การศึกษารูปแบบการคัดแยกผู้ป่วยฉุกเฉินก่อนนำส่งโรงพยาบาลของทีมผู้ปฏิบัติงานการแพทย์ฉุกเฉินองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอำเภอโพธิ์ทอง จังหวัดอ่างทอง
คำสำคัญ:
ผู้ป่วยฉุกเฉิน , การคัดแยกผู้ป่วยฉุกเฉิน, ทีมผู้ปฏิบัติงานการแพทย์ฉุกเฉินบทคัดย่อ
คุณภาพการคัดแยกผู้ป่วยอุบัติเหตุฉุกเฉินมีความจำเป็นที่จะต้องถูกต้องและมีความคลาดเคลื่อนน้อยที่สุด ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลตามระดับความเร่งด่วนที่แท้จริง งานวิจัยนี้จัดทำขึ้นเพื่อศึกษารูปแบบการคัดแยกผู้ป่วยฉุกเฉินก่อนนำส่งโรงพยาบาลของผู้ปฏิบัติงานการแพทย์ฉุกเฉินองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอำเภอโพธิ์ทอง กลุ่มตัวอย่างเป็นอาสาสมัครฉุกเฉินการแพทย์อำเภอโพธิ์ทอง จังหวัดอ่างทอง จำนวน 60 คน ที่เลือกแบบเจาะจงจากหน่วยปฏิบัติการ 10 หน่วย เครื่องมือที่ใช้การวิจัย ได้แก่ แบบทดสอบการคัดแยกผู้ป่วยฉุกเฉินก่อนนำส่งโรงพยาบาลของทีมอาสาสมัครฉุกเฉินการแพทย์ โดยด้านความรู้และด้านทักษะมีค่าความเชื่อมั่น เท่ากับ 0.78 และ 0.81 ตามลำดับ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการใช้สถิติเชิงพรรณนา และสถิติ Paired Samples t-test
ผลการวิจัย: พบว่าค่าเฉลี่ยคะแนนความรู้เกี่ยวกับการคัดแยกผู้ป่วยฉุกเฉินก่อนนำส่งโรงพยาบาล พบว่า ก่อนและหลังการอบรม เท่ากับ 11.85 (S.D.= 2.13) และ 17.97 (S.D.= 1.13) ตามลำดับ ค่าเฉลี่ยคะแนนทักษะเกี่ยวกับการคัดแยกผู้ป่วยฉุกเฉินก่อนนำส่งโรงพยาบาล พบว่า ก่อนและหลังการอบรมเท่ากับ 11.85 (S.D.= 2.13) และ 17.53 (S.D.= 0.95) ภายหลังจากที่ได้รับการอบรม กลุ่มตัวอย่างมีค่าเฉลี่ยผลต่างของคะแนนความรู้และทักษะการคัดแยกผู้ป่วยฉุกเฉินก่อนนำส่งโรงพยาบาล สูงกว่าก่อนการอบรมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ดังนั้น รูปแบบการคัดแยกผู้ป่วยฉุกเฉินก่อนนำส่งโรงพยาบาลของทีมผู้ปฏิบัติงานการแพทย์ฉุกเฉินองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอำเภอโพธิ์ทอง จังหวัดอ่างทอง ช่วยให้ ทีมผู้ปฏิบัติงานการแพทย์มีความรู้และทักษะเพิ่มขึ้น ซึ่งเชื่อว่าน่าจะช่วยให้ผู้รับบริการได้รับการบริการการแพทย์ฉุกเฉินในระยะก่อนถึงโรงพยาบาลตามระดับความเร่งด่วนอย่างมีคุณภาพและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
เอกสารอ้างอิง
สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ. คู่มือแนวทางการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ เกณฑ์ และวิธี ปฏิบัติการคัดแยกผู้ป่วยฉุกเฉินและจัดลำดับการบริบาล ณ ห้องฉุกเฉินตามเกณฑ์ที่คณะกรรมการการแพทย์ฉุกเฉินกำหนด. พิมพ์ครั้งที่ 3. นนทบุรี; 2560.
พนอ เตชะอธิก, ปริวัฒน์ ภู่เงิน. กระบวนการคัดแยกผู้ป่วยในห้องฉุกเฉิน : Essential knowledge in emergency care. ขอนแก่น: สำนักพิมพ์คลังนานา; 2557.
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอ่างทอง. รายงานผู้ป่วยฉุกเฉิน ปี พ.ศ. 2565. อ่างทอง: สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอ่างทอง; 2566.
โรงพยาบาลโพธิ์ทอง. รายงานผู้ป่วยฉุกเฉิน ปี พ.ศ. 2565. อ่างทอง: โรงพยาบาลโพธิ์ทอง; 2566.
Yamane T. Statistics, an introductory analysis. 2nd ed. New York: Harper and Row; 1967.
Bloom BS. Learning for mastery. Evaluation comment. Center for the study of instruction program. University of California at Los Angeles; 1986.
Cooper DR, Schindler PS. Business Research Methods. 8th ed. McGraw-Hill Irwin: Boston; 2003.
ประคอง กรรณสูตร. สถิติเพื่อการวิจัยทางพฤติกรรมศาสตร์. กรุงเทพฯ: ภาควิชาวิจัยการศึกษา คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย; 2535.
Polit DF, Beck CT, Owen SV. Is the CVI an acceptable indicator of content validity? Appraisal and recommendations. Res Nurs Health 2007;30:459-67. doi: 10.1002/nur.20199.
ปุณยนุช ปิจนำ. ผลการศึกษาการคัดแยกประเภทผู้ป่วยหน่วยงานอุบัติเหตุและฉุกเฉินโรงพยาบาลวังชิ้น. วารสารการแพทย์และวิทยาศาสตร์ทางคลินิก โรงพยาบาลแพร่ 2563;28:152-62.
ธนิษฐา ยศปัญญา. ประสิทธิผลการพัฒนารูปแบบการคัดแยกประเภทผู้ป่วยฉุกเฉิน โรงพยาบาลดอนตาล จังหวัดมุกดาหาร [อินเตอร์เน็ต]. 2565 [เข้าถึงเมื่อ 5 ม.ค. 2566]. เข้าถึงได้จาก: https://clouddontanhos.com/doc/whitepaper_tanita.pdf
ครองคาย ณ น่าน, เกษร ไชยวุฒิ. การพัฒนาแนวปฏิบัติการคัดแยกผู้ป่วย โดยพยาบาลของหน่วยงานอุบัติเหตุและฉุกเฉิน โรงพยาบาลสันติสุข จังหวัดน่าน [อินเตอร์เน็ต]. 2566 [เข้าถึงเมื่อ 5 ม.ค. 2566]. เข้าถึงได้จาก: https://wwwnno.moph.go.th/nanhealth/index.php/data-service/or-wor-chor/item/download/8081_1f56d8145246506c7d2f61d276e74a3e
ทัศนีย์ บุญเป็ง. รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการการพัฒนาระบบการเชื่อมโยงบริการที่ไร้รอยต่อในการดูแลผู้ป่วยภาวะฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุขและการดูแลต่อเนื่องระดับอำเภอ. เชียงใหม่; 2564.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สรรพสิทธิประสงค์

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิทยาศาสตร์สุขภาพ วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สรรพสิทธิประสงค์ ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สรรพสิทธิประสงค์ และคณาจารย์ท่านอื่นๆ ในวิทยาลัยพยาบาลฯ ความรับผิดชอบเกี่ยวกับบทความแต่ละเรื่องผู้เขียนจะรับผิดชอบของตนเอง
