์; 2563.

สถาบันประสาทวิิทยา กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข. แนวทางการรักษาพยาบาลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองสำหรับพยาบาลทั่วไป. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ: ธนาเพรส; 2565.

World Health Organization. Hypertension [Internet]. 2021 [cited 2025 Jul 12]. Available from: https://www.who.int/news-room/fact-sheets/detail/hypertension.

สมาคมความดันโลหิตสูงแห่งประเทศไทย. แนวทางรักษาโรคความดันโลหิตสูง ในเวชปฏิบัติทั่วไป พ.ศ.2567 [อินเตอร์เน็ต]. 2567 [เข้าถึงเมื่อ 12 มิ.ย. 2568]. เข้าถึงได้จาก: https://www.thaihypertension.org/guideline.html

กองยุทธศาสตร์และแผนงาน กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. รายงานประจำปี 2566. สำนักพิมพ์อักษรกราฟฟิคแอนด์ดีไซน์: กรุงเทพฯ; 2567.

World Health Organization. Cardiovascular diseases [Internet]. 2024 [cited 2024 Dec 20]. Available from: http://ish-world.com/dowload/pdf/ global_brief_hypertension.pdf

Forouzanfar MH, Liu P, Roth GA, Ng M, Biryukov S, Marczak L, et al. Global burden of hypertension and systolic blood pressure of at least 110 to 115 mmHg, 1990-2015. JAMA 2017;317:165-82. doi:10.1001/jama.2016.19043.

ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข.รายงานมาตรฐานโรคไม่ติดต่อที่สำคัญ [อินเทอร์เน็ต]. 2567 [เข้าถึงเมื่อ 12 ธ.ค.2567]. เข้าถึงได้จาก:https://hdcservice.moph.go.th/hdc/main/index_k.php.

Williams B, Mancia G, Spiering W, Rosei EA, Azizi M, Burnier M, et al. 2018 ESC/ESH Guidelines for the management of arterial hypertension. Eur Heart J 2018;39:3021–104.

สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช. ผู้ป่วยเบาหวาน ความดันโลหิตสูงที่ขึ้นทะเบียนได้รับการประเมินโอกาสเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด [อินเทอร์เน็ต]. 2565 [เข้าถึงเมื่อ 20 ธ.ค. 2567]. เข้าถึงได้จาก: https://hdc.moph.go.th/nst/public/kpi/9/2022.

Rogers RW. A Protection Motivation Theory of Fear Appeals and Attitude Change1. J Psychol 1975;91:93-114. doi: 10.1080/00223980.1975.9915803

Rogers RW. Cognitive and physiological processes in fear appeals and attitude change: A revised theory of protection motivation. In: Cacioppo JT, Petty RE, editors. Social psychophysiology: A sourcebook. New York: Guilford; 1983. p.153-176.

สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช. ผู้ป่วยเบาหวาน ความดันโลหิตสูงที่ขึ้นทะเบียนได้รับการประเมินโอกาสเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด [อินเตอร์เน็ต]. 2566 [เข้าถึงเมื่อ 10 ม.ค. 2567]. เข้าถึงได้จาก: https://hdc.moph.go.th/nst/public/standard-subcatalog/b2b59e64c4e6c92d4b1ec16a599d882b.

ศิรินทรา ด้วงใส, ทิพมาส ชิณวงศ์. ผลของโปรแกรมสนับสนุนการจัดการตนเองตามแบบ 5 เอ ต่อพฤติกรรมการจัดการตนเองในผู้ป่วยความดันโลหิตสูงที่ควบคุมไม่ได้. วารสารพยาบาลสงขลานครินทร์ 2564;41:74-85.

Best J. Research in education. 3rded. Englewood cliffs, New Jersey: Prentice-Hall; 1997

กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กองโรคไม่ติดต่อ. สื่อมัลลติมิเดีย [อินเตอร์เน็ต]. 2567 [เข้าถึงเมื่อ 21 ธ.ค.2567]. เข้าถึงได้จาก: https://www.ddc.moph.go.th/dncd/publishvdo.php?vdo

สุภลักษณ์ ศรีสุภะ, วรรณภา เถื่อนลือชัย. ผลของโปรแกรมพัฒนาพฤติกรรมป้องกันโรคหลอดเลือดสมองของผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง อำเภอเฝ้าไร่ จังหวัดหนองคาย. วารสารวิจัยสุขภาพโรงพยาบาลและชุมชน 2563;1:125-36.

Fu SN, Dao MC, Wong CKH, Cheung BMY. Knowledge and practice of home blood pressure monitoring 6 months after the risk and assessment management program: does health literacy matter. Postgrad Med J 2022;98:610–6.

Green LW, Kreuter MW. Health program planning: An educational and ecological approach. 4th ed. New York: McGraw-Hill; 2005.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-08-30

รูปแบบการอ้างอิง

1.
ดิษสระ ว, จันทร์วิน บ. ผลของโปรแกรมสร้างเสริมการรับรู้ภาวะสุขภาพเพื่อป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง ในผู้ป่วยความดันโลหิตสูงที่ควบคุมไม่ได้ . J Health Sci BCNSP [อินเทอร์เน็ต]. 30 สิงหาคม 2025 [อ้างถึง 27 ธันวาคม 2025];9(2):e278592. available at: https://he01.tci-thaijo.org/index.php/bcnsp/article/view/278592

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย